ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 267

จากนั้นก็มีเสียงพูดขึ้นกับเธออย่างอ่อนโยนว่า เธอคือองค์หญิง พวกเราควรที่จะรักใคร่ในตัวท่านอย่างถวายชีวิต มีเพียงแค่คนที่เกิดมาในฐานะต้อยต่ำ ที่คิดจะเรียกร้องความเสมอภาค

คนที่เข้ามาคุยกับเธอ น่าจะเป็นราชครูที่สอนอยู่ในสำนัก เหมือนเป็นคนที่อยู่กับเธอด้วยกันตลอดเวลาอีกคนหนึ่ง

คำพูดของเขาเป็นพลังอย่างหนึ่งที่ทำให้รู้สึกมั่นคง ทำให้เธอค่อยๆสงบลงได้

ชั่วพริบตาเดียว ทั้งโลกก็เหมือนราวกับประสบเหตุเภทภัยอย่างร้ายแรง

ยามพลบค่ำถูกปกคลุมเต็มไปด้วยสีแดง

มีเสียงร้องไห้อยู่ทุกหนทุกแห่ง มีผู้คนล้มตายอยู่ทุกหนทุกแห่ง เธอแอบอยู่ที่มุมห้อง บนตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด กลัวจนเนื้อตัวสั่น

ในมือกอดหุ่นกระบอกสุดที่รักเอาไว้ หุ่นกระบอกนั้นถูกแกะสลักเป็นรูปหน้าตาของเธอไว้อย่างเลือนราง

หุ่นกระบอกนั้นไม่ได้ถูกกอดไว้แน่น จึงร่วงลงไปในกองเลือด เธอหยิบมันขึ้นมาจากกองเลือดแล้วใช้ผ้าที่หรูหราเช็ดลงไปอย่างรุนแรง

เธอเคยเจอเด็กชายที่มีแสงสว่างมาก่อน เพียงแต่เสียดายที่แสงสว่างบนตัวเด็กชายนั้นไม่ได้สะอาดเหมือนเดิมอีกแล้ว

เขารูปร่างสูง อาบน้ำเลือดกลับมา ร่างกายเต็มไปด้วยรอยการต่อสู้

มีคนที่อยู่ด้านหลังพลักเธอไปทางเขา แล้วยังพูดข้างๆหูเธอด้วยเสียงต่ำอย่างมั่นคงว่า “อาเสี่ยน ไปอยู่ข้างๆเขา มีเพียงแค่เขาที่จะทำให้เจ้ามีชีวิตต่อไปได้ เจ้าต้องมีชีวิตที่ดี”

เขาคือท่านแม่ทัพที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง แล้วเธอคือองค์หญิงสูญเสียเอกราช

เธอคือคนที่ควรถูกฆ่า ต่อไปจะได้ไม่มีรัชทายาทให้เป็นกังวล แต่เวลานั้นเขาที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ทุกด้านหมดแล้ว เห็นเธอที่กำลังจนตรอก ดาบที่อยู่ในมือจึงไม่ได้แทงเข้าไป

เข้าพูด “เป็นเพียงแค่องค์หญิง ไว้ชีวิตเธอเพื่อแสดงถึงความเมตตาขององค์จักรพรรดิ เพื่อให้ประชาชนใต้หล้าชื่นชมและนับถือด้วยความจริงใจ ”

เฉินเสียนลืมตาทั้งสองข้างอย่างทันที

ราวกับว่ายังมีรอยเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่เหมือนหมอกในค่ำวันนั้นยังไม่จางหายไปไหน

หัวใจเธอเต้นอย่างรุนแรง

จิตใต้สำนึกของเธอนั้นสับสนวุ่นวาย ลืมไปว่าตัวเองอยู่แห่งใด แล้วก็ลืมไปเลยว่าคนที่อยู่ข้างกายนั้นคือใคร

เหมือนเธอกำลังจับฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตเอาไว้ จึงใช้แรงกอดไปที่เอวของซูเจ๋ออย่างแน่น

เธอนอนฝันร้ายจริงๆ

เมื่อก่อนที่ฝันเห็นมันเป็นเพียงแค่กลิ่นคาวเลือดอย่างจางๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเลือดได้ชัดเจนขนาดนี้

เธอรู้ เรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเฉินเสียนจริงๆ

เวลานั้นเธอยังเด็กมาก เธอไม่มีทางที่จะแบกรับภาระความกดดันได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นคนบ้าและโง่เขลา

ในความฝันคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ มีน้ำเสียงที่สุขุมน่าฟังเหมือนกับเสียงของซูเจ๋อ

“ใช่ท่านไหม?” เฉินเสียนพูดบ่นพึมพำ

“อะไรรึ?”

“คนที่ยืนอยู่ข้างหลังข้ามาโดยตลอด คือท่านใช่ไหม?” เธอเงยหน้าขึ้น มองซูเจ๋ออย่างสับสน “ตอนนั้นก็เหมือนตอนนี้ใช่หรือไม่ เพียงแค่ข้าเงยหน้าหรือหันหลัง ก็จะเห็นท่านได้อย่างชัดเจน?”

เบ้าตาเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

สีหน้าของซูเจ๋อเคร่งขรึม ใช้นิ้วลูบเหงื่อที่หน้าผากของเธออย่างพิถีพิถัน แล้วพูดว่า “ฝันร้ายจริงๆด้วย”

เฉินเสียนถอนหายใจยาว สงบสติอารมณ์ แล้วพยักหน้า “ใช่ ข้าฝันร้าย”

เธอฝันถึงฉินหรูเหลียง ฝันถึงหลิ่วเชียนเสวี่ย แต่กลับไม่ฝันถึงซูเจ๋อ

เธอได้ยินเพียงแต่เสียงของเขา สงบนิ่งไม่สะทกสะท้านแต่อย่างไร ไม่มีอาการตื่นตระหนก

เฉินเสียนลืมไปว่าฉินหรูเหลียงนั้นอยู่ห้องขังข้างๆ เธอคิดเพียงที่จะกอดซูเจ๋อไว้ให้แน่น

หลังจากใช้เวลาอยู่นานจึงสงบจิตใจลงได้ เฉินเสียนพูดอย่างกระซิบว่า “ซูเจ๋อ ข้าหิว”

ดวงตาของฉินหรูเหลียงที่อยู่ใต้เส้นผมจ้องมองออกมาอย่างตกใจ

เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเฉินเสียนกอดกับผู้ชายคนอื่นอย่างอาลัยอาวรณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี