แม้ว่า ฟู่จื้อเฉียงและคนอื่นๆ จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องจำนวนคน แต่รอบตัวมารโลหิตก็มีน้ำแข็งหนาคุ้มกันอยู่ พวกเขาไม่สามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมารโลหิตเองก็ไม่ได้เพิกเฉยต่ออีกฝ่ายที่ราวกับเต่า ทั้งตัวของเขาราวกับปืนกลที่ส่งแท่งน้ำแข็งอันแหลมคมออกมาอย่างต่อเนื่องและยิงไปทุกทิศทุกทาง
ไม่ต้องพูดถึงการโจมตี ฟู่จื้อเฉียงและพวกแทบจะเป็นเหมือนเป้าเคลื่อนที่ก็มิปาน และแทบไม่มีความสามารถในการต่อสู้กลับเลย
“ไอ้หยา!”
จู่ๆ เปาโสง ที่บาดเจ็บอยู่ที่แขนก็ถูกแท่งน้ำแข็งแทงเข้าที่ก้นจนมีเลือดไหลออกมาและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่รู้ตัว
หยวนเข่อเหวยที่อยู่ข้างๆเขาก็รีบวิ่งเข้าไปทันทีและลาก เปาโสง ให้ถอยหลังกลับมา ในเวลาเดียวกันเขาก็หยิบโล่ป้องกันตัวออกมาเพื่อต้านทานแท่งน้ำแข็งที่ถูกยิงมาอย่างต่อเนื่อง
ฟู่จื้อเฉียงที่แข็งแกร่งที่สุดในฝูงชนเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน เขาคาดเดาได้คร่าวๆว่ามารโลหิตนั้นทรงพลังอย่างมาก แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า มารโลหิตจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
“ลูกพี่ไอ้สารเลวนั่นยังกล้ามาบอกว่ามารโลหิตเพิ่งเข้าสู่ระดับดิน อาศัยมุมมองของเขาที่มีต่อสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ เวลาแค่ไม่กี่ปีนั้นไม่มีทางเป็นไปไม่ได้!”
ฟู่จื้อเฉียงสาปแช่งอยู่ในใจของเขา กริชสั้นในมือของเขากลายตวัดราวกับมังกรกำลีงว่ายน้ำ และสะท้อนแท่งน้ำแข็งที่แหลมคมออกไปจากตัวโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ
ในใจของเขาย่อมจะหนักอึ้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ล่ะก็ครั้งนี้เขาไหนเลยจะมาจมปลักแบบนี้ไปด้วย?
แม้จะเป็นอ่างนั้น มาถึงตอนนี้เขาเองก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้ และจากสถานการณ์ตอนนี้ เกรงว่าผลลัพธ์จะไม่เพียงแค่พวกเขาไม่มีทางล้มมารโลหิตได้ แต่อาจยังถึงขั้นปล่อยให้มารโลหิตจัดการพวกเขาแทน!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟู่จื้อเฉียงก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และตะโกนด้วยเสียงอันเคร่งขรึม "พวกนายทุกคนอยู่ห่าง ๆ!"
แม้ว่าเขาจะดูอ้วนท้วม แต่เขาก็เป็นถึงรองหัวหน้าในกิลด์ทหารรับจ้าง แล้วจะให้เขาไม่มีความสามารถเลยได้อย่างไร
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะไม่ดังมากนัก แต่กลับส่งผ่านไปยังหูของทุกคนได้อย่างชัดเจน จนทำให้ทุกคนตะลึงไปก่อนจะมองไปที่ ฟู่จื้อเฉียงด้วยสายตาที่ซับซ้อน
ในเวลาเดียวกัน มารโลหิตก็หยุดการโจมตีของแท่งน้ำแข็ง มองไปที่ฟู่จื้อเฉียงอย่างติดตลกและพูดด้วยความสนใจ: "ทำไม? พวกนายรู้สำนึกแล้วหรือไง?”
“แต่ว่า ตอนนี้มันสายไปแล้ว! ต่อให้พวกนายยอมแพ้ ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างออกไป นั่นก็คือพวกนายจะต้องตายไปด้วยกัน!”
มารโลหิตหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ แล้วไม่เห็นทุกคนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
ฟู่จื้อเฉียงสายตาดูเย็นเฉียบ ดวงตาของเขาแคบลงเล็กน้อย เขารู้ดีอย่างยิ่งว่ามารโลหิตไม่ได้แค่ขู่พวกเขากลัวอย่างแน่นอน หากยังไม่มีวิธีรับมือใดๆ มารโลหิตก็จะฆ่าพวกเขาทั้งหมด!
“พวกนายทุกคนถอยออกไปให้หมด! พวกนายอ่อนแอเกินไป ถึงจะมีคนมากกว่านี้ก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ฉันจัดการเอง!”
แม้เขาจะรู้ว่ามารโลหิตนั้นทรงพลัง แต่ ฟู่จื้อเฉียงก็ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีจิตใจสู้รบที่แข็งแกร่งอีกด้วย
แม้ว่าเขาจะอ้วนเตี้ย แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นรองหัวหน้าของกิลด์ทหารรับจ้าง แล้วจะให้เขาไม่มีความสามารถเลยสักนิดได้หรือ?
แต่เดิมพลังของเขาก็มาถึงนักบู๊แดนระดับดินมาหลายปีแล้ว อีกทั้งเขายังใช้ชีวิตอยู่บนเส้นความเป็นความตายมาตลอดทั้งปี หากจะพูดถึงกับในแดนระดับดิน ขาจะต้องสามารถติดอันดับหนึ่งในสิบผู้แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังเป็นแค่แดนระดับดิน เมื่อเผชิญหน้ากับมารโลหิตอันโหดเหี้ยมที่อยู่ในแดนระดับฟ้าเขาก็ย่อมมีความกดดันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ว่า เขาเองก็รู้ดีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเขาพวกนั้นแทบไม่มีประโยชน์อะไร แม้กระทั่งจะทำตัวเป็นหน่วยกล้าตายก็ยังไม่มี นั่นเพราะมีแต่จะไปตายเอาเปล่าๆ แล้วทำไมต้องทำแบบนั้นกันด้วย?
“ผู้อาวุโสฟู่ น้ำใจของคุณฉันรับไว้แล้ว แต่ว่า...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่