ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 147

ถนนเส้นนี้ค่อยข้างจะเงียบเหงา มีเพียงคนเดินผ่านไปมาเป็นครั้งคราว

พื้นที่ที่อยู่อาศัยในใจกลางเมืองหลวงนั้นถูกแบ่งออกเป็น สาม หก และเก้าระดับ ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี้นั้นเป็นระดับสุดท้าย ด้วยเหตุที่อยู่ไกลทำให้ความเจริญนั้นไม่เท่ากับที่อื่น

เฉินเสียนยืนอยู่หน้าร้านยาสมุนไพร ประตูใหญ่ถูกปิดแน่น ป้ายคำขวัญคู่ที่ติดอยู่หน้าประตูนั้นปกคุลมไปด้วยฝุ่น ยังมีหยักไย่สองเส้นติดอยู่ที่มุมอีกด้วย

มองดูแล้ว ที่นี่คงไม่ได้เปิดร้านมานานแล้ว

เฉินเสียนกับอวี้เยี่ยนเดินเข้าไปหาหมอคนนั้นพร้อมกัน มันเป็นตรอกเล็กๆที่ทรุดโทรม อวี้เยี่ยนนับบ้านที่อยู่ที่นี้แต่ละหลังได้ จนเดินมาหยุดอยู่ที่บ้านท้ายตรอก

เคาะประตูอยู่สักพัก สุดท้ายก็ไม่มีคนมาเปิดประตู

เฉินเสียนจึงผลักประตูเข้าไป พบว่าประตูนั้นไม่ได้ล๊อก ผลักนิดเดียวประตูก็เปิดออก

เธอก้าวเท้าเข้าไปอย่างระมัดระวัง

ที่นี่ไม่ได้กว้างใหญ่อะไร มีเพียงห้องรับแขกหนึ่งห้อง ห้องพักอาศัยสองห้อง ไม่มีใครอยู่เลยสักคน

มองดูบนโต๊ะแล้วมีแต่ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ที่นี่น่าจะไม่มีใครอยู่มาสักพักแล้ว

อวี้เยี่ยนพูดด้วยความวิตกกังวัลว่า “องค์หญิง หรือว่าเขาจะรู้ข่าวแล้วหนีไปแล้วหรือไม่เพคะ?”

เฉินเสียนยืนอยู่ในห้องรับแขกแล้วมองไปรอบๆ สายตาก้มไปมองที่มุมพื้น พบว่าเป็นรอยคราบสีแดงเข้มติดอยู่เลือนราง เหมือนกับสีสนิมที่ไม่ได้ขัดมานาน

เฉินเสียนพูดขึ้น “ไม่น่าจะใช่ เซียงหลิงมาส่งข่าวไม่ทันหรอก แล้วอีกอย่างที่นี่คงไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ถ้าได้ข่าวแล้วหนีไป ทำไมของทุกอย่างในห้องนอนนั้นไม่ได้ขยับเลย เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่มีค่านั้นก็ไม่ได้เก็บไป”

เฉินเสียนหรี่ตามอง แล้วยิ้มแบบเจื่อนๆ พูดอีกว่า “อีกอย่าง อวี้เยี่ยนที่ที่เจ้ายืนอยู่นั้นมีกองเลือดด้วย”

คำพูดที่พูดออกมา ทำให้อวี้เยี่ยนตื่นตกใจ แล้วรีบกระโดดหนีออกทันที

เฉินเสียนยิ้มออกมา อวี้เยี่ยนพูดแบบไม่พอใจ “ขนาดเวลาแบบนี้ องค์หญิงยังกล้าจะมาล้อเล่นอีกนะเพคะ!”

ในที่สุดทั้งสองคนก็เดินสำรวจบ้านหลังนี้โดยไม่สัมผัสกับอะไรเลย

เมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เฉินเสียนทั้งต้องดูแลรักษาตัวเองและยังต้องเป็นห่วงเรื่องเจ้าน่องน้อยที่อยู่ในพระราชวังอีก เลยไม่มีเวลามาชำระสะสางเรื่องพวกนี้

ที่เฉินเสียนไม่รีบชำระความแค้นนี้ เพราะว่าเธอรู้ดีว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะละเลยปล่อยให้หมอที่ช่วยคนอื่นทำเรื่องชั่วๆเป็นอิสระแล้วอยู่เหนือกฎหมายได้

ดูเหมือนครั้งนี้เธอจะมาแล้วไม่ได้อะไรกลับไปเลย

แต่ที่เฉินเสียนมั่นใจได้ก็คือ คราบเลือดที่อยู่ในห้องรับแขกนี้ไม่ใช่ของปลอม

บางทีเธออาจมาช้าไปทำให้หมอที่ก่อเรื่องหนีไปแล้ว หรือไม่ก็เขาอาจจะยังไม่ทันหนี แต่โดนฆ่าปิดปากเสียก่อน

ดูจากคราบเลือดนั่นแล้ว สถาณการณ์น่าจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า

เพียงแค่ไม่รู้ว่าคนที่ฆ่าปิดปากเขานั้นแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่

“องค์หญิง แล้วพวกเราจะต้องทำอย่างไรดีเพคะ?”

“กลับกันเถอะ”

เฉินเสียนเปิดประตูลานบ้านออก เมื่อเพิ่งจะเดินออกจากลานบ้าน ก็ต้องหยุดฝีเท้าลง

ผนังกำแพงของตรอกที่ทรุดโทรมนั้นถูกปกคลุมไปด้วยสีเขียวของตะไคร้ มีคนคนหนึ่งยืนพิงกำแพงอยู่

เฉินเสียนมองจากทางด้านข้าง หรี่ตามองแล้วหรี่ตามองอีก เห็นเขาใส่ชุดสีดำผมสีดำ ขาข้างหนึ่งพิงกำแพงอยู่ มือขาวสะอาดกำลังควงสิ่งของสีเขียวชอุ่มอยู่ ที่ปากยังคาบไว้อยู่อีกอันหนึ่ง

ด้านข้างนั้นดูโดดเด่นไร้ที่ติ ดวงตาที่แคบยาวจิตใจจดจ่อกับสิ่งที่อยู่บนมือ

รูปร่างของเขาราวกับเป็นแสงสว่าง ส่องแสงให้ตรอกเส้นนี้สว่างไปทั้งตรอก

เฉินเสียนพูดกับเขาว่า “ซูเจ๋อ ท่านมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?”

ซูเจ๋อเงยหน้าขึ้นมา แล้วยิ้มให้กับองค์หญิง “โอ้ บังเอิญเสียจริง”

เฉินเสียนกระตุกมุมปาก “บังเอิญที่ไหนกัน ท่านอย่ามาพูดว่านี่การพบกันโดยบังเอิญ”

ซูเจ๋อพูดอย่างไม่กลัวเกรงว่า “ข้าบังเอิญมาแถวนี้จริงๆ องค์หญิงตามหาคนที่องค์หญิงหาพบหรือยัง?”

เฉินเสียนพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ปล่อยเขาไปแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี