ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 363

เมื่อตำแหน่งนี้ว่าง ไม่รู้ว่ามีกี่คนในราชสำนักที่ต้องการขจัดออก ตอนนี้ถูกเฮ่อโยวสกัดกั้นไว้ระหว่างทาง ยิ่งไม่รู้ว่ามีอีกกี่คนที่คอยจะจ้องจับผิดเฮ่อโยว

เพียงถ้าเขาทำผิดอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ต้องมีขุนนางยื่นมติไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าเฮ่อเซียงนั้นรู้ถึงข้อดีและข้อเสียนี้ จึงเอ่ยว่า “เฮ่อโยว มันไม่ใช่เรื่องดีอะไร เดี๋ยวข้าจะกลับไปคุยกับองค์จักรพรรดิ มันยากสำหรับเจ้า ขอร้องให้จักรพรรดิคืนคำสั่งที่ประกาศออกมาแล้ว”

เฮ่อโยวพูด “ท่านมักคิดว่าข้าทำไม่ได้ ตอนแรกที่ไปเจรจาสันติภาพกับเย่เหลียงท่านก็คิดว่าข้าทำไม่ได้ แต่นั้นข้าก็ทำได้ดีใช่หรือไม่?ในสายตาของท่าน มีเพียงแค่เฮ่อฟั่งเท่านั้นที่ท่านคิดว่าจะทำได้หรอ?”

เฮ่อเซียงเงียบแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดอะไรกัน ข้ากลัวว่าเจ้า……”

สายตาของเฮ่อโยวเคร่งขรึม เป็นสิ่งที่เฮ่อเซียงไม่ค่อยจะได้เห็น เขาพูดขึ้นว่า

“ในตอนนั้นเฮ่อฟั่งฆ่าท่านย่า ท่านก็ทำได้แค่ไล่เขาออกไป ถ้าเขาฆ่าข้า ท่านก็จะไม่ทำอะไรเขา ไม่เป็นไร ความแค้นของท่านย่า แล้วความแค้นที่เขาฆ่าชิงซิ่งโดยไม่มีเหตุผล ข้าจะเป็นคนแก้แค้นเอง”

เฮ่อโยวถือพระราชโองแล้วเดินหันไป จึงพูดขึ้น “เขาเก่งนักรึ ครั้งนี้ถ้าไม่ได้ฉีกหน้าเขาด้วยมือของข้าเอง ข้าก็ไม่ใช่เฮ่อโยวแล้ว”

เหลือเพียงเฮ่อเซียงที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

วันที่สองเฮ่อโยวเข้ารับดำรงตำแหน่งฝ่ายพิธีการ

แม้จะมีสายตามากมายที่คอยจับจ้องเขา แม้แต่เพื่อนขุนางที่ร่วมงานกันจะแอบเอารองเท้าคู่เล็กให้เขา เขาก็ไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย

เขาเพียงต้องการที่จะเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับญาติที่ถูกสังหารไป ถึงแม้เริ่มแรกมันจะยากแต่ก็จำเป็นต้องทำ

ไม่เพียงแค่เหล่าขุนนางนับร้อยที่คอยเฝ้าดูเขา องค์จักรพรรดิเองก็ยังคอยเฝ้ามองเขาอยู่เบื้องบนอีกด้วย มองว่าเขาจะมีปณิธานมุ่งมั่นที่จะฝ่าฝั่นในสถานการณ์ที่ยากลำบากได้มากน้อยแค่ไหน

วันแรกของเวลาราชการ เฮ่อโยวสวมชุดเครื่องแบบขุนนาง ยืนอยู่ท่ามกลางขุนนางนับร้อย

เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาสัมผัสกับงานราชการในราชสำนักอย่างแท้จริง เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ฟังอยู่อย่างเงียบๆ

เมื่อถึงเวลาเลิกราชการขุนนางนับร้อยก็ถอนตัวออกจากราชสำนัก ต่างคนก็จับกันเป็นกลุ่มเล็กๆ มีแต่เฮ่อโยวที่อยู่คนเดียวเพียงลำพัง

เฮ่อฟั่งตั้งใจก้าวเท้ามาด้านหลังของเฮ่อโยว แล้วก้าวไปเหยียบชายเสื้อของเฮ่อโยว

เฮ่อโยวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย จึงล้มลงไปทันทีอย่างน่าเวทนา

ขุนนางที่อยู่บริเวณรอบๆนั้นจึงหยุดเดิน หันไปมองเฮ่อโยวแล้วหัวเราะ

เฮ่อฟั่งยื่นมือไปทางเฮ่อโยว ด้วยน้ำใจจริงแล้วพูดว่า “ใต้เท้าเฮ่อไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

เฮ่อโยวหน้าคว่ำลงกับพื้นครู่หนึ่ง หมัดที่กำเอาอย่างแน่นถูกคลายออก ลุกขึ้นมาอย่างลำบาก ริมฝีปากบวมจากการที่กระแทกพื้น

เขาจับมือเฮ่อฟั่งแล้วยืนขึ้น ตอบกลับว่า “ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณใต้เท้าเฮ่อที่ยื่นมาช่วย”

เรื่องที่ใต้เท้าเฮ่อทั้งสองเป็นพี่น้องกันไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด

ตอนนี้เฮ่อโยวก็กำลังแสดงความเคารพเขาอย่างพี่น้อง

เพียงแต่ในขณะที่เฮ่อโยวจับมือเฮ่อฟั่งนั้น เฮ่อฟั่งมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เฮ่อฟั่งคิดว่าเฮ่อโยวนั้นเป็นเหมือนแต่ก่อน เป็นคุณชายที่ถูกเลี้ยงดูปรนเปรออย่างดี กลับคิดไม่ถึงว่าแรงที่มือเขาจะมีมากขนาดนี้ บีบมือตัวเขาเองจนกระดูแทบจะหัก

เฮ่อโยวจับมือเขาไม่ปล่อย แล้วพูดขึ้นว่า “ข้าเพิ่งเข้ารับราชการใหม่ จากนี้ไปขอใต้เท้าเฮ่อได้โปรดช่วยชี้แนะ”

สีหน้าของเฮ่อฟั่งบูดเบี้ยวเล็กน้อย แอบพยายามต่อสู้ แล้วพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องธรรมดา หากมีกระทำที่ไม่เหมาะสม ต่อให้ข้ากับเจ้าจะเป็นพี่น้องกัน เพื่อความโปร่งใสของทางการ ข้าก็ไม่สามารถปกปิดได้ ”

เฮ่อโยวยิ้มหัวเราะ ด้วยรอยยิ้มที่สดใสและสายตาที่เปร่งประกาย จึงเอ่ยว่า “เป็นเช่นนั้นดีมาก”

เขาปล่อยมือ เฮ่อฟั่งเพิ่งรู้สึกว่าได้หลุดพ้น แล้วเดินถอนหลังออกไปสองก้าว

หลังจากที่เหล่าขุนนางต่างแตกย้ายกันไปแล้ว เฮ่อโยวและเฮ่อฟั่งเดินออกจากพระราชวังพร้อมกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี