“แกไม่มีสิทธิ์พูดเงื่อนไขกับฉัน!ถ้าแกไม่เอาเงินมาให้ฉันก่อน ฉันก็ไม่รับรองว่าคุณชายกู่จะได้รับความทุกข์ทรมานอะไร!”
เสียงที่เย็นชานั่นของเหลยเหลาหู่ดังเข้ามาในหู ชุยเต๋อไฉ อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ แต่เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว เขาก็ไม่มีโอกาสให้เลือกเลยด้วยซ้ำ
“เอาเงินให้เขา”
ลังเลตัดสินใจไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง ชุยเต๋อไฉจำเป็นต้องสั่งให้ลูกน้องนำเงินไปให้ แอบตัดสินใจ หลังจากที่รอให้กู่หงเลี่ยงปลอดภัย จะต้องให้จุดจบที่น่าอนาถกับอีกฝ่าย!
เสียงดังปัง ลูกน้องที่ได้รับคำสั่งโยนกระเป๋าที่ใส่เงิน12ล้านออกไปแล้ว
“ไปดูว่าจำนวนถูกต้องไหม”
มุมปากของเหลยเหลาหู่เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย กวักมือเรียกให้ลูกน้องสองคนเข้าไปตรวจสอบ
ลูกน้องสองคนนั้นได้นับคำสั่งของเหลยเหลาหู่ รีบก้าวขึ้นไปสามสี่ก้าวพร้อมเปิดกระเป๋านับจำนวนแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเขาไม่ได้นับกันอย่างคร่าวๆเลย แต่นับทีละกอง ทีละใบ โดยที่ไม่คำนึงเลยว่า12ล้านนี้จะต้องนับถึงเมื่อไหร่!
ภาพฉากนี้ทำให้ชุยเต๋อไฉโกรธขึ้นมาทันที พูดด่าว่า : “เยสเข้ พวกแกจงใจเล่นตุกติกกันใช่ไหม ?นั่นเงิน 12ล้านนะ พวกแกนับกันแบบนี้นับไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ!”
“ไม่นับทีละใบ งั้นจะรู้ได้ไงว่าจำนวนเงินถูกไหม?พี่ใหญ่ของเราบอกไว้แล้ว ขาดไปแม้แต่สตางค์เดียวก็ไม่ได้!”
เหลยเหลาหู่เบะปาก “ถ้าหากแกรู้สึกไม่สบายใจ หันหลังเดินออกไปได้เลย!”
ชุยเต๋อไฉทำท่าทางฮึดฮัดถลึงตาใส่ คิดไม่ถึงอย่างมากว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ได้ กลับว่าก็ต้องอดทนรอให้อีกฝ่ายนับเงินเสร็จ แอบพูดเบาๆว่าอีกหน่อยจะต้องสับไอ้พวกสารเลวกลุ่มนี้ให้เป็นชิ้นๆโยนให้เป็นอาหารของสุนัขแน่นอน!
นี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือก ใครให้กู่หงเลี่ยงอยู่ในกำมือของอีกฝ่ายล่ะ?ต่อให้เขาจะไม่พึงพอใจมากเท่าไหร่ ก็ไม่กล้าบุ่มบ่าม!
เหลยเหลาหู่ทำแบบนี้ แน่นอนว่าได้รับแจ้งจากเย่เทียน จงใจยืดเวลา คิดอยากจะรอให้ฮาชิโมโตะ มินาโตะพาคนมา
15นาทีผ่านไปเร็วมาก ชุยเต๋อไฉที่สูบบุหรี่ติดต่อกันหลายมวนความอดทนก็หมดลงแล้ว อดไม่ได้ที่จะเร่งขึ้นมา “แกนับเงินกันเสร็จแล้วหรือยัง?อย่ามาเสียเวลากันอยู่ที่นี่!”
“พอแล้วๆ”
เห็นชุยเต๋อไฉที่โกรธจัด เหลยเหลาหู่ก็รู้ว่าไม่สามารถยืดเยื้อด้วยวิธีการนี้ได้แล้ว หลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวแล้วลงมือจัดการ พยักหน้าให้กับลูกสมุนที่นับเงินอยู่สองคนนั้นทันที ให้สัญญาณพวกเขาเก็บเงินและไปยืนอีกฝั่งหนึ่ง
“ตอนนี้แกรับเงินไปแล้ว ควรปล่อยคนออกมาแล้วหรือเปล่า?”
ในเวลานี้ อารมณ์ที่หงุดหงิดของชุยเต๋อไฉก็บรรเทาลงมาหน่อยแล้ว ในใจลึกๆรู้สึกว่ามันผิดปกติอย่างมาก กลับว่าไม่แน่ใจว่าเหลยเหลาหู่กำลังเล่นลูกไม้อะไรกันแน่
“หากพูดตามเหตุผลไม่มีปัญหา แต่ว่า……”
เหลยเหลาหู่ลูบคาง พูดพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ว่า : “ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว!”
“เปลี่ยนใจ?”
ชุยเต๋อไฉตกตะลึง ความโกรธที่เพิ่งจะบรรเทาลงก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง พูดตะคอกว่า : “แกแม่งพูดไม่เป็นคำพูด?”
“อย่าพูดซะไม่น่าฟังขนาดนั้นสิ เดิมทีถ้าแกให้คนของฉันนับเงิน 12ล้านให้ครบ งั้นฉันปล่อยคุณชายของพวกแกแน่นอน แต่แกดันมาเร่งฉัน ทำให้ฉันสงสัยอย่างหนักว่าในเงินนี้จะเป็นกลอุบาย ไม่แน่อาจจะยัดเงินปลอมแล้ว”
เหลยเหลาหู่หัวเราะเหอะๆ พูดเหตุผลด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า: “เพื่อความปลอดภัย แกไปเอาเงินมาอีกสามล้าน ขอเพียงแค่แกเอาเงินมาอีกสามล้าน ฉันรับรองว่าจะปล่อยตัวคุณชายของพวกแกแน่นอน!”
ชุยเต๋อไฉตกตะลึง ระเบิดความโกรธที่กว่าจะระงับไว้ได้ออกมาเลย “แกแม่งรนหาที่ตาย!จู่ๆกล้ามาเล่นฉัน!”
ตอนนี้เรียกว่าเขาโมโหถึงขีดสุดแล้ว จะมีความคิดไปพูดไร้สาระกับเหลยเหลาหู่ที่ไหนกันล่ะ มือใหญ่ๆยกสูงขั้น พวกกุ๊ยแก๊งหวงจี๋ที่มากับเขาต่างก็ดึงอาวุธจำพวกมีด ท่อเหล็กออกมาจากตัว มีแนวโน้มที่คิดอยากจะทำสงคราม
“ทำไม?พวกแกยังคิดที่จะลงมือแย่งชิงคนเหรอ?”
เหลยเหลาหู่จะขี้ขลาดได้ที่ไหนล่ะ นัยน์ตาสาดส่องเจตนาทำสงครามที่รุนแรง พูดอย่างยิ้มเยาะว่า : “คิดว่าพวกเรานั่นอ่อนแองั้นเหรอ?สหาย หยิบอาวุธมาต่อสู้กับศัตรูโดยเร็ว ให้พวกเขาได้รู้ว่าเราไม่ใช่คนที่จะรังแกกันได้ง่ายๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่