ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 933

“ยังมัวบื้ออยู่ทำไม! ยังไม่รีบมาช่วยอีก!” นักพรตเต๋าชิงเฟิงตะโกนออกมา จับจ้องไปที่โฉวฝันเฟยโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตากลัวเขาจะโจมตีอย่างกะทันหัน

ซิ่วซิ่วซิ่ว….

หลังจากสิ้นเสียงของนักพรตเต๋าชิงเฟิง เหล่าเจ้าสำนักที่อยู่บนเวทีสูงถึงตั้งสติได้ นอกจากเจ้าสำนักพรรคหัวซานหลี่เฮ่าหรัน ที่ออกไปก่อนแล้ว ร่างของเจ้าสำนักทั้งสี่ที่เหลือก็หายจากบนเวทีสูงในพริบตา วินาทีต่อมา ก็ปรากฏตัวอยู่ข้างๆ นักพรตเต๋าชิงเฟิงแล้ว

อีกด้านหนึ่ง ปรมาจารย์เจตสิกกับหลู่ซูหางก็ขยับขา แล้วมายืนอยู่ข้างๆ นักพรตเต๋าชิงเฟิงด้วย กัวซิ้วเจี๋ยที่อยู่ใต้สังเวียนก็เหมือนกัน ถีบขาแล้วกระโดดขึ้นมาบนสังเวียน

ทั้งแปดคน จ้องมองไปยังโฉวฝันเฟยด้วยสายตาที่เคร่งขรึม!

เหล่าผู้ชมที่อยู่ใต้เวทียิ่งตะลึงไปใหญ่ ไม่นึกไม่ฝันว่าอยู่ดีๆ การแข่งชิงสิทธิ์จะกลายเป็นแบบนี้ ผู้นำของหกสำนักใหญ่กับอีกสองตระกูลใหญ่จะเข้าโจมตีโฉวฝันเฟยพร้อมกัน!

“เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม!” พอเห็นอย่างนั้น โฉวฝันเฟยก็โกรธจนยิ้ม พูดคำว่าเยี่ยมออกมาสามครั้งติด “พวกแกคิดจะเป็นศัตรูกับฉันกันหมดเลยใช่มั้ย?”

“เจ้าสำนักเฉิว ไม่ใช่ว่าพวกเราจะเป็นศัตรูกับคุณ แต่เป็นคุณต่างหากที่เป็นศัตรูกับเรา!”

ปรมาจารย์เจตสิกตะโกนออกมา “การประลองบนสังเวียน การที่จะได้รับบาดเจ็บมันก็เป็นเรื่องธรรมดา”

“บาดเจ็บเหรอ? ถ้าเป็นการบาดเจ็บทั่วไปผมก็รับได้ แต่ตอนนี้มันเป็นการบาดเจ็บทั่วไปมั้ย?” โฉวฝันเฟยตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “เสี่ยวฝานถูกทำให้พิการ ส่วนเสี่ยวเสว่ก็ต้องมาตายอย่างอนาถ แกจะให้ฉันทนได้ยังไง? ห๊ะนักบวชเฒ่า ถ้าเป็นแก แกจะทนได้มั้ย?”

“โฉวฝันเฟย มันเกี่ยวอะไรกับเย่เทียน!” ยังไม่ทันที่ปรมาจารย์เจตสิกจะได้ตอบ หลู่ซูหางก็ก้าวมาข้างหน้า ชี้ไปที่จีเสว่ “ทุกคนต่างก็เห็น จีเสว่เธอฆ่าตัวตายเอง เย่เทียนบอกเมื่อไหร่ว่าต้องการชีวิตของเธอ? ส่วนเรื่องที่เหยียนเฟิงพิการ มันก็เป็นเพราะเขาเปลี่ยนวิชายุทธเอง มันควรจะโทษที่จิตใจของเขา…..”

“ฉันไม่สน!” โฉวฝันเฟยตะคอกออกมา ขัดจังหวะการพูดของหลู่ฝันเฟย แล้วชี้กระบี่ไปยังเย่เทียนที่อยู่ด้านหลัง “ยังไงวันนี้เย่เทียนก็ต้องตาย!”

หลังจากที่หยุดชะงัก โฉวฝันเฟยก็กวาดตามองกลุ่มคนที่ยืนขวางอยู่หน้าเย่เทียนด้วยสายตาอาฆาต แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “วันนี้ถ้าใครในพวกแกกล้าขวางฉัน จะถือว่ามันคนนั้นผิดใจกับโฉวฝันเฟยคนนี้ และจะมาโทษกระบี่เลือดในมือฉันไม่ได้ด้วย!”

พูดจบ แรงกดดันที่ลึกถึงกระดูกของผู้แข็งแกร่งแดนระดับฟ้าธาตุทั้งห้ารวมกันได้พุ่งเข้ามา แรงกดดันนี้ได้แผ่ซ่านไปทั่วทิศราวกับดาบและกระบี่ ต่อให้พวกผู้ชมที่ออกไปไกลแล้วก็ยังรู้สึกกดดันและเจ็บปวด ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มคนที่ยืนประจันหน้ากับโฉวฝันเฟยเลย

แดนระดับฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะหรือด้านอื่นๆ เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งระดับที่ต่ำกว่าก็ถือว่าสูงกว่ามาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้แข็งแกร่งในผู้แข็งแกร่งที่อยู่ระดับธาตุทั้งห้ารวมกันอย่างโฉวฝันเฟยเลย

กัวซิ้วเจี๋ยเลิกคิ้วขึ้น และได้ก้าวเท้าออกมา ชักกระบี่แล้วชี้ไปที่โฉวฝันเฟย “โฉวฝันเฟย ถ้าแน่จริงก็ลองดู!”

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จีเสว่ทำให้กัวหมิงเลี่ยงเจ็บหนัก ลำพังแค่เรื่องจิตไท่ก๊ก กัวซิ้วเจี๋ยก็รู้อยู่แก่ใจว่าชาหรือเร็วก็ต้องเผชิญหน้ากับโฉวฝันเฟยอยู่แล้ว เมื่อเป็นอย่างนั้น สู้ถือโอกาสนี้จัดการกับโฉวฝันเฟยไปเลยดีกว่า

ระหว่างที่พูด ออร่าของผู้แข็งแกร่งแดนสามยอดรวมเกล้าก็แผ่ซ่านไปทั่วทิศ!

ถึงจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจในคำพูดของกัวซ้วเจี๋ยสักเท่าไหร่ แต่เจ้าสำนักทุกคนต่างก็ปลดปล่อยออร่าขอตัวเองออกมายืนประจันหน้ากับโฉวฝันเฟยอย่างน่าเกรงขาม

จะว่าไป ในเจ็ดสำนักก็มีคนที่ไม่อยากมีปัญหากับโฉวฝันเฟย แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการแข่งชิงสิทธิ์ ทุกคนในโลกบู๊ต่างก็มองอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่