ดังคาด เถ้าแก่คิดจะสอบถามให้ละเอียดยิ่งขึ้น เอ่ยด้วยเสียงโศกเศร้า "ใกล้จะเจรจาสงบศึก ทั้งสองแคว้นจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติภาพ ยามนี้เหตุใดท่านแม่ทัพยังต้องยกทัพตีเย่เหลียงอีกเล่า? การแพ้สงครามครั้งก่อนก็ย่ำแย่เต็มทนแล้ว หากเกิดการรบขึ้นมาอีกจริงๆ สองแคว้นยังจะเจรจาให้เกิดสันติภาพได้อีกหรือ?"
ซูเจ๋อกล่าวเสียงเรียบเฉย "ต้าฉู่กับเย่เหลียงจริงใจต่อการเจรจาสันติภาพโดยแท้ ทว่าแม่ทัพจ้าวทำโดยพลการ ได้ยินมาว่าองค์จักรพรรดิแห่งเย่เหลียงเดินทางมาถึงเขตชายแดนแล้ว หากแม่ทัพจ้าวลอบทำร้ายสำเร็จ จะเป็นทางลัดในการพลิกสถานการณ์รบได้เร็วที่สุดเลยทีเดียว"
เถ้าแก่รีบผงกศีรษะกล่าว " มิสมควรสู้รบกันอีก มิสมควรจริงๆ ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าศึกครั้งนี้จะต้องมีคนตายอีกเท่าไหร่ ใช่ว่าจักรพรรดิเย่เหลียงจะลอบทำร้ายกันได้ง่ายๆ แขกทั้งสองท่านค่อยๆกิน ข้าไม่รบกวนแล้ว"
จากนั้นเฉินเสียนพลันเห็นเถ้าแก่เข้าครัวด้านหลัง ซึ่งเข้าไปแล้วก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย
เฉินเสียนคิดจะยกเหล้าหมักสับปะรดที่ยังเต็มขวดขึ้นมา พึ่งจะได้สัมผัสขวดเหล้าพลันถูกซูเจ๋อยกมือรั้งไว้
ซูเจ๋อกล่าว "ดื่มน้อยเสียหน่อย"
เฉินเสียนไม่ได้ยืนกระต่ายขาเดียว เอ่ยว่า "งั้นข้าเอากลับไปให้เฮ่อโยวชิมละกัน"
"ได้"
จวบจนถึงเวลาคิดเงินก็ไม่เห็นเถ้าแก่ปรากฏกาย
ซูเจ๋อวางเงินย่อยไว้บนโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า "คาดว่าเถ้าแก่คงยุ่งอยู่ ไปกันเถิด"
"ร้านเขาไม่มีแขก จะยุ่งอันใดเล่า?" เฉินเสียนเอ่ยโพล่งออกมา
ซูเจ๋อกล่าว "อาจยุ่งกับการไล่ตีหนูก็เป็นได้"
เดินออกมาได้สักพัก ทันใดนั้นเฉินเสียนเอ่ยเพิ่มว่า "ที่แท้ท่านเตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นนี้นี่เอง ท่านมั่นใจนับหรือว่าจ้าวเทียนฉีจะก่อเหตุลอบทำร้าย?"
"เขาไม่ไปก็สามารถยุแยงเขาได้ หากยุแยงไม่เป็นผล ให้เย่เหลียงระวังเพิ่มขึ้นก็ไม่มีผลเสียอันใด"
เฉินเสียนมองเขาพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า "ท่านทำเยี่ยงนี้ถือว่าเป็นผู้ขายชาติโดยสมคบกับศัตรูหรือไม่?"
ไม่เคยเล่าอันใดให้เธฮฟังเลย เธอต้องคอยคาดเดาอยู่ร่ำไป เมื่อคาดเดาจนเหนื่อยล้า จึงพลั้งปากถามประโยคนี้ออกมา
ความเสียใจผุดขึ้นมากลางอก อยากเก็บคำพูดกลับมาก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
"ขายชาติ?" ซูเจ๋อกล่าวยิ้มเจือจาง "หากเช่นนี้คือการสมคบคิดกับศัตรูมาทำลายชาติ ใช่ก็ใช่ สุดแล้วแต่ข้าไม่อินังขังขอบ"
ทั้งที่รู้ว่าถามเช่นนี้จะเป็นการทำร้ายจิตใจเขา หากแต่หลังเฉินเสียนได้ยินคำตอบจากเขา เธอยิ่งรู้สึกเสียใจเพิ่มขึ้น
เฉินเสียนกล่าว "ไยท่านต้องยึดติดกับชาติบ้านเมืองในอดีตด้วยเล่า?"
"เพราะมีเพียงหนทางนี้ ท่านกับเจ้าน่องน้อยถึงไม่ถูกผู้อื่นข่มเหงรังแก ข้ายินดีให้พวกท่านรังแกคนใต้หล้าแทน"
หยาดน้ำตาเฉินเสียนคลอเบ้า นัยน์ตาเริ่มแดงก่ำ
พอใกล้กลับถึงจวน ซูเจ๋อกระซิบกระซาบต่อเธอว่า "งานเลี้ยงราตรีคืนนี้ เมื่อท่านพบจ้าวเทียนฉี ท่านยุแยงเขาได้หรือไม่"
เฉินเสียนเอ่ย "ท่านว่าเขาหมายปองข้า เช่นนั้นข้าเป็นผู้ยุให้เขาไปลอบทำร้ายจะเห็นผลดีกว่า"
เธอเดินอยู่เบื้องหน้า ก้าวเข้าประตูธรณีก่อน พลางกล่าวกะทันหันว่า "เห็นที ภายภาคหน้าข้าต้องร่วมทำเรื่องเลวๆกับท่านเสียแล้ว"
"ขออภัยที่ข้าทำให้ท่านลำบากใจ"
"ข้าก็ไม่อยากให้เจ้าน่องน้อยโดนรังแกในอนาคต ยังมีอีก เพราะเป็นท่าน ซูเจ๋อ"
ซูเจ๋อชะงักค้าง
หลังจากซูเจ๋อกับเฉินเสียนออกมาจากโรงเหล้าขนาดย่อม ไม่นานก็มีหนูหลายตัววิ่งออกจากโรงเหล้าอย่างแตกตื่นและหวาดกลัว
เสมือนถูกเถ้าแก่ไล่ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...