ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 881

“ผมจะไปโกหกคุณทำไม? ลูกชายของเพื่อนบ้านฉันก็คือศิษย์สำนักเหลียนหัว เขาเห็นกับตาตัวเองว่าโฉวฝันเฟยบาดเจ็บกลับไปที่สำนักเหลียนหัว”

ชายที่มาคนเดียวมองซ้ายมองขวา แล้วกดเสียงให้ต่ำลง “พวกคุณจะเชื่อหรือไม่ เดี๋ยวถ้าไปถึง ผมจะแนะนำเขาให้พวกคุณรู้จักเอง”

เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มพวกนี้ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร จึงรู้สึกตื่นเต้นกับการที่จะได้รู้จักกับคนของสำนักเหลียนหัวมาก และรีบพูดไปว่า “ได้ครับ!ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณ…..”

ท้ายที่สุดแล้ว คำพูดของเหล่าชายหนุ่มก็ต้องชะงัก เพราะรู้จักกันแค่ผ่านๆ พวกเขาจะไปรู้ชื่อของชายที่มาคนเดียวได้ยังไง?

ชายที่มาคนเดียวทำไมจะมองความคิดของพวกชายหนุ่มไม่ออกล่ะ จึงได้แนะนำตัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ผมชื่อสวี่อานน่าจะอายมากกว่าพวกคุณนิดหน่อย ถ้าพวกคุณไม่รังเกียจก็เรียกผมว่าพี่สวี่ก็ได้”

“พี่สวี่สวัสดีครับ!”

เหล่าชายหนุ่มทักทายไปตามน้ำ แล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “พี่สวี่ ในเมื่อเพื่อนเป็นศิษย์สำนักเหลียนหัว ถ้าอย่างนั้นเขาก็น่าจะเคยเล่าเรื่องเจ้าสำนักเฉิวให้คุณฟังบ้างสินะครับ? คุณช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้มั้ยครับ?”

“ตรงนี้ยังอยู่ห่างจากลานประลองอีกประมาณหนึ่ง จะเล่าให้พวกคุณฟังมันก็ได้อยู่ แต่……”

ถึงสวี่อานจะรู้สึกดีที่ถูกคนมาเชิดชู แต่ยังไงก็มีความหวั่นเกรงต่อสำนักเหลียนหัวอยู่บ้าง จึงได้พูดไปด้วยความจริงใจว่า “พวกคุณต้องรับปากผมก่อนว่าหลังจากที่ผมเล่าให้พวกคุณฟังแล้ว พวกคุณจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครไม่อย่างนั้น ผมรับรองได้เลยว่า พวกคุณต้องได้เห็นดีแน่!”

พวกชายหนุ่มรีบรับปากทันที พร้อมกับทำหน้าพร้อมที่จะเล่นงานคนที่พูดขึ้นมาทันที

“พี่สวี่ เรื่องนี้คุณไม่ต้องห่วง พวกเรารู้ว่าต้องทำยังไง”

“พี่สวี่ พวกเราไม่ได้โง่ พวกเราไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปบอกใครแน่นอนครับ”

“…..”

พอเห็นการแสดงออกของพวกชายหนุ่ม สวี่อานก็ได้พยักหน้าอย่างพอใจ “เมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นผมจะเล่าให้พวกคุณฟังก็ได้!”

สวี่อานไอไปสองทีเพื่อเคลียร์ลำคอ แล้วจึงเริ่มพูดขึ้นมาอย่างช้าๆ “อย่าเห็นแค่ว่าโฉวฝันเฟยในตอนนี้มีแต่คนคอยให้ความเคารพ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสามสิบปีที่แล้ว เขาก็เป็นเหมือนกับพวกเรา เป็นเพียงคนหนุ่มที่อยู่ในแดนระดับเสวียนเท่านั้น”

“เพียงแต่ สถานการณ์ในตอนนั้นเมื่อเทียบกับตอนนี้ ถึงโฉวฝันเฟยจะอยู่แค่แดนระดับเสวียน ในยุคสมัยนั้นก็ถือเป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างไร้ข้อโต้แย้งแล้ว”

“พี่สวี่ แบบนี้มันไม่ค่อยถูกมั้ง?”

พูดจบ ก็มีชายหมุ่มคนหนึ่งพูดออกมาด้วยความสับสนว่า “ตามที่คุณว่ามา แสดงว่าพรสวรรค์ของโฉวฝันเฟยก็ไม่ได้สูงส่งอะไรขนาดนั้น!”

“ตามนั้นเลย”

สวี่อานพยักหน้าเห็นด้วย แล้วพูดอธิบายไปว่า “จุดเปลี่ยนมันอยู่ในปีที่โฉวฝันเฟยในสู่โลกบู๊ ไม่รู้ว่าเขาไปโชคดีมาจากไหน ดันไปค้นพบกระบี่หลั่งเลือดจากซากของผู้สูงส่งคนหนึ่ง”

“กระบี่หลั่งเลือด?!”

ชายหนุ่มอีกคนก็ทนไม่ไหวจนได้อุทานออกมา “เรื่องนี้ผมเคยได้ยินพ่อพูดให้ฟังบ้าง ว่ากันว่า กระบี่เล่มนี้มันเป็นกระบี่นอกรีด”

“ถึงกระบี่หลั่งเลือดจะนอกรีด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันแข็งแกร่งมาก!”

พอถูกคนขัดจังหวะอีกครั้ง สวี่อานก็ถึงกับขมวดคิ้ว บ่งบอกว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังควบคุมอารมณ์แล้วพูดเล่นาต่อว่า “กระบี่หลั่งเลือดเป็นกระบี่เครื่องลางทิพย์ที่ไม่ค่อยปกติ ยิ่งได้กินเลือดมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น ขอแค่มีเลือดที่มากพอ อย่าว่าแต่แดนที่อยู่ระดับเดียวกันเลย ต่อให้เป็นการฆ่าคู่ต่อสู้ที่สูงไปอีกระดับก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

แล้วชายหนุ่มคนเดิมก็ได้ถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง “พูดจริงพูดเล่นครับเนี่ย? มันไม่เหนือธรรมชาติเกินไปหน่อยเหรอครับ?”

ในที่สุดสวี่อานก็ทนไม่ไหวแล้ว จึงได้พูดไปอย่างไม่พอใจว่า “เดี๋ยวนะ คุณอย่าเอาแต่พูดขัดผมจะได้มั้ย? มันทำให้ผมเสียสมาธิไปหมดแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่