ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 127

สรุปบท บทที่127 เส้นทางในอนาคต พวกเรามาคอยดูกัน: ข้าคือหงส์พันปี

บทที่127 เส้นทางในอนาคต พวกเรามาคอยดูกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ข้าคือหงส์พันปี

ตอนนี้ของ ข้าคือหงส์พันปี โดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่127 เส้นทางในอนาคต พวกเรามาคอยดูกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

อวี้เยี่ยนเกร็งคอ ชี้นิ้วไปที่หลิ่วเหมยอู่กับเซียงหลิง

เฉินเสียนคลายนิ้วมือออกจากคางของนาง แล้วกล่าวขึ้นว่า“ลุกขึ้น”

อวี้เยี่ยนเคลื่อนไหวสองขาของนาง แต่ทว่าฉินหรูเหลียงได้กล่าวขึ้นว่า“สาวใช้คนหนึ่ง กล้าลงไม้ลงมือกับนายหญิง เป็นนางที่ทำผิดก่อน คุกเข่าอยู่ในเรือนก็สมควรแล้ว”

เฉินเสียนทำราวกับด้านข้างไม่มีคน กล่าวอีกว่า“ลุกขึ้น”

ฉินหรูเหลียงมองแผ่นหลังที่หยิ่งผยองของเธอ สุดท้ายก็ไม่ได้กล่าวพูดสิ่งใดออกมาอีก

อวี้เยี่ยนลุกขึ้นยืน ถึงแม้ว่าทั้งตัวจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากรอยบาดแผล แต่ก็ยังยืนยืดตัวตรงได้ ฝืนกลั้นน้ำตาไว้แล้วกล่าวว่า“องค์หญิง บ่าวใช้ไม่ได้ บ่าวสู้พวกนางไม่ได้เพคะ ไม่สามารถแทงนายหญิงหลิ่วให้ตายได้เพคะ”

เฉินเสียนยื่นมือออกไปปัดฝุ่นบนตัวของอวี้เยี่ยนออก เช็ดน้ำตาที่ขอบตาของนางด้วย แล้วกล่าวขึ้นว่า“ไม่เป็นไร มีข้าอยู่ จะไม่ให้คนอื่นเอาเปรียบได้หรอก”

จากนั้นนางก็เดินผ่านอวี้เยี่ยนไป โค้งตัวก้มลงเก็บกริชนั้นขึ้นมา กอบกุมไว้ในกำมือแล้วเดินไปทางหลิ่วเหมยอู่

หลิ่วเหมยอู่ก้าวถอยหลังไป ร้องไห้อย่างหมดหนทางมองไปที่ฉินหรูเหลียง “ท่านแม่ทัพ…......”

ก่อนที่เฉินเสียนจะเดินถึงขั้นบันได ฉินหรูเหลียงยังยืนโงนเงนขวางหน้าเฉินเสียนอยู่

เขาก้มหัวลงมองใบหน้าที่ซูบเซียวของเธอ ภายในใจรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก กล่าวขึ้นว่า“ท่านทำไมไม่พักผ่อนอยู่ในเรือน มาทำสิ่งใดที่นี่”

เฉินเสียนจ้องเขม็งใส่หลิ่วเหมยอู่ แล้วกล่าวว่า“ถ้าหากข้าพักผ่อนอยู่ในเรือน มันก็ง่ายต่อการที่พวกท่านจะตีคนของข้าให้ตายใช่หรือไม่?”

ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“เป็นอวี้เยี่ยนที่ลงมือก่อน ข้าเองยังมาไม่ทันที่จะลงโทษนางเลย ถ้าหากตอนนี้ท่านต้องการนำตัวนางไป เรื่องราวครั้งนี้ข้าก็จะไม่ไต่สวนอีก”

เฉินเสียนชี้กริชใส่หลิ่วเหมยอู่ ทันใดนั้นก็กล่าวกับฉินหรูเหลียงว่า “ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำเพื่อช่วยนางไว้ ข้ากับลูกก็อาจจะตายได้?”

ฉินหรูเหลียงมองเธอ นานมากแล้วกล่าวขึ้นว่า“ข้าขอโทษ”

เฉินเสียนกล่าวกับหลิ่วเหมยอู่ว่า “ยังดี พวกข้าพบเจอเรื่องราวอุปสรรคมามากมาย โชคดีที่รอดตายมาได้ต่อไปต้องพบเจอกับโชคดีอย่างแน่นอน แต่เจ้าอนาคตนั้นยังไม่แน่เลย ”หยุดไปสักพักหนึ่ง แล้วกล่าวต่ออีกว่า“ฉินหรูเหลียง ท่านเคยพูดว่าเพียงแค่ข้ายอมช่วยนาง ไม่ว่าสิ่งใดท่านก็จะรับปากยินยอมข้าทั้งหมด ตอนนี้ท่านใช้รกของข้าทำส่วนผสมของยาให้กับนาง ก็นับว่าข้าได้ช่วยนางแล้ว ท่านยังรักษาสัจจะอยู่หรือไม่?”

ฉินหรูเหลียง กล่าวว่า“ข้ารักษาสัจจะอยู่แล้ว”

“ถ้าหากว่าข้าต้องการให้นางตายเล่า”

ฉินหรูเหลียงกล่าวขึ้นว่า“ข้าซาบซึ้งในน้ำใจท่านมากที่ท่านช่วยชีวิตนาง แต่นางไม่ได้ทำสิ่งใดเลย เฉินเสียน ท่านกับลูก.......ก็ไม่ได้เป็นอันใดไม่ใช่หรือ?”

เฉินเสียนกล่าวว่า“เพียงแค่ว่าคลอดก่อนกำหนดหนึ่งเดือนเท่านั้น ถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่เป็นอะไรหรอก ท่านก็ได้รับในสิ่งที่ท่านต้องการ เพราะฉะนั้นนี่คือเหตุผลที่ท่านมุทะลุแหกท้องของข้าออกหรือ?”

ฉินหรูเหลียงไม่มีอะไรจะกล่าวพูดออกมา

“ดีมาก ตอนนี้ท่านไม่อยากให้ข้าแตะต้องนาง ”เธอเอียงตัว มองฉินหรูเหลียงอย่างแน่วแน่ แล้วกล่าวขึ้นอีกว่า“เช่นนั้น ข้าก็จะให้ท่านชดใช้คืน”

“ท่านต้องการให้ข้าชดใช้คืนอย่างไร?”เพียงแค่เขาสามารถทำมันได้ เขาก็ยินยอมที่จะชดเชยให้กับเธอ

เฉินเสียนโยนกริชให้กับเขา กล่าวทีละคำอย่างชัดเจนว่า“แทงตัวท่านเองก่อนสิ”

หลิ่วเหมยอู่ตะโกนด้วยความหวาดกลัวว่า“อย่านะเจ้าคะท่านแม่ทัพ!”

ฉินหรูเหลียงกอบกุมกริชไว้ ก้มหัวลงมองกริชที่คมกริบนั่น หลังจากนั้นไม่ลังเลที่จะกำมันขึ้นแล้วหันไปทางไหล่ของตัวเองและแทงเข้าไป

เลือดสีแดงสดเปียกชื้นเสื้อของเขา ปรากฏให้เห็นระดับความลึกของรอยนั้นด้วย

ฉินหรูเหลียงเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นว่า“ถ้าหากว่ากริชที่แทงลงมาที่ไหล่ของข้าสามารถทำให้ท่านคลายความเกลียดชังได้ ข้ายินยอมที่จะรับมัน”

หลิ่วเหมยอู่ตื่นตระหนกวี้ดร้องเสียงแหลม สีหน้าซีดเผือด “ท่านแม่ทัพ!”

