แสงเทียนริบหรี่ในยามค่ำคืน
เฉินเสียนฟุบหลับอยู่ที่ข้างเตียงของซูเจ๋อตามปกติ
มือทั้งสองข้างที่วางนิ่งอยู่ข้างลำตัวของเขาทั้งขาวสะอาดและงดงามสมบูรณ์แบบประหนึ่งหยกชั้นดีที่มีความอ่อนโยน นิ้วเรียวยาวของเขางอเล็กน้อยจนเกิดส่วนโค้งที่สวยงาม
เส้นผมเล็กละเอียดบนไหล่ของเฉินเสียนร่วงหล่นลงมาปรกนิ้วของซูเจ๋อและพันอยู่บนนิ้วของเขาอย่างแผ่วเบา
นิ้วของซูเจ๋อขยับเบาๆ จนแทบจะไม่สังเกตเห็น
นี่เป็นอีกคืนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสงบ
เฉินเสียนห่วงใยเพียงแค่ซูเจ๋อ เธอไม่ได้สนใจสถานการณ์ปัจจุบันของต้าฉู่และเย่เหลียงเลยแม้แต่น้อย
เดิมทีพวกเขาควรกลับไปที่เขตชายแดนของต้าฉู่นานแล้ว และนี่ก็ผ่านมาแล้วหลายวัน
ตอนแรกต้าฉู่คิดว่าฝ่ายเย่เหลียงปฏิเสธที่จะส่งตัวองค์หญิงจิ้งเสียน ทูต และแม่ทัพกลับคืนต้าฉู่ แต่เมื่อเจรจาหารือกันแล้วจึงยืนยันได้ว่าพวกเขาถูกซุ่มโจมตีระหว่างทางกลับ
ดังนั้นจึงต้องรอให้หายจากอาการบาดเจ็บเสียก่อนจึงจะเดินทางกลับไปยังต้าฉู่อีกครั้ง
พวกเขาถูกโจมตีในเขตแดนของเย่เหลียง ซึ่งนั่นทำให้ต้าฉู่มีหลายสิ่งที่อยากจะพูด
เรื่องที่นักฆ่าซึ่งปลอมตัวเป็นทหารของเย่เหลียงเหล่านั้นเป็นใครมาจากไหนยังคงต้องสืบสวนกันอย่างละเอียด ถ้าหากไม่ได้ตั้งใจก่อให้เกิดเป็นชนวนสงครามอย่างไม่แยกแยะถูกผิด ก็คงมีคนที่จงใจยุยงให้เกิดความขัดแย้ง
ดังนั้นฝ่ายต้าฉู่จึงหยุดการเคลื่อนไหวของกองทัพชั่วคราวเพื่อรอให้เย่เหลียงอธิบาย
ตอนพลบค่ำวันนี้เฉินเสียนนำยาไปป้อนให้ซูเจ๋อตามปกติ หลังจากใช้น้ำสะอาดเช็ดปากให้เขา เธอก็เดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท
ดวงตะวันรอนอยู่หน้าภูเขาและแสงของดวงตะวันสาดก็สาดส่องเข้ามาจนทำให้ห้องกลายเป็นสีทองอร่าม
ย่างเข้าสู่สารทฤดูแล้ว แสงอาทิตย์บนภูเขายิ่งดูสวยงามตระการตา พร้อมกันนั้นความอบอุ่นก็เริ่มหายไป
อากาศภายในห้องค่อนข้างเย็นสบายและกลิ่นยาข้นๆ ก็ลอยอบอวลไปทั่วอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
ในวันธรรมดาที่เรือนแห่งนี้มีนางกำนัลมาคอยปรนนิบัติแค่ไม่กี่คนเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของผู้คน เมื่อใดก็ตามที่มีความจำเป็นบางอย่าง การสื่อสารจึงไม่ค่อยทันท่วงที
ดังนั้นเวลาที่เฉินเสียนต้องการอะไรหรือไม่ต้องการอะไร เธอจะไปที่นอกลานเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการให้กับนางกำนัลที่อยู่ด้านนอกทราบ
ตอนกลางดึกยังต้องต้มยาอีกหนึ่งครั้ง ดังนั้นเฉินเสียนจึงหยิบหม้อที่ใช้ต้มยา ถ้วยยา รวมถึงเครื่องใช้อื่นๆ ออกไปข้างนอกเพื่อให้นางกำนัลนำไปทำความสะอาดและนำกลับมาให้ภายในครึ่งชั่วโมง
เธอกลับเข้ามาในเรือนและเดินไปยังห้องที่ประตูถูกเปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่ง
ทันทีที่ก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูและเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าของเฉินเสียนก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเธอก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ตอนที่เธอออกไปเมื่อครู่ทุกอย่างยังปกติดี ซูเจ๋อยังคงนอนหลับอยู่เงียบๆ บนเตียงนั่น แต่ตอนนี้หลังจากเธอออกไปเพียงครู่เดียว พอกลับมาอีกครั้งกลับพบว่าบนเตียงว่างเปล่า ไม่มีเงาของซูเจ๋ออยู่บนนั้น!
เขาอยู่ไหน
ซูเจ๋อหายไป
เฉินเสียนใจหายวูบ เธอหันหลังเตรียมจะออกไปตามหา
แต่ในขณะนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นออกมาจากมุมอับด้านหลังประตูที่เปิดแง้มอยู่ครึ่งหนึ่งและคว้าลงมาที่ข้อมือของเฉินเสียนอย่างแม่นยำโดยไม่ให้ทันรู้เนื้อรู้ตัว
เฉินเสียนสะดุ้ง ยังไม่ทันตอบสนองอะไร วินาทีถัดมาร่างของเธอก็ถูกดึงเข้าไปข้างในอย่างแผ่วเบา
แผ่นหลังของเธอถูกดันไปติดชิดกับผนังข้างประตู
กลิ่นของยาที่จู่โจมเข้ามาพร้อมกับกลิ่นอายจางๆ ของไม้กฤษณาทำให้เฉินเสียนหายใจติดขัด
หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อย เมื่อเหลือบตาขึ้นมองและเห็นคนตรงหน้าที่กำลังเข้ามาประชิดตัวเธอชัดๆ ขอบตาของเธอก็แดงก่ำ นัยน์ตาเป็นประกายระยับด้วยความชุ่มชื้นที่หลั่งไหลออกมา
เส้นผมที่ยุ่งเหยิงของเขาร่วงลงมาปรกไหล่ซึ่งพาดเสื้อคลุมเอาไว้อย่างลวกๆ สีหน้าของเขาดูอ่อนโยน ที่หน้าผากยังคงถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาว ใบหน้ายังคงขาวซีดและซูบเซียว
แต่รูปลักษณ์เช่นนี้คือสิ่งที่เฉินเสียนฝันอยากจะเห็น
เธอเห็นดวงตาของเขาหรุบลงครึ่งหนึ่ง เหมือนจะชัดเจนแต่ก็เหมือนจะเลือนราง นัยน์ตาคู่นั้นล้ำลึกราวกับจะเก็บท้องฟ้าไว้ได้ทั้งหมด เธอเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในดวงตาของเขา
เธอยังไม่ทันพูดอะไรออกไปสักคำ ความรู้สึกตื้นตันก็จู่โจมเข้ามาอย่างท่วมท้นจนขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...