ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 836

สายตามองเห็นว่าภายใต้การบัญชาของเจี่ยซือหวี่ งูพิษกลับไม่หวาดกลัวพายุเรียบง่ายอีกแล้ว นี่ทำให้กัวหยวนสีหน้าเคร่งขรึม รีบเปลี่ยนจากปล่อยพลังภายในเป็นโล่ทิพย์ป้องกันกายทันที ปกป้องทั้งตัวตนเองไว้มิดชิดขึ้นมาแล้ว

ตึงๆ!

งูพิษกระแทกอยู่บนโล่ทิพย์ป้องกันกาย ส่งเสียงหนักอึ้งออกมาเป็นระลอก

สีหน้าของกัวหยวนดูแย่ถึงขีดสุดแล้ว ถึงแม้งูพิษพวกนี้จะไม่ได้สร้างอาการบาดเจ็บใดๆ แก่เขา กลับขัดขวางความรวดเร็วในการดำเนินงานของเขาอย่างมากแบบไม่ต้องสงสัย เพิ่มแรงกดดันไม่น้อยให้เขาแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไม่อาจเข้าใกล้เจี่ยซือหวี่ได้ จะสามารถทำร้ายเธอได้อย่างไรกันล่ะ?

นึกถึงตรงนี้ กัวหยวนสีหน้าอึมครึม พัดพับในมือเสียงดังฟึบสะบัดแสงเย็นเฉียบออกมา ภายใต้แสงริบหรี่ยามค่ำคืนสาดเข้าไปทางเจี่ยซือหวี่ดุจสายฟ้าแลบ

เจี่ยซือหวี่ขมวดคิ้ว รีบขยับฝีเท้าออก หลบออกมาทางด้านข้างฉับไว แต่ช่วงสมาธิหลุดสั้นๆ นี้ของเธอ กลับเป็นเวลาที่ขาดการติดต่อกับงูพิษไปด้วย

“โอกาสดี!”

กัวหยวนสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของงูพิษ จึงคว้าโอกาสอันนี้ไว้อย่างว่องไว กระโดดเท้าขึ้นโฉบขึ้นไปทางเจี่ยซือหวี่ราวกับปีศาจ

ระยะห่างระหว่างสองคนอยู่ที่สิบกว่าเมตร แทบจะในชั่วพริบตาเดียวที่กัวหยวนกระโจนมาถึงตรงหน้าเจี่ยซือหวี่ กางพัดพับได้ในมือออกมาโดยตรง ตามองเห็นว่าจะโจมตีบนตัวของเจี่ยซือหวี่ได้แล้ว

เจี่ยซือหวี่ไม่ได้ลนลาน ยกมือขึ้นเล็กน้อย มีงูพิษตัวหนึ่งมุดออกมาจากแขนเสื้อของเธอทันที อ้าปากแบบโมโหกัดเข้าไปยังกัวหยวน

“บ้าเอ๊ย!”

กัวหยวนกลับนึกไม่ถึงว่าเจี่ยซือหวี่ยังจะมาลูกไม้แบบนี้ สบถด่าเสียงต่ำ รีบเปลี่ยนทิศทางการโจมตี โจมตีเข้าไปยังงูพิษแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถึงแม้เขาจะโจมตีไปทีหนึ่งจนโดนเจี่ยซือหวี่เข้าแล้ว แต่ถ้าเขาถูกงูพิษกัดจนเจ็บ ภายใต้การทำงานของพิษงู คนที่พบกับความพ่ายแพ้ไม่ช้าหรือเร็วก็คงเป็นเขา

เจี่ยซือหวี่ไม่สนใจว่ากัวหยวนจะคิดอะไร มองเห็นเขาโจมตีทางงูพิษ ก็รีบถือโอกาสถอยหลังไปหลายก้าว ดึงระยะห่างระหว่างสองคนออกมาอีกครั้ง ควบคุมงูพิษไว้แล้วเริ่มโจมตีไปยังกัวหยวน

ทันใดนั้น การต่อสู้ของสองฝ่ายกลับสู่สภาพแรกเริ่มสุดอีกครั้ง อยากจะตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นแล้ว

นี่คือเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้ หลังจากรู้ชัดถึงสถานะของกัวหยวน เจี่ยซือหวี่ยิ่งกลัวจะไปกระทบคนไม่รู้เรื่องเข้าอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ การต่อสู้ระหว่างสองคนคงสิ้นสุดไปตั้งนานแล้ว จะจมสู่สถานการณ์ต่างฝ่ายไม่ยอมกันแบบนี้ได้ที่ไหน?

การวิ่งเป็นกิจกรรมออกกำลังกายอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะแกร่งแบบเย่เทียนคนดุเดือดประเภทนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ใช้ชี่ทิพย์ ก็เหนื่อยหายใจหอบอย่างเลี่ยงได้ยากเช่นกัน

เห็นเพียงเขาใช้มือหนึ่งค้ำยันต้นไม้ใหญ่ไว้หายใจหอบเฮือกใหญ่ๆ ดวงตาดำมืดคู่นั้นกลับมองชายถือมีดที่อยู่ตรงข้ามไม่ไกลนักด้วยความระวังเต็มที่ไปด้วย

สถานการณ์ของชายถือมีดดีกว่ากันไปไม่ถึงไหน หลังไล่ตามอย่างดุเดือดมารอบหนึ่ง ถึงอยู่ในยามดึกที่หนาวเย็นเช่นนี้ บนหน้าผากเขาอดมีเหงื่อไหลออกไม่ได้ รู้สึกแค่ว่าตนเองยังจะลำบากกว่าชกต่อยสักยกอยู่หลายเท่า

ชายถือมีดหายใจหอบเฮือกๆ เหมือนกัน บ่นพึมพำไปทางเย่เทียนแบบโมโหเดือดดาล “แก แกแม่งยังเป็นลูกผู้ชายอยู่เหรอ? มาสู้กับฉันสักตั้งแบบสง่าผ่าเผยไม่ได้หรือไง?”

“สู้กับผีนะสิ!”

เย่เทียนรีบปัดมืดแสดงการปฏิเสธ “นายถือมีดเอาไว้ ฉันกลับสู้มือเปล่า ฉันจะโง่ขนาดนั้นได้อย่างไร?”

พูดคำนี้ออกมา ชายถือมีดกลับโกรธจนกระอักเลือด “แกยังมียางอายอยู่ไหม? ฉันหลู่ลี่หาวเดิมทีก็มาจากตระกูลที่ฝึกฝนทักษะการใช้มีด แกแม่งยังอยากให้ฉันไม่ใช้มีด นี่ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว!”

“ยุติธรรม? นายยังมีหน้ามาพูดเรื่องความยุติธรรมกับฉัน?”

เย่เทียนคิดไม่ถึงว่าชายถือมีดจะพูดขนาดนี้ รู้สึกตลกอยู่ในใจ ที่ปากกลับบ่นพึมพำขึ้นมา “ตอนนี้เป็นใครกันที่ถือมีดไว้ด้วยท่าทางโหดร้าย? ฉันว่าคนที่หน้าไม่อายเป็นนายถึงจะถูกมั้ง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่