ในโรงแรมที่เหลยเหลาหู่พักอยู่
อูชิงเจ๋อมองเหลยเหลาหู่ที่นั่งตรงข้ามและคลี่ยิ้ม ยิงตรงเข้าประเด็น “พี่ใหญ่เหลย ขอเพียงนายช่วยให้ฉันขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ ฉันรับรองว่าจะตกรางวัลให้นายอย่างงามแน่นอน!”
เหลยเหลาหู่ชะงักอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะรีบตั้งสติ มองอูชิงเจ๋อด้วยสีหน้าประหลาดและถามอย่างฉงน “พี่ใหญ่อู ไม่ทราบว่าที่นายพูดมันหมายความว่ายังไง”
“นายยังไม่รู้อีกเหรอ”
อูชิงเจ๋อผงะ ก่อนจะรู้ตัวในบัดดล และอธิบายด้วยรอยยิ้มกว้าง “เมื่อคืนในแก๊งหวงจี๋ได้หารือกันเรียบร้อยแล้ว จะมีการถอนพื้นที่ใต้อาณัติของฉันกับกู่เจิ้นเจียง ทำการแย่งชิงกันได้ตามใจชอบภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากหนึ่งสัปดห์นี้ ใครมีพื้นที่ใต้อาณัติเยอะกว่ากัน ใครก็คือหัวหน้าใหญ่คนใหม่ของแก๊งหวงจี๋!”
พี่ใหญ่เหลย ฉันหวังว่าคนของนายจะออกโรงทั้งหมด ต่อหน้าเหมือนจะช่วยกู่เจิ้นเจียง แต่ความจริงแล้วเพื่อครอบงำอาณัติของเขา”
เหลยเหลาหู่ถึงบางอ้อในบัดดล แม้หน้าตาจะดูไม่เต็มใจ แต่ในใจยิ้มแก้มปริ
เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง กระทั่งได้รับคำสั่งจากเย่เทียนมานานแล้วว่าไม่ว่าใครมาหา ให้เออออไปก่อน พยายามได้พื้นที่มาให้ได้มากที่สุด ถึงเวลาจะได้มีกำไรจากทั้งสองฝ่าย!
“พี่ใหญ่อู อย่าหาว่าฉันหน้าเงินเลยนะ ไม่ทราบว่าฉันจะได้ประโยชน์อะไรเหรอ?”
อูชิงเจ๋อพูดด้วยท่าทีจริงจัง “พี่ใหญ่เหลย เรื่องนี้นายวางใจได้ ขอแค่นายช่วยฉันครั้งนี้ หลังจากนี้นายมีปัญหาอะไรฉันจะช่วยสุดความสามารถ”
เหลยเหลาหู่จะเชื่อคำพูดตลบตะแลงของเขาได้ยังไง จึงส่ายหัวและตอบ “พี่ใหญ่อู นั่นเป็นเรื่องในอนาคต ถ้าถึงเวลานายไม่ทำตามคำพูด แต่นายก็อยู่บนตำแหน่งหัวหน้าใหญ่แล้วไม่ใช่หรือ?”
“พี่ใหญ่เหลย ฉันเข้าใจสิ่งที่นายจะสื่อ นี่คือความจริงใจของฉัน!”
เห็นได้ชัดว่าอูชิงเจ๋อคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาโบกมือให้ลูกน้องด้านหลังทันที ลูกน้องรีบยกหีบขึ้นมาสองใบและกางออกบนโต๊ะ
ต้องยอมรับว่า ของในหีบโลกีย์มาก แต่ก็มีพลังพอให้สะท้าน
เงินดอลลาร์สองลังวางเรียงรายอยู่ตรงหน้าเหลยเหลาหู่อย่างเป็นระเบียบ หากแลกเป็นเงินประเทศจีน ก็เกือบถึงหลักสิบล้าน!
“พี่ใหญ่เหลย นี่คือค่ามัดจำ ขอเพียงฉันได้ขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ จะมีให้อีกส่วน”
เหลยเหลาหู่ใจกระตุกวูบ รำพึงในใจว่าเมืองจินสมเป็นเมืองหลวงของประเทศจีนจริงๆ อูชิงเจ๋อควักยี่สิบล้านออกมาได้ง่ายดาย โดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ!
แน่นอน เขาไม่เกรงใจอูชิงเจ๋อหรอก เขาสั่งลูกน้องให้เก็บเงินไว้ และเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง “ในเมื่อพี่ใหญ่อูมีความจริงใจขนาดนี้ ธุรกิจนี้ฉันจะร่วมด้วย!”
“ดี! พี่ใหญ่เหลย หวังว่าเราจะร่วมงานกันอย่างมีความสุข”
เมื่อได้รับคำตอบยืนยัน อูชิงเจ๋อหัวเราะเสียงใส แต่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก อ้างว่ามีธุระต้องไปจัดการ แล้วรีบพาลูกน้องกลับไป
ทว่าไม่ถึงสิบนาที กู่เจิ้นเจียงพาลูกน้องมาหาอีกแล้ว ส่วนคนที่ติดตามอยู่ข้างกายเขาก็คือกู่หงเลี่ยงที่โดนเหลยเหลาหู่ลักพาตัวก่อนหน้านี้ ที่สำคัญที่สุดคือในมือเขาถือหีบมาสองใบเช่นกัน!
“แหม พี่ใหญ่กู่ ลมอะไรหอบนายมาล่ะ? เชิญด้านในเร็ว!”
เหลยเหลาหู่ชำเลืองหีบใหญ่สองใบนั้น และผายมือทำท่าเชิญใส่กู่เจิ้นเจียงอย่างสนิทสนม
“พี่ใหญ่เหลย เกรงใจเกินไปแล้ว”
กู่เจิ้นเจียงไม่กล้าเต๊ะท่าต่อหน้าเหลยเหลาหู่ อย่างแรก ไม่ว่ายังไงเหลยเหลาหู่ก็เป็นคนของเย่เทียน ของตระกูลเย่ เขาไม่กล้าหาญขนาดนั้น อย่างสอง จนบัดนี้ยังหาตัวชุยเต๋อไฉไม่เจอ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาคุมครอบครัวของชุยเต๋อไฉอยู่ ไม่แน่ป่านนี้กบฏกันแล้วก็ได้
“พี่ใหญ่เหลย ที่ฉันมาในครั้งนี้มีอยู่สองเรื่อง”
กู่เจิ้นเจียงไม่คิดจะพูดมากกับเหลยเหลาหู่ นั่งลงปุ๊บก็ตรงเข้าประเด็นเลย
“เรื่องอะไรนายถึงต้องมาด้วยตัวเองล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่