ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 212

เสียงฝีเท้านี้แตกต่างจากเสียงฝีเท้าของซูเจ๋อตรงที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เบา ทว่าแฝงไปด้วยความหนักแน่นและกดดัน จะต้องเป็นคนของจวนอัครเสนาบดีอย่างแน่นอน

สีหน้าของซูเจ๋อยังคงนิ่งสงบ ทันใดนั้นวินาทีถัดมาเขาก็ดึงเฉินเสียนไปที่ประตูโถงไว้ทุกข์อย่างรวดเร็วโดยซ่อนตัวอยู่มุมกำแพงด้านข้าง

การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ไม้ประดับที่อยู่ข้างๆ ถูกปัดจนเกิดเสียงดังสวบสาบ

เฉินเสียนไม่ปรารถนาจะให้ซูเจ๋อเข้ามาใกล้เช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงผลักเขาพลางกัดฟันพูดเบาๆ ว่า “ไม่ว่าจะไปไหนทำไมท่านจึงทำตัวเหมือนเป็นวิญญาณตามติดไปทุกที่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน และข้าก็ไม่อยากพบท่าน!”

ซูเจ๋อกล่าวว่า “ข้ามาเตือนท่านว่าเฮ่อเซียงมาที่นี่แล้ว จนถึงตอนนี้ท่านยังคิดจะผลักข้าออกไปอยู่ไหม”

เฉินเสียนชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวว่า “ก็ได้ ข้าจะไม่ผลักท่านออกไป แต่ในเมื่อเขายังไม่เข้ามาท่านก็ปล่อยข้าไปสิ ตกลงไหม เฮ่อโยวยังอยู่ข้างในนั้น”

“ไม่ ข้าไม่ปล่อย” ซูเจ๋อกั้นเธอไว้ในมุมกำแพง “ถ้าท่านเข้าไป ท่านจะถูกเฮ่อเซียงสกัดไว้ในโถงไว้ทุกข์จนออกมาไม่ได้ มันจะเป็นผลเสียหากเขาเห็นว่าท่านแอบเข้ามาในเรือนของเขากลางดึกเช่นนี้”

“แล้วเฮ่อโยวล่ะ!”

ซูเจ๋อเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า “เขาเป็นบุตรของเฮ่อเซียง และเฮ่อเซียงก็รักเขาเสมอมา แม้แต่เสือที่ดุร้ายก็ยังไม่กินลูกของตัวเอง เรื่องระหว่างพ่อกับลูก ควรให้พ่อลูกแก้ไขปัญหากันเอง ท่านช่วยเฮ่อโยวมาถึงขนาดนี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว”

เฉินเสียนผลักเขาออกไปไม่ได้ ด้วยความรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมากเธอจึงกัดลงไปที่คอของซูเจ๋อ

แต่มุมกำแพงตรงนี้คับแคบมาก การซ่อนเฉินเสียนเพียงคนเดียวไม่ใช่ปัญหา ทว่าซ่อนซูเจ๋อได้ไม่มิด

ตัวของซูเจ๋อครึ่งหนึ่งยังคงอยู่ข้างนอก

ทันใดนั้นประตูห้องโถงกลางก็เปิดออก

เฮ่อเซียงเดินเข้ามาจากด้านนอก

เฉินเสียนรู้ว่าเธอยังออกไปเปิดเผยตัวต่อหน้าเฮ่อเซียงตอนนี้ไม่ได้ และซูเจ๋อก็เช่นกัน

ถ้าถูกเฮ่อเซียงพบเข้า ทั้งซูเจ๋อและเธอจะหนีไม่พ้น

ทั้งสองคนอยู่ในที่เดียวกัน ทั้งยังลักลอบเข้ามาในเรือนของเฮ่อเซียงในยามวิกาล

ครั้นแล้วแทบจะทันทีที่เฮ่อเซียงเปิดประตูเข้ามา เฉินเสียนก็ยอมปล่อยปากที่กัดคอของเขาและดึงเขาเข้ามาหาตัวอย่างรวดเร็ว

ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันและพอจะซ่อนเร้นอยู่ภายใต้เงามืดของแสงไฟที่หน้าประตูได้

เฉินเสียนกลั้นหายใจ ไม่รู้เลยว่าหัวใจของใครที่กำลังเต้นอยู่ในอกของเธอ

เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ซูเจ๋อกดเธอไว้ในซอกมุมและกอดเธอไว้แน่น

เธออยากจะสูดลมหายใจเข้าใจลึกๆ แต่รู้สึกว่าตนเองยังหายใจติดขัด

เธอคิดว่าซูเจ๋อผู้นี้เจ้าเล่ห์มาก

เป็นเช่นนี้เสมอ

เธอรู้ว่าซูเจ๋อจงใจ จงใจไม่ออกไป จงใจเข้ามาพัวพันกับเธอ

เหตุใดเขาจึงมั่นใจนักว่าเธอจะไม่ผลักเขาออกไป แต่จะดึงเขากลับมา?

ดูเหมือนว่าเธอจะตกหลุมพรางของเขาเสียแล้ว เป็นเธอเองที่พาตัวเองตกลงมาในกับดัก

ทั้งสองคนรอคอยอยู่เงียบๆ รอจนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าของเฮ่อเซียงเดินเข้ามา ใกล้โถงไว้ทุกข์เข้ามาเรื่อยๆ

“ซูเจ๋อ ท่านอย่าลืม ข้าเคยบอกไปแล้วว่าข้าเกลียดท่าน”

“ท่านกำลังเตือนข้าหรือว่าเตือนตนเอง”

ทันใดนั้นเอง เสียงอันเกรี้ยวกราดของเฮ่อเซียงก็ดังมาจากห้องโถงไว้ทุกข์ เป็นเสียงด่าทอดังมาแว่วๆ “เจ้าลูกอกตัญญู!”

เฉินเสียนได้สติและคิดจะดิ้นหนี ซูเจ๋อขยับเข้ามาชิดใบหูของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นว่า “ท่านไปไม่ได้ นั่นเป็นปัญหาของพวกเขา”

ในที่สุดเฉินเสียนก็เข้าใจอะไรๆ ขึ้นมา เธอถามว่า “ท่านเป็นคนทำให้เฮ่อเซียงมาที่นี่รึ”

“การถามมากเกินไปจะทำให้ท่านไม่มีความสุข”

“นั่นคือคำสารภาพหรือเปล่า” เฉินเสียนถาม “ท่านจงใจพาเขามา ทั้งยังคิดจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาพ่อลูกขาดสะบั้นด้วยรึ”

ซูเจ๋อกล่าวว่า “หากการตายของฮูหยินใหญ่มีเงื่อนงำจริงๆ ต่อให้คืนนี้พวกท่านค้นพบอะไร แต่ถ้าไม่มีใครเป็นพยาน ท่านคิดว่าจะมีคนเชื่อหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี