ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 811

มองดูจี้เยียนหรันที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทดลอง เย่เทียนก็เกิดความห่วงใยขึ้นมาในใจ

ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันแค่คืนเดียวเท่านั้น แต่เย่เทียนก็ดูออก ว่าเมื่อคืนจี้เยียนหรันคงจะไม่ได้นอนหลับพักผ่อนดีเสียเท่าไร ขอบตาบวมแดงเหมือนร้องไห้เป็นเวลานาน จนเวลาผ่านไปหนึ่งคืนก็ยังไม่หายแดง

เรื่องราวก็ดำเนินมาถึงจุดนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่เขาก็ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้

“หวังว่าเรื่องในวันนี้จะดำเนินไปด้วยดี!”

เย่เทียนบ่นพึมพำออกมา แล้วก็ละสายตาออกไปจากหน้าประตูห้องทดลอง แล้วก็มองดูรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง

ที่บริเวณประตูของห้องทดลองนั้น พวกของหยวนเข่อเหวยหลายคนก็มองดูคุณย่าเย่ที่อยู่ด้านหน้าด้วยสีหน้าแปลกๆ ต่อให้ฝันไปก็ยังนึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องที่ต้องจัดการในวันนี้จะทำให้คุณย่าเย่ที่ไม่เคยออกมาให้ใครเห็นง่ายๆ ต้องออกมาด้วย

เฉินหวั่นชิงก็ยืนอยู่ข้างๆ คุณย่าเย่ ในมือก็ถือกล่องล็อกรหัสอยู่ ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่ามีสารพันธุกรรมอยู่ด้านใน

กล่องล็อกรหัสนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ ด้านในติดตั้งระเบิดขนาดเล็กไว้ ถ้าพยายามออกแรงงัดแงะกล่องนี้ล่ะก็ ระเบิดก็จะทำงาน แล้วก็จะระเบิดจนสารพันธุกรรมที่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากจนแหลกสลายไป

“เจ้าบ้านเย่!”

เนื่องจากฐานะของคุณย่าเย่ไม่เหมือนคนทั่วไป หยวนเข่อเหวยก็เลยไม่กล้าที่จะมองข้ามตัวเธอไป

คุณย่าเย่พยักหน้าเบาๆ ถือว่าได้ทักทายกันแล้ว

พอได้รับอนุญาต สายตาของหยวนเข่อเหวยก็ไปตกลงที่ตัวของเฉินหวั่นชิง พูดสอบถามว่า “คุณเฉิน สารพันธุกรรมอยู่ในกล่องนี้ใช่ไหม?”

“อืม งานต่อจากนี้ ก็ส่งมอบให้พวกคุณแล้วกัน”

เฉินหวั่นชิงพยักหน้า เดินเข้าไปไม่กี่ก้าวแล้วเปิดกล่องออกมา เผยให้เห็นสารพันธุกรรมด้านใน

คนในเหตุการณ์ต่างก็พากันมองไป เห็นว่าด้านในกล่องที่ค่อนข้างใหญ่มีแค่หลอดทดลอง5หลอดที่บรรจุของเหลวสีเขียวไว้

ไม่ทันให้หยวนเข่อเหวยตอบสนองกับสิ่งที่เห็นเลย คุณย่าจองล้างจองผลาญก็เอ่ยขึ้นมาอย่างสีหน้าปกติว่า “ไม่ว่าจะเป็นสารพันธุกรรม หรือว่าเย่เทียน ฉันหวังว่าทุกคนจะปกป้องอย่างสุดกำลัง ถ้าสองสิ่งนี้มีสิ่งใดถูกทำลายไป พวกคุณก็ไม่ต้องมีชีวิตต่อไปแล้ว”

พอพูดออกมาดังนี้ ทุกคนในเหตุการณ์ก็ผงะขึ้นในใจ หยวนเข่อเหวยที่เป็นหัวหน้าก็ยิ่งยิ้มแหยๆ ออกมา แล้วก็พูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “คุณย่าเย่ครับ วางใจเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นสารพันธุกรรม หรือว่าเย่เท่ยีน ถ้ามีสิ่งใดจะถูกทำลายไป ต้องข้ามศพของพวกเราไปก่อน!”

ทันใดนั้น บรรยากาศก็อึมครึมขึ้นมาทันที ทุกคนในนี้ล้วนรู้กันดี ว่าหนทางนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องสบายๆ เกรงว่าต่อให้มีอันตรายมากมายเพียงใด ใครก็ไม่อาจจะรับรองได้ว่าตนเองจะรอดตายไปได้!

“หวังว่าพวกคุณจะปลอดภัยกันทุกคน”

คุณย่าเย่พยักหน้า แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

หยวนเข่อเหวยยกมือขึ้น ลูกน้องที่คุยกันไว้แล้วก็เดินขึ้นหน้าไป ใช้กุญแจมือล็อกกล่องนั้นไว้ เตรียมจะจากไป จี้เยียนหรันที่อยู่ข้างๆ อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมา ในใจสับสนอย่างเธอก็พยายามรักษาน้ำเสียงที่เป็นปกติไว้ แล้วพูดว่า “แล้ว เย่เทียนล่ะคะ?”

ขณะที่พูด จี้เยียนหรันก็เงยหน้ามองเฉินหวั่นชิงอย่างระมัดระวัง ราวกับกลัวว่าเฉินหวั่นชิงจะสังเกตอะไรได้เสียอย่างนั้น

เฉินหวั่นชิงขมวดคิ้วเบาๆ มองไปที่จี้เยียนหรัน แล้วก็มองเซวหมานจื่อกับหยุนเหมิงหยานที่อยู่ข้างๆ เธอ แล้วก็ไม่ได้สงสัยอะไร

หยวนเข่อเหวยไม่ได้เข้าใจเรื่องซับซ้อนอะไรนี้หรอก ข้างหูได้ยินคำพูดของจี้เยียนหรันดังเข้ามา ก็เลยหันหน้าไปยิ้มเบาๆ พูดว่า “เขาอยู่บนรถเพื่อระวังพื้นที่รอบๆ ตอนนี้ยังมีเวลา พวกคุณจะเข้าไปคุยอะไรกับเข้าหน่อยไหม?”

ถึงแม้จะแยกจากการทะเลาะกันมาคืนหนึ่งแล้ว แต่จี้เยียนหรันจองล้างจองผลาญก็ยังไม่สามารถหยุดความคิดในหัวตนเองไม่ได้ ความยากของภารกิจในวันนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว เธออยากจะไปเจอเย่เทียน แต่ก็กลัวที่จะได้เจอเย่เทียน กลัวว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน!

พอคิดถึงจุดนี้ สุดท้ายจี้เยียนหรันก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป ด้วยกลัวว่าเย่เทียนจะอดปล่อยความรู้สึกที่กดดันออกมาไม่ได้ แล้วก็เศ้ราโศกเสียใจ

“ฉัน ไม่ไปแล้วดีกว่า ฝากไปบอกเขาทีว่า พอเขากลับมาแล้ว ฉันจะเลี้ยงเหล้าเขาเอง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่