เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เทียนขับรถไปส่งเฉินหวั่นชิงทำงาน
เฉินหวั่นชิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ มองเย่เทียนที่กำลังขับรถอยู่ด้วยอารมณ์อันซับซ้อน
ดูเหมือนในระยะหนึ่งปีที่ทั้งคู่แต่งงานกัน เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนไปส่งเธอทำงานแบบนี้!
“จ้องฉันทำไม? หน้าฉันมีดอกไม้หรือยังไง”
ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงหยอกล้อของเย่เทียนดังมา “ฉันรู้ว่าฉันหล่อมาก แต่เธอจ้องฉันขนาดนี้ฉันเขินนะ”
“อย่างนายน่ะหรอหล่อ? ยังจะกล้าเขินอีก”
เฉินหวั่นชิงเซ็งในใจสุดๆ ไม่เคยเจอคนหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อน!
เธอจึงดึงสายตากลับมาและเลิกสนใจ พร้อมหยิบเอกสารชุดหนึ่งมาดู
ไม่นานนัก รถก็จอดอยู่หน้าบริษัท เฉินหวั่นชิงไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดประตูออกไปเลย
เย่เทียนลูบจมูกด้วยความเคยชิน กำลังจะขับรถไปที่ลานจอด ทันใดนั้นก็มีพอร์เชอ 911 สีครามคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ตรงหน้าตัวเอง ขวางทางไปของเขา
ขณะที่เย่เทียนกำลังงุนงงอยู่ ประตูรถก็เปิดออก ฉินเจิงหรงเปิดประตูและกระโดดออกมา
“นายมาทำอะไรที่นี่?”
เย่เทียนไม่ค่อยชอบหน้าอีกฝ่ายเท่าไหร่ จึงขมวดคิ้วถามอย่างอดไม่ได้
ความจริงแล้ว ฉินเจิงหรงก็ไม่เห็นเย่เทียนอยู่ในสายตาเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาได้สืบเรื่องของเย่เทียนแล้ว และพบว่าก็แค่แมงดาที่มีคนเลี้ยง จึงยิ่งดูถูกเขาเข้าไปใหญ่
และที่วันนี้เขามาดักรอที่นี่ ก็เพราะพี่สาวเขาโทรหาเขาให้เขามาขอโทษเย่เทียน
ขอโทษ?
เขาอยู่ในฐานะอะไร? ต้องมาขอโทษแมงดา? ฝันไปเถอะ
“ฉันจะบอกนายให้นะ อย่าเล่นอะไรตุกติกลับหลัง คิดว่าตัวเองเกาะบารมีพี่สาวฉันได้ ให้พี่สาวฉันมาข่มฉัน แล้วฉันจะยอมก้มหัวให้หรอ ฝันไปเถอะ ฉันไม่มีทางขอโทษนายหรอกโว้ย!”
ฉินเจิงหรงยืนชี้นิ้วด่ากราดเย่เทียนอยู่ข้างรถ
“สมองนายมีปัญหารึเปล่า?”
เย่เทียนหมดคำจะพูด
“เลิกเล่นเหลี่ยมได้แล้ว ลูกไม้ของนายไม่มีความหมายอะไรสำหรับฉันเลยสักนิด”
ฉินเจิงหรงทิ้งคำพูดโหดเหี้ยมไว้ก่อนจะขึ้นรถและออกไปเลย
เย่เทียนมองภาพที่ฉินเจิงหรงขับรถออกไปแล้วรู้สึกเพียงมึนงง สบถด่าว่าไอ้บ้าก่อนจะขับรถเข้าไปจอดในลานจอด
แต่จากการคาดเดาของเขา คงเพราะยาเม็ดที่เขาให้ฉินโล่หยินไปสัมฤทธิ์ผล ไม่อย่างนั้นตระกูลฉินไม่มีทางบอกให้ฉินเจิงหรงมาขอโทษเขาหรอก
ทว่า ฉินเจิงหรงไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ และเป็นพวกอีโก้สูง จะยอมขอโทษเขาได้ยังไง
เขาจึงเลิกสนใจ เข้าไปในบริษัทและเดินเล่นอยู่แผนกความปลอดภัย
“เย่เทียน!”
เหอเชิ่งมาหาในทันทีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เรื่องเมื่อวานฉันจัดการแล้วนะ นายวางใจเถอะ ฉันไม่ขายนายหรอก”
“เรื่องเมื่อวาน? เรื่องอะไรหรอ?”
เย่เทียนถามด้วยความงุนงง
เห็นท่าทีแบบนี้ของเย่เทียน เหอเชิ่งหัวเราะร่วน พยักหน้าอย่างรู้งาน “ไม่มีอะไร เมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”
เย่เทียนได้ยินแล้วยิ้มให้อย่างรู้กัน
ทั้งสองเป็นคนฉลาด เรื่องบางเรื่องไม่ต้องพูดให้ชัดแจ้งเกินไป
ส่วนจางฟู่ฉีเมื่อวานไม่ได้โผล่มาที่บริษัทในวันนี้ ถือว่าจัดการปัญหาไปได้หนึ่ง
หลังจากนั้น เย่เทียนก็เดินเล่นวนเวียนอยู่ในบริษัท ถึงยังไงเขาก็เป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดของเฉินหวั่นชิงโดยเฉพาะ เฉินหวั่นชิงไม่ออกไปไหนก็ไม่มีใครมาสั่งงานเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่