พอมาถึงค่ายทหาร ที่ราบและพื้นกว้างก็เต็มไปด้วยกระโจมทรงกลม
ทหารเคลื่อนที่ไปมาระหว่างกระโจม มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา
ภายหลังเฉินเสียนพึ่งได้ทราบ จักรพรรดิเย่เหลียงเดิมทีก็อยู่ที่ค่ายทหารนี่เช่นกัน หลังจากที่ได้รับข่าวสารล่วงหน้าว่าต้าฉู่อาจจะมาซุ่มโจมตี จักรพรรดิเย่เหลียงก็รีบมาภายในคืนนั้นเลย
ถ้าหากเฉินเสียนและซูเจ๋ออยากเจอจักรพรรดิ จำเป็นต้องไปเมืองชายแดนของเย่เหลียง
ในเวลานี้ฟ้าก็มืดแล้ว พวกเขายังต้องเดินทางไปเมืองชายแดนในวันรุ่นขึ้นอีก
ในค่ายทหารได้เก็บกวาดและเตรียมกระโจมได้ทันเวลาสำหรับที่จะให้ทั้งสองพักชั่วคราว นอกกระโจมมีทหารกลุ่มหนึ่งคุ้มกันอยู่ ทั้งสองไม่สามารถออกไปได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะออกไปธุระอื่นก็ต้องให้ทหารของเย่เหลียงตามติดไปด้วย
แม่ทัพเย่เหลียงยังบอกอีก ทางที่ดีที่สุดอย่าออกไปเดินด้านนอก นี่เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตามด้านนอกเป็นทหารของเย่เหลียงทั้งหมด ถ้าหากมีคนเลือดร้อนเข้ามาด้วยเจตนาไม่ดีต่อพวกเขาก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
กระถางไฟด้านนอกมีแสงส่องสว่าง มันก็จะส่องแสงสว่างมากขึ้นก็ต่อเมื่อฟ้ามืดลงเรื่อยๆ
ต่อมาด้านนอกได้ส่งอาหารมา เพื่อให้เฉินเสียนและซูเจ๋อได้ทาน
อาหารในค่ายไม่ดี เป็นอาหารที่เฉินเสียนเคยทานมาแล้วก่อนหน้านี้ ดูแล้วไม่ประณีตและไม่มีความละเอียดเลย
ทั้งสองไม่ได้ขยับแต่อย่างใด
รอจนผ่านเวลามื้อค่ำไป ช่วงที่ทหารมาเก็บถ้วยและตะเกียบนั้น ก็ยกออกไปเหมือนเดิม
อาหารไม่กี่อย่างพวกนี้ สำหรับทหารในค่ายทหารแล้ว เป็นสิ่งที่ต้องเจอและมิอาจร้องขอได้
ในวันธรรมดาทั่วไปทหารก็จะทานหมั่นโถวแก้หิวกัน
บัดนี้อาหารสะอาด ไม่ได้ถูกแตะต้อง ถ้าหากเอาไปเททิ้งคงเสียดายแย่ ดังนั้นทหารที่ยกอาหารมาส่งก็เลยอาศัยจังหวะที่รอบข้างไม่มีคน แอบหลบมุมทานด้วยความกระหายหิว
อาหารยังทานไม่ทันหมด สีหน้าของทหารผู้นั้นก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง ทรุดลงกับพื้นแล้วเกิดอาการชักอยู่ชั่วขณะ หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ขณะที่รอให้ทหารลาดตระเวนมาเจอ เขามีอาการเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด ถูกวางยาจนเสียชีวิต
ทันใดนั้นในค่ายก็เกิดการเตือนให้ระวัง แล้วรีบไปรายงานแม่ทัพเย่เหลียง
ขณะที่แม่ทัพใหญ่รีบมาที่กระโจมของทั้งสองคนนั้น เห็นว่าเฉินเสียนและซูเจ๋อสบายดี เลยถอนหายใจ แล้วรีบออกคำสั่งตรวจสอบคนที่ถูกวางยาอย่างเคร่งครัด
ในกองทหารเย่เหลียงมีคนอยากจะให้เฉินเสียนและซูเจ๋อตาย เพื่อยุให้เกิดสงครามของทั้งสองอาณาจักร
เฉินเสียนรู้ดี ถึงแม้ว่าอาหารที่ส่งมาจะเป็นอาหารที่เธอชอบก็ตาม เธอก็คงไม่เสี่ยงที่จะทาน
เฉินเสียนถอนหายใจ:“น่าเสียดายอาหารพวกนั้น”
ซูเจ๋อ:“ครั้งนี้ทานไม่ได้ ครั้งหน้ายังมีให้ทานนะ”
“ยังไงซะตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำ พวกเราออกไปดูสถานการณ์กันเถอะ” เฉินเสียนเสนอ
หลังจากนั้นเธอกับซูเจ๋อก็ออกไปด้านนอกกระโจม ด้านหลังมีทหารกลุ่มหนึ่งตามติด
ด้านนอกวุ่นวายเล็กน้อย เขาทั้งสองเดินไปทางที่มีผู้คนอยู่มากมาย แม่ทัพใหญ่ของเย่เหลียงก็อยู่ทางนั้นเช่นกัน ทหารที่ถูกวางยายังไม่ทันได้ยกไป
แม่ทัพใหญ่หันหน้ามามองเฉินเสียน:“องค์หญิงจิ้งเสียนหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้เถอะ สถานการณ์การตายนี้น่ากลัวอย่างแปลกประหลาด เพื่อจะได้มิให้องค์หญิงตกใจ”
เฉินเสียนเดินขึ้นมาด้านหน้า แล้วพูด:“ข้าดูหน่อยว่าจะแปลกประหลาดสักแค่ไหนกันเชียว”
หลังจากที่รอให้กลุ่มคนแยกย้าย หลังจากนั้นก็ยืมแสงไฟมองทหารบนพื้นที่ถูกวางยาพิษ เฉินเสียนก็นิ่งอึ้งไป
สีหน้าของทหารม่วงๆเขียวๆ เลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด มันน่ากลัวจริงๆ แต่ทว่าลักษณะอาการของการถูกวางยานั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อน
ทหารที่ถูกวางยาถูกยกไปแล้ว แม่ทัพใหญ่มาส่งเฉินเสียนกลับกระโจมด้วยตัวเอง
ซูเจ๋อพูดออกมาเบาๆ:“มีคนเจตนาจะทำร้ายองค์หญิง คงคิดจะทำลายการเจรจาสงบศึกของทั้งสองอาณาจักร เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่ดีต่อองค์หญิงในคืนนี้อีก ข้าว่าข้าอยู่ร่วมกระโจมกับองค์หญิงคงมั่นใจได้มากกว่า อีกอย่างก็เพื่อคุ้มกันอันตรายและดูแลความปลอดภัยขององค์หญิง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...