“วางใจเถอะ แม้แต่นายยังผ่านการทดสอบได้ งั้นฉันก็ยิ่งไม่มีปัญหา!”
ข้างหูเป็นคำพูดเยาะเย้ยของเย่เทียนดังขึ้น ชั่วขณะหนึ่งจิงไห่เชียนสีหน้าดูขมขื่นลงมา “น้องเย่ นี่คือนายชมตัวเองอยู่กลายๆ? หรือว่าจงใจเสียดสีฉันกัน?”
“นายคิดว่าไงล่ะ?”
เห็นจิงไห่เชียนทำท่าทางแบบนั้น เย่เทียนกลั้นไม่อยู่ส่งเสียงหัวเราะออกมา แม้แต่โข่งจื่อโถงสองอาหลาน ยังป้องปากไว้แอบหัวเราะสักหน่อย
“เอาล่ะ เรื่องสำคัญเร่งด่วน อย่ามัวแต่เล่นอยู่เลย”
สุดท้ายยังเป็นข่งรุ่นเยว่ตอบสนองเข้ามาก่อนใคร ดวงตางดงามตกอยู่บนตัวของเย่เทียน “เย่เทียน นายเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง? พร้อมแล้วพวกเราก็เริ่มทดสอบตอนนี้เลย”
เย่เทียนรีบหยุดหัวเราะลงทันที พยักหน้าตอบ “พร้อมแล้วครับ”
ได้รับคำตอบยืนยัน ข่งรุ่นเยว่ถึงกดบนโต๊ะลงสักหน่อย ด้านในตู้หนังสือที่จัดวางด้านหลังหล่อนเลื่อนออกมา เผยทางผ่านมืดสนิทที่ยากจะหยั่งถึงออกมา
ที่ทำให้คนตกใจคือ ทางเข้าของทางผ่านนี้เดี๋ยวโผล่เดี๋ยวหายอยู่บ้าง ให้ความรู้สึกแบบภาพลวงตามากๆ กับผู้คน พอมองก็รู้ว่าต้องไม่อาจเป็นทางผ่านใต้ดินธรรมดาแน่
“พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”
ไม่รอให้เย่เทียนได้คิดมาก ข่งรุ่นเยว่ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ก้าวเท้าเข้าสู่ด้านในทางผ่าน โข่งจื่อโถงตามมาด้านหลังติดๆ ก่อนที่ร่องรอยจะหายไปในทันที
“น้องเย่ เป็นนายก่อนแล้วกัน!”
จิงไห่เชียนกลับไม่ได้รีบร้อนเข้าไป แต่ทำมือเชิญไปยังเย่เทียนด้วยท่าทางแปลกประหลาด
เย่เทียนเดาความประหลาดในนี้ได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน แต่เขาไม่คิดว่าสามคนนี้จะทำร้ายเขา เวลานี้จึงพยักหน้าถือว่าตอบรับจิงไห่เชียน ก้าวเข้าสู่ทางผ่านแบบสีหน้าเคร่งขรึม
แทบจะเพิ่งก้าวสู่ด้านในทางผ่าน เย่เทียนก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่สมองลอยมา ราวกับว่าฟ้าดินหมุนวนขึ้นมาตาม ทำให้เขาอดเกิดความคิดเวียนหัวคลื่นไส้ขึ้นมาไม่ได้
ถึงตอนนี้แล้ว เย่เทียนไม่รู้ชัดที่ไหนว่าท่าทางประหลาดของจิงไห่เชียนก่อนหน้านี้มันเรื่องอะไรกัน กัดลิ้นลงโดยจิตใต้สำนึก ความเจ็บที่รุนแรงทำให้สมองของเขาตื่นตัวขึ้นมาในชั่วพริบตา
วินาทีต่อมา เย่เทียนถึงพบว่าโข่งจื่อโถงสองอาหลานก็ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา และบนหน้าก็เผยสีหน้าที่ตื่นตกใจออกมาด้วย
“ไม่ใช่มั้ง? น้องเย่นายฟื้นกลับมาเหมือนเดิมเร็วขนาดนี้เลย?”
ไม่รอเย่เทียนส่งเสียงตกใจ ก็มีคำพูดที่ตกใจเต็มที่ของจิงไห่เชียนที่อยู่ด้านหลังดังขึ้นก่อน
ในความเป็นจริง ทางเข้าของทางผ่านนี้จัดวางอุบายหนึ่งเอาไว้ โดยยอดฝีมือของโลกบู๊จัดวางไว้นั่นเอง ชั่วขณะที่ก้าวเข้ามานั้นจะทำให้เกิดความไม่สบายตัวรุนแรง ถ้าคนที่ไม่เตรียมพร้อม ต้องจมสู่สถานการณ์ไม่เต็มเต็งช่วงสั้นๆ ผู้ที่จิตใจไม่แข็งแรงยิ่งจะหมดสติลงไป
และการทดสอบด่านแรกนี้ ถ้าไม่สามารถฟื้นสติกลับมาได้ในเวลาสามนาที นั้นแสดงว่าไม่มีวาสนาต่อการแข่งชิงสิทธิ์แล้ว
กลับมาดูเย่เทียน สามารถฟื้นสติกลับมาได้ภายในเวลาไม่กี่วินาทีสั้นๆ ความเร็วฉับไวแบบนี้ ต่อให้เทียบกับคนที่เตรียมใจมาพร้อมมากมายก็เร็วกว่าไม่น้อย นี่จะไม่ให้จิงไห่เชียนพวกเขาสามคนรู้สึกตกใจได้อย่างไรล่ะ?
ทันใดนั้น สายตาของจิงไห่เชียนพวกเขาสามคนมองทางเย่เทียนเปลี่ยนไปบ้าง ยิ่งเป็นจิงไห่เชียนและโข่งจื่อโถงสองคนนี้ พวกเขาสองคนลงชื่อเข้าร่วมการแข่งชิงสิทธิ์ครั้งนี้มาเหมือนกัน จึงเห็นเย่เทียนเป็นศัตรูตัวฉกาจในทันที
เย่เทียนไม่ใช่คนโง่ สังเกตถึงสีหน้าตื่นตระหนกของทั้งสามคนได้ จึงนึกถึงปัญหาสำคัญออกทันที ก่อนจะถามลองเชิงว่า “หรือว่านี่คือด่านแรกของการทดสอบเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่