ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 213

เฉินเสียนหันกลับไปเห็นจี้อายุยืนของเจ้าน่องน้อยและพูดขึ้นมาอีกว่า “นำสิ่งนี้ออกไปด้วย” ว่าแล้วเธอจึงก้มลงไปปลดจี้อายุยืนออก

ใครจะคิดว่าอยู่ๆ เจ้าน่องน้อยจะตื่นขึ้นมาตอนนี้ เขาใช้มือเล็กๆ ป้อมๆ จับจี้อายุยืนไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย

แม่นมซุยรู้ว่าเธอไม่อยากเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับซูเจ๋ออีก เมื่อเห็นเช่นนี้นางจึงเอ่ยว่า “องค์หญิงเพคะ บ่าวเห็นแล้วคิดว่าเจ้าน่องน้อยคงจะชอบของชิ้นนี้ อีกทั้งการสวมจี้อายุยืนยังช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและช่วยให้อยู่เย็นเป็นสุขนะเพคะ”

เจ้าน่องน้อยไม่ยอมปล่อยมือ เฉินเสียนจำต้องยอมแพ้

พอตกดึกเฉินเสียนก็เข้านอน อวี้เยี่ยนช่วยกางผ้าม่านคลุมเตียงให้เธอ

เธอตะแคงข้างหันไปทางเจ้าน่องน้อย เธอเล่นกับฝ่ามือเล็กป้อมนั้นพลางกล่าวว่า “อวี้เยี่ยน เจ้าเองก็ไปนอนเถอะ”

เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอจึงจับจี้อายุยืนที่แขวนอยู่บนชุดของเจ้าน่องน้อย มันเรียบลื่นและเย็นสบาย เธอใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร จากที่ไม่มีใจก็เปลี่ยนเป็นมีใจ

ความไม่ตั้งใจต่างๆ นานาที่ผ่านมาในอดีต เมื่อนึกถึงในตอนนี้ ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้นมาในใจของเฉินเสียน

ความน่ารื่นรมย์ของเขา แขนเสื้อที่อ่อนนุ่มของเขา กลิ่นหอมจางๆ ของไม้กฤษณา ทั้งยังมีรอยยิ้มและไออุ่นของอ้อมกอด ความอ่อนโยนที่ฝ่ามือ คิดแล้วก็รู้สึกเหมือนได้กลับไปในวันวาน

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่า การลืมดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากกว่าที่เธอคิด

แต่นั่นไม่สำคัญ วันเวลาจะค่อยๆ ผ่านไป ตราบใดที่ไม่เห็นเขาอีกต่อจากนี้ ภาพต่างๆ ที่อยู่ในความทรงจำจะค่อยๆ เลือนรางไปเอง

ในตอนกลางคืนเฉินเสียนมักจะนอนไม่หลับ

เธอมักจะฝันถึงเรื่องที่แปลกประหลาดวุ่นวายมากมาย

เฉินเสียนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เธอลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจและยังตกอยู่ในภวังค์ ใบหน้าของเธอมีเลือดฝาด เธอเอื้อมมือไปแตะหน้าผากซึ่งมีเหงื่อผุดพราย ปลายนิ้วของเธอเย็นเยียบ ปากก็พึมพำออกมาว่า “ซูเจ๋อ...”

เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอจึงเห็นว่าภายในห้องว่างเปล่า เจ้าน่องน้อยยังคงหลับสบาย

เธอมึนงงสับสนเป็นอย่างมาก ราวกับว่าเธอเห็นเขาในความฝัน แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยฝันถึงเขา

เฉินเสียนลุกจากเตียง สวมรองเท้าและเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งนั้นแล้วมองผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเองในกระจก

เธอรวบผมอย่างลวกๆ และเปิดลิ้นชักดูทีละช่องราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่าง ทว่าเธอหาจนทั่วแต่ก็หาไม่พบ

ลิ้นชักตกลงมาบนพื้นจนเกิดเสียงดัง

แม่นมซุยค่อนข้างตื่นง่าย ตอนนี้ถึงเวลาให้นมเจ้าน่องน้อยพอดี เมื่อเข้ามาเห็นความยุ่งเหยิงภายในห้อง นางก็อดถามอย่างตกใจไม่ได้ว่า “องค์หญิงกำลังหาอะไรอยู่หรือเปล่าเพคะ”

เฉินเสียนตกใจตื่นจากภวังค์ เธอวางมือบนหน้าผากก่อนจะถอนหายใจและบอกว่า “ไม่มีอะไร ไม่ได้หาอะไร ข้าแค่ฝันร้ายจึงนอนไม่หลับ”

อวี้เยี่ยนเป็นคนดูแลกิจวัตรประจำวันทุกอย่างของเฉินเสียน แม่นมซุยเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงไปปลุกอวี้เยี่ยนขึ้นมา

อวี้เยี่ยนมองสภาพห้องที่ยุ่งเหยิง จากนั้นก็มองเฉินเสียนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและถามอย่างห่วงใยว่า “องค์หญิงกำลังหาอะไรอยู่เพคะ บ่าวจะได้ช่วยหา”

เฉินเสียนส่ายหน้าและกล่าวซ้ำเหมือนเดิมว่า “ข้าฝันร้าย”

หลังจากแม่นมซุยให้นมเจ้าน่องน้อยเสร็จ นางจึงออกไปและทิ้งให้อวี้เยี่ยนอยู่ในห้อง

เฉินเสียนเอนกายหนุนหมอนและนอนตะแคงหันหลังให้นาง

ผ่านไปครู่หนึ่งอวี้เยี่ยนก็มาหมอบอยู่ที่เตียงและพูดขึ้นว่า “นี่คือสิ่งที่องค์หญิงกำลังมองหาใช่ไหมเพคะ”

เฉินเสียนชะงักนิดหนึ่ง เธอมองขลุ่ยไม้ไผ่ที่อวี้เยี่ยนส่งมาให้

ยังคงเป็นขลุ่ยที่เธอมักจะพกติดตัวก่อนหน้านี้ ที่ด้านบนมีรอยเส้นที่ชัดเจน เล็กกะทัดรัดและประณีตสวยงาม

เธอเอื้อมมือไปคว้ามันไว้ถือไว้ในมือ

อวี้เยี่ยนกล่าวว่า “องค์หญิงตรัสว่าไม่อยากเห็นมัน ดังนั้นบ่าวจึงวางมันไว้ที่ใต้ชุดกระโปรงขององค์หญิง”

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่อวี้เยี่ยนจึงกล่าวว่า “บ่าวคิดว่าองค์หญิงตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับเขา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี