ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 149

ซูเจ๋อจับมือเฉินเสียนไว้แน่น แล้วค่อยๆพาเธอเดินขึ้นไปบนภูเขาทีละก้าว

คนที่เดินด้านหน้าเป็นอย่างกับเทวดา แต่ข้างหลังกลับเป็นคนที่ไม่เต็มใจเดิน

ซูเจ๋อพูดเบาๆว่า “บนภูเขานี้มีหมาป่าจริงๆ เส้นทางเดินขึ้นภูเขาถูกปิดตั้งหลายนานแล้ว ไม่มีเสบียงส่งขึ้นมาเลย พวกมันน่าจะหิวมากแล้วล่ะ”

เฉินเสียนพูดประชด “เหอะ ถ้ายังเหลือลมหายใจอยู่ล่ะก็ ดีเลย พวกเราสองคนก็ขึ้นไปเป็นอาหารให้พวกมันถือว่าเป็นการช่วยชีวิตหมาป่าพวกนั้นไว้”

“คนที่มาเที่ยวที่นี่ต่างพากันมาเป็นครอบครัว ครอบครัวต่างรักชีวิตของพวกเขา พอได้ยินเรื่องเล่ากันว่ามีคนเจอหมาป่าบนภูเขานี้ เพียงแค่ได้ยินเขาเล่าแต่ยังไม่ได้เจอตัวจริงต่างก็พากันเชื่อแล้วก็ไม่กล้าขึ้นมาบนภูเขานี้กัน”

เฉินเสียนฟังแล้วก็งุนงง

ซูเจ๋อพูดต่อ“เจ้าหน้าที่ยังกลัว รักชีวิตตัวเอง เลยต้องปิดเส้นทางขึ้นเขา อีกไม่นานที่นี่ก็คงไม่ใช่สถานที่ที่คนมาเที่ยวชมสารทฤดูแล้ว”

“สรุปแล้วเรื่องหมาป่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”

ซูเจ๋อพูด“จริงๆแล้วคือเรื่องเท็จ ไม่อย่างนั้นท่านจะยังอยู่กับข้าหรือ”

ประโยคหลังเขาพูดเสียงต่ำลง เฉินเสียนได้ยินไม่ชัดเจน จึงถามว่า “ท่านพูดว่าอะไรนะ?”

ซูเจ๋อวางมาดจริงจังแล้วพูดว่า “ข้าพูดว่ายิ่งเดินไปบนภูเขามันจะยิ่งชัน เดี๋ยวท่านต้องจับข้าไว้แน่นๆ”

ทิวทัศน์บนภูเขาแห่งนี้บรรยากาศนั้นสวยงามมาก ทำให้เฉินเสียนอารมณ์ไม่ดีที่ก่อนหน้านี้ทะเลาะกับซูเจ๋อนั้นถูกลบไปหมด

เมื่อถึงเดินไปถึงครึ่งของสันเขา ทำให้มองเห็นใบเมเปิ้ลสีแดงราวกับเปลวไฟนั้นปกคลุมเต็มไปทั่วทุกพื้นที่

แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านใบไม้ลงมา ทำให้สถานที่แห่งนี้เงียบมาก

ชุดสีดำของซูเจ๋อปลิวไสว ผมข้างหลังที่ยาวสีดำนั้นปลิวไปตามลม ภายในสายลมนั้นดูแล้วอ่อนนุ่ม

หลังจากมองอยู่นาน ระหว่างพื้นที่ที่สีแดงฉานกับท้องฟ้า ดูเหมือนกับจะมีเพียงแค่เขาที่เป็นสีสันอื่น

ยิ่งเดินลึกเข้าไป พื้นดินยิ่งเรียบ ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่สลับกัน เฉินเสียนก็พบเห็นหุ่นไม้สามหัวหกแขนอยู่ระหว่างกลาง

ด้วยจิตใต้สำนึกของเฉินเสียนนั้นก็รู้ทันทีว่านั้นคือหุ่นไม้ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อจำลองมือและเท้า ไว้สำหรับผู้มีวิทยายุทธใช้ฝึกฝนวิชากัน

และอีกอย่าง ในจิตใต้สำนึกของเฉินเสียนไม่ได้รู้สึกว่าหุ่นไม้นั้นเป็นคนแปลกหน้า

เฉินเสียนรู้สึกเกิดความสงสัยขัดแย้งขึ้นมา ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เดิมทีแล้วท่านไม่ได้พาข้ามาชมทิวทัศน์”

ซูเจ๋อก็เดินไป เห็นได้ชัดว่าเขาใช้มือลูบไปที่หุ่นไม้นั้น แล้วพูดว่า “รู้สึกผิดหวังหรือ?”

เขาหมุนตัวกลับมา กระซิบกับเธอระหว่างที่ใบไม้ตกลงมา “หรือว่าท่านจะชอบใช้ชีวิตกับข้ามากกว่า?”

เฉินเสียนกัดฟันแน่น รู้สึกคันหัวขึ้นมาทันทีแล้วพูดว่า “ข้าชอบทะเลาะกับท่านมากกว่า”

ซูเจ๋อพูดต่อว่า “มา ถ้าท่านต่อสู้ชนะมัน ข้าจะร่วมต่อสู้กับท่าน”

“ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ถ้ามันยังไม่ขยับ ข้าก็จะใช้เท้าถีบมัน”

“จริงหรือ งั้นท่านลองดู” ซูเจ๋อหรี่ตาแล้วมองลึกลงไป

ทันใดนั้นเฉินเสียนก็เดินเข้าไป เตรียมพร้อมที่จะเอาเท้าถีบไปที่หุ่นไม้ แต่ไม่รู้เลยว่าซูเจ๋อที่ยืนอยู่ด้านหลังหุ่นไม้นั่นขยับมือและขยับเท้าอะไรบ้าง เพียงแค่เห็นเขากดลงไปที่หุ่นไม้ จากนั้นการปฏิบัติการทุกอย่างก็เริ่มขึ้น

แต่เดิมหุ่นไม้ที่ไม่มีชีวิต กลับกลายมีชีวิตขึ้นมา แล้วเริ่มยืดกิ่งก้านมาทางเฉินเสียน

เฉินเสียนที่ไม่ทันตั้งรับ ด่าออกมาชุดใหญ่ “ซูเจ๋อ! ท่านมันคนสารเลว!”

ซูเจ๋อนั่งลงบนพื้น นำขลุยไม้ไผ่ขึ้นมา แล้วพูดว่า“ มันไม่ได้เก่งอะไรหรอก แค่พละกำลังของท่าน ก็สามารถชนะมันได้”

เขาเป่าบรรเลงเพลงขลุยอย่างเชื่องช้า

เฉินเสียนคิดในใจ เขารู้ได้อย่างไรว่าตัวเธอมีกำลังวรยุทธ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี