ฉินหรูเหลียงนิ่งสงบไม่ไหวติงแม้แต่นิดเดียว ผ่านไปเนิ่นนานแล้วจึงพูดขึ้นว่า : "นางตั้งใจจะทำร้ายเจ้าหรือ ข้าไม่ได้ยินนางพูดอะไรเกินเลยแม้แต่คำเดียว กลับได้ยินเจ้าพูดเสียมากกว่า"
"นั่นเป็นเพราะนางมีเจตนาไม่ดี......"
ฉินหรูเหลียงหรี่ตามองนาง นัยน์ตาเย็นยะเยือกราวกับขุนเขาและคลื่นยักษ์ที่กำลังคำราม ไร้ซึ่งความเมตตาปรานี หากแต่คำพูดที่พูดออกมานั้นกลับสงบสุขุมยิ่ง : "คนที่เจตนาไม่ดี คงจะเป็นเจ้าเสียมากกว่า ตั้งแต่ข้าเกิดมา ยังไม่เคยเจอสตรีใดที่มีจิตใจลุ่มลึกแยบยลไปด้วยอุบายและสามหาวอย่างเจ้ามาก่อน"
"ไม่ใช่เจ้าค่ะ......มันไม่ได้เป็นแบบนี้เจ้าค่ะ......"
ฉินหรูเหลียงพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า : "เจ้าบอกว่าคนอื่นทำร้ายเจ้า เจ้าถูกผู้อื่นกระทำด้วยความเลวทราม แต่คนที่ทั้งเลวและทรามที่สุด ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่เป็นเจ้าต่างหาก จิตใจเลวทรามซับซ้อนซ่อนเงื่อนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่มีผู้ใดเกินเจ้า"
ฉินหรูเหลียงพูดต่อว่า : "หากวันนี้เจ้าเดินออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง ข้าจะถือเสียว่าเจ้าไม่เคยปรากฏตัวที่นี่ ไม่อย่างงั้น ก็อย่าหาว่าข้าผลักไสไล่ส่งเจ้าก็แล้วกัน"
เซียงหลิงยืนอึ้งอยู่ข้างๆ
ในตอนแรกนางตั้งใจโน้มน้าวหลิ่วเหมยอู่ให้มาปรับความเข้าใจแท้ๆ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีบทสรุปแบบนี้
หลิ่วเหมยอู่ทำผิดมากเกินไป ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถรั้งอะไรไว้ได้
หลิ่วเหมยอู่น้ำตานองหน้า จ้องมองฉินหรูเหลียงอย่างไม่เชื่อสายตา : "ท่านจะไล่ข้าหรือเจ้าคะ?"
"ใช่"
หลิ่วเหมยอู่ส่ายหน้า พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "แต่ท่านเคยบอก......ว่าจะปกป้องข้าไปชั่วชีวิตไม่ใช่หรือ ให้บ้านที่อบอุ่นและมั่นคงกับข้า......"
"ข้าเคยพูดไว้ แต่ตอนนี้ ไม่นับเป็นคำพูดอีกต่อไป"
"ทำไมถึงไม่นับล่ะ ทำไมถึงนับเป็นคำพูดไม่ได้! ท่านแม่ทัพ ข้ายืนอยู่เคียงข้างท่านมานานขนาดนี้......ท่านจะไล่เหมยอู่ไปไม่ได้นะเจ้าคะ......ท่านลองนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสอง......"
ฉินหรูเหลียงจึงพูดขึ้นว่า : "ตอนนี้เพียงแค่นึกถึงวันคืนที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับเจ้า ก็พลอยทำให้ข้ารู้สึกขยะแขยงขึ้นมา"
สายตาของเขาหนักหน่วง แล้วจึงพูดขึ้นว่า : "ข้าใช้ชีวิตอยู่กับคนเช่นเจ้า มานานนับหลายปีขนาดนี้"
เขาค่อยๆ โน้มตัวลง จับข้อมือของหลิ่วเหมยอู่ไว้ แล้วดึงมันออกจากชายเสื้อของเขาช้าๆ : "หลิ่วเชียนเสวี่ย ทั้งที่รู้ว่าตัวเจ้าเคยทำผิดอะไรมาก่อน แม้ว่าข้าจะเห็นกับตาว่าเจ้าได้ใกล้ชิดสนิทนางกับชายผู้อื่น แม้ว่าข้าจะรู้ว่าเจ้าพยายามโกหกข้าเพื่อปกป้องพี่ชายของเจ้า และแม้ว่าข้าจะรู้ว่าเจ้าได้วางแผนเพื่อปลิดชีวิตของเฉินเสียนและลูกของนาง เรื่องนี้ข้าเองก็มีส่วนผิดและสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ และข้าเองก็นึกไม่ถึงมาก่อนเลยว่าตอนนี้เวลานี้จิตใจของเจ้าจะร้ายกาจ ไร้ซึ่งยางอายเยี่ยงนี้"
ตั้งแต่เริ่มแรก นางก็โกหกหลอกลวงเขาและจัดแจงวางแผนเขามาโดยตลอด
หลิ่วเหมยอู่สีหