“โฉวฝันเฟย นี่คุณคิดจะทำอะไร!” ยังไม่ทันที่โฉวฝันเฟยจะได้ลงมืออีกครั้ง ปรมาจารย์เจตสิกได้ก้าวขึ้นมาอยู่บนสังเวียนแล้ว พร้อมกับตะคอกออกมา
“หึหึ” พอได้ยินอย่างนั้น โฉวฝันเฟยก็ขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ไอ้ลาแก่ แกถามฉันเหรอว่าจะทำอะไร? แกคิดว่าตอนนี้ฉันยังจะทำอะไรได้!”
“โฉวฝันเฟย การตายของจีเสว่เป็นอุบัติเหตุ และทั้งหมดนี้ก็โทษเย่เทียนไม่ได้ เพราะเธอฆ่าตัวตายเอง” นักพรตเต๋าชิงเฟิงก็ขึ้นมาบนสังเวียนเหมือนกัน พร้อมกับจ้องมองโฉวฝันเฟยด้วยสายตาที่เคร่งขรึม“อุบัติเหตุ พวกแกยังมีหน้ามาบอกฉันว่าเป็นอุบัติเหตุอีกอย่างนั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะพวกแก เย่เทียนจะรอดมาถึงตอนนี้ได้เหรอ? เรื่องในวันนี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” โฉวฝันเฟยยิ้มอย่างไม่ชอบใจหนักยิ่งกว่าเดิม
“โฉวฝันเฟย นี่แกคิดจะทำอะไร ตอนนี้เย่เทียนเป็นถึงผู้สมัครของผู้นำยุทธภพนะ หรือแกคิดจะเป็นศัตรูกับทุกคนในโลกบู๊!”
หลู่ซูหางก็ขึ้นมาถึงบนสังเวียนแล้วเหมือนกัน และยืนขวางอยู่หน้าเย่เทียน “ที่สำคัญ แกอย่าลืมนะว่า แกกับเย่เทียนยังมีการนัดหมายในอีกสิบปี!”
“นัดหมายสิบปีกับผีสิ ผู้สมัครผู้นำยุทธภพบ้าบออะไร!” โฉวฝันเฟยคำรามออกมา “อย่าว่าแต่มันเป็นผู้สมัครของผู้นำยุทธภพเลย ต่อให้มันเป็นผู้นำยุทธภพจริงๆ กูก็จะฆ่าไม่เลี้ยงเหมือนกัน!”
พอได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของหลู่ซูหางก็เปลี่ยนไปทันที กำหมัดแน่น การที่โฉวฝันเฟยกล้าพูดออกมาแบบนี้ แสดงว่าต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับคนที่โลกบู๊ก็ต้องฆ่าเย่เทียนให้ได้
ตามคาด แววตาของโฉวฝันเฟยเยือกเย็นลง ชี้กระบี่ไปยังสามคนที่ยืนขวางอยู่หน้าเย่เทียน “ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียวหลีกไป!”
“โฉวฝันเฟย นี่แก….” หลู่ซูหางกำลังจะตำหนิ
แต่ยังไม่ทันที่หลู่ซูหางจะได้พูดจบ โฉวฝันเฟยก็ไม่อยากทนฟังแล้ว โบกมืออย่างกะทันหัน ปลดปล่อยกำลังภายในและได้ฟันคลื่นกระบี่ออกไปอีกครั้ง!
พอเห็นอย่างนั้น ปรมาจารย์เจตสิกที่เป็นหัวหน้าก็ลงมือก่อน ยื่นมือขวาออกมาทันที และซัดหมัดกำลังภายในเข้าปะทะ
นักพรตเต๋าชิงเฟิงก็ตอบสนองได้ไม่ช้า พู่กันขนสัตว์โบกสะบัดเบาๆ กำลังภายในอันรุนแรงก้อนหนึ่งก็ได้ก่อตัวขึ้นและพุ่งไปทางโฉวฝันเฟยทันที
หลู่ซูหางก็โจมตีเหมือนกัน ขาทั้งสองข้างกางออกเล็กน้อย คำรามออกมาเสียงดัง แล้วซัดหมัดกำลังภายในออกไปหมัดหนึ่ง
ตูม!
กลางอากาศ การโจมตีของทั้งสามเข้าปะทะกับคลื่นดาบของโฉวฝันเฟยอย่างจัง จนเกิดเสียงที่ดังสนั่นขึ้น
คนที่ไม่แข็งแกร่งพอก็ได้โอดครวญออกมา มีเลือดไหลออกจากหู สีหน้าก็ดูทุรนทุราย
ส่วนพวกผู้แข็งแกร่งกว่าที่อยู่ข้างก็พากันทำหน้าเคร่งขรึม รีบดึงเพื่อนของตัวเองขึ้นมา สองมือปิดหู แล้วถอยหลังทันที
จากการปะทะกันของทั้งสีคน สังเวียนถึงกับสนั่นหวั่นไหว ราวกับเกิดแผ่ดันไหว
พรึบพรึบพรึบ!
มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น แล้วสิ่งที่เกินความคาดหมายของทุกคนก็ได้เกิดขึ้น คนที่ถอยหลังคือพวกปรมาจารย์เจตสิก แถมหลู่ซูหางที่ฝีมือด้อยกว่านิดหน่อยก็มีเลือดซึมออกมาที่มุมปาก
หันกลับไปที่โฉวฝันเฟย มือขวาจับกระบี่ ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าที่เย่อหยิ่ง จ้องมองไปยังเย่เทียนที่อยู่ด้านหลังพวกปรมาจารย์เจตสิก แววตาที่อาฆาตไม่มีการปกปิดแม้แต่น้อย!
ถึงพวกปรมจารย์เจตสิกจะอยู่ระดับสามยอดรวมเกล้าก็ตาม แต่โฉวฝันเฟยนั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งธาตุทั้งห้ารวมกันเลยบวกกับกระบี่เลือดในมือ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งสามยอดรวมเกล้ามาอีกสามคนก็ไม่ใช่ปัญหา!
พอรับรู้ถึงแววตาที่อาฆาตของโฉวฝันเฟย เย่เทียนถึงกับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เหงื่อเย็นๆ ผุดออกจากหน้าผาก เพราะสายตาของโฉวฝันเฟยน่ากลัวเกินไป มันไม่ใช่ดวงตาของคน แต่ราวกับปีศาจที่ปีนขนมาจากเหวลึก เยือกเย็นแต่ก็กระหายเลือด!
“พวกแกต้องตาย! ลงไปอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเสว่ซะเถอะ!” โฉวฝันเฟยแทบไม่หยุดพัก คำรามออกมา และได้ซัดคลื่นกระบี่ออกไปอีกครั้ง ในเวลาเดียวกัน เขาก็ถีบขาเบาๆ แล้วพุ่งตามหลังคลื่นกระบี่ไปติดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่