ฉินหรูเหลียงไม่มองหลิ่วเหมยอู่เลย กล่าวขึ้นมาอย่างแน่วแน่ว่า“เจ้าไม่ต้องเข้ามา นี่เป็นบุญคุณความแค้นของข้ากับนาง”

เฉินเสียนเดินเข้าใกล้หนึ่งก้าว ยื่นมือกุมกริชที่อยู่บนไหล่ของเขาแน่น

คิ้วของฉินหรูเหลียงกระตุกสั่นไหว ฝืนอดกลั้นกับความเจ็บปวดนั้น

ฉินหรูเหลียง เส้นทางในอนาคต พวกเรามาคอยดูกัน"

พูดจบแล้ว เฉินเสียนชักกริชออกมาทันที ถือโอกาสกรีดลงไปด้านล่าง

เสียงขาดของผ้าไหมดังขึ้น เธอกรีดแขนเสื้อของฉินหรูเหลียงขาด สายตาไม่กระพริบเลย

เวลานั้นฉินหรูเหลียงรู้สึกว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนางคงไม่คาดหวังสิ่งอื่นใดกับตัวเองอีกแล้ว

เป็นความขมขื่นที่ยากจะพูดมันออกมา เขาก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร

แต่เขารู้ว่าเขาทำผิดอะไร

เสียงร้องไห้ของหลิ่วเหมยอู่ดังอยู่ข้างหู นางด่าเฉินเสียนตามอำเภอใจ นางอยากจะพุ่งมาตบตีเฉินเสียน แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังกลัวกริชที่อยู่ในมือของเฉินเสียน

การตัดเยื่อใยของเฉินเสียน ถ้าหากหลิ่วเหมยอู่กล้าเข้ามาใกล้ตัว เธอไม่มีทางออมมืออย่างแน่นอน

ฉินหรูเหลียงไม่โทษเธอ เขานึกถึงวันนั้นท่ามกลางฝนตกฟ้าร้องขึ้นมาทันที เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่ที่สถานที่นั้น หลังจากวันนั้นมา ต่อให้นานเพียงใด ก็คงจะไม่มีทางลืมมันได้เลย

เป็นเขาที่ติดค้างเธอ

อย่างไรก็ตามชั่วประเดี๋ยว ข้อมือของเฉินเสียนก็หมุนกลับ เธอกรีดที่แขนเสื้อของฉินหรูเหลียงแล้วทันทีหลังจากนั้นเธอก็กรีดที่ข้อมือของฉินหรูเหลียงเบาๆ

คมกริชแหลมคมมาก การเคลื่อนไหวเธอก็เร็วมาก ไหล่ของฉินหรูเหลียงเจ็บจนสูญเสียความรู้สึกจนมีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน เพียงแค่รู้สึกว่าข้อมือเย็นขึ้นมาอย่างฉับพลัน

ฉินหรูเหลียงขมวดหัวคิ้ว เขารู้สึกว่าไหล่ของตัวเองเกิดอาการชักกระตุกจนไม่มีแรง

เขาก้มหัวลงมอง เห็นข้อมือมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากรอยแผลนั้นอย่างฉับพลัน สีหน้าก็เปลี่ยนไป

เลือดสีแดงสดอุ่นๆสาดกระเด็นเข้าที่หน้าขาวของเฉินเสียน ดวงตาของเฉินเสียนถูกเลือดนั้นสาดใส่แปดเปื้อนเป็นสีแดง เธอสีหน้าไร้ความรู้สึกกล่าวขึ้นว่า“ท่านคิดว่าข้าเพียงแค่จะตัดขาดความสัมพันธ์กับท่านหรือ ไร้เดียงสาเสียจริง”

เธออิงตามความชำนาญและคล่องแคล่วเป็นอย่างมากตัดที่เส้นเอ็นมือซ้ายของฉินหรูเหลียงขาด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี