ใบหน้าของหลิ่วเหมยอู่ดูผอมเซียว นัยน์ตาแวววาวคู่นั้นเต็มไปด้วยความแค้นที่มีต่อเฉินเสียน
นางหัวเราะอย่างแรงแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าอิ่มอกอิ่มใจกันมากไม่ใช่หรอ ตอนนี้เริ่วกลัวแล้วรึ!” นางถือกรรไกรชี้ไปทางเฉินเสียน “นางหญิงชั่ว เจ้ากล้าแย่งผู้ชายของข้าไป ข้าจะกีดหน้าเจ้าใหม่ ทำให้เจ้ากลายเป็นคนอัปลักษณ์!”
เฉินเสียนยืนอยู่ใต้ชายคา มองไปที่นางอย่างเย็นชา แล้วพูดออกมาเบาๆว่า “เอ้อร์เหนียง ไม่ต้องรั้งนางไว้ ให้นางเข้ามา”
แม่นมซุยหยุดลังเลอยู่สักครู่ แล้วจึงปล่อยให้นางเข้าไป
เวลาต่อมาหลิ่วเหมยอู่ที่กำลังบ้าคลั่ง นางยกกรรไกรขึ้นเพื่อที่จะแทงเฉินเสียน
เมื่อมาถึงด้านหน้า เฉินเสียนไม่ต้องใช้แรงอะไรมาก จับไปที่ข้อมือเรียวยาวของเธอ แล้วหมุนให้กรรไกรไปอยู่ด้านหลัง
เฉินเสียนเลิกคิ้ว สีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแล้วจัดการแทงมีดลงไปบนกลางมือของหลิ่วเหมยอู่อย่างว่องไว ทำให้เวลานั้นหลิ่วเหมยอู่เจ็บปวดมาก
“ยังคิดจะใช้แผนเดิมมากีดหน้าข้า? สองปีมาแล้ว เจ้ายังไม่โตขึ้นเลยรึ?”
ใบหน้าของหลิ่วเหมยอู่สีซีดเผือด เม้มปากกัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ ท่านแม่ทัพ……ท่านแม่ทัพต้องไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่……”
สีหน้าของเฉินเสียนเปลี่ยนเป็นยิ้มหัวเราะ พูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้ารนมาหาข้าถึงที่เอง หรือว่าข้าต้องเกรงใจเจ้า?”
เหมยอู่ ข้าเคยช่วยชีวิตท่านแม่ทัพไว้อยู่หลายครั้ง ไม่ได้หวังการตอบแทนอะไรจากเขา แล้วเจ้าหล่ะ?เจ้ารักเขามาก ทำไมเจ้าถึงไม่ทำอะไรบ้างเลย?
เจ้าขอให้เขาช่วยชีวิตเจ้า คุ้มครองเจ้า ทำให้เขาต้องก้มหัวให้คนอื่น ทำให้เขาเสื่อมเสียเกียรติ ยิ่งกว่านั้นเจ้าไม่คำนึงถึงความจงรักภักดีที่เขาได้ช่วยชีวิตพี่ชายของเจ้าไว้ เจ้ารักเขามากสินะ ?
ความรักของเจ้านั้นเปรียบเสมือนตัวอ่อนแมลงวันที่เข้าไปอยู่ในกระดูก อยากที่จะกัดกินเขาให้สะอาดเกลี้ยงเลยใช่ไหม?เจ้าอยากให้เขาตกลงไปในขุมนรกจนไม่สามารถดึงตัวกลับขึ้นมาได้เลยใช่หรือไม่?”
หลิ่วเหมยอู่อ้าปากค้าง เงียบไม่มีคำพูดอะไร
จากนั้นก็น้ำตาคลอเบ้า พูดอย่างโกรธแค้นว่า “ทั้งหมดมันเป็นเพราะเจ้า เฉินเสียน เจ้าทำร้ายเขาจนกลายเป็นเช่นนี้!”
“ก็เท่านั้น คำพูดของเจ้าก็เท่ากับสีซอให้ควายฟัง” เฉินเสียนพูด “จริงๆแล้วข้าไม่ต้องการจะทำให้เจ้าลำบากใจ แต่เหมือนว่าระหว่างเจ้ากับข้านั้นถ้าไม่มีใครล้มลงก่อน ก็จะไม่มีใครเลิกลาอย่างแน่นอน”
พูดจบ เฉินเสียนก็ปล่อยมือ แล้วผลักหลิ่วเหมยอู่ออกไป
หลิ่วเหมยอู่ที่อ่อนแอจึงล้มลงไปอยู่ที่พื้น เธอเห็นเลือดออกจากแผลที่มือของตัวเอง จึงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
เฉินเสียนได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกจวน จึงพูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉยว่า “ท่านแม่ทัพน่าจะกลับมาได้เวลาพอดี เจ้าโดนทำร้ายอะไรก็สำแดงออกมาเลย”
หลิ่วเหมยอู่น้ำตาคลอเบ้า สูดหายใจเข้าอย่างแรง เป้าหมายที่เธอมาวันนี้ก็คือทำให้ฉินหรูเหลียงเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเฉินเสียน!
ดังนั้นเธอยังยอมแพ้ไม่ได้ เจ็บแค่ไหนก็ต้องทน!
หลิ่วเหมยอู่กัดริมฝีปากตัวเองจนเป็นแผล อดทนกับความเจ็บปวดดึงกรรไกรในมือออกมา
อวี้เยี่ยนไม่สามารถทนดูได้
จากนั้นหลิ่วเหมยอู่ก็ใช่กรรไกรนั้นตัดไปที่เสื้อและกระโปรงของตัวเอง เช็ดคราบเลือดที่ติดบนแขนนุ่มของเธอเอง
อวี้เยี่ยนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็คาดเดาได้ว่านางกำลังคิดทำอะไร จึงจะเข้าไปห้ามนาง
เฉินเสียนพูดห้ามไว้ “ตามใจนางเถิด ใครก็ไม่ใช่นักแสดงแล้ว”
วิธีเดียวกันนี้ เป็นครั้งที่สองที่หลิ่วเหมยอู่ใช้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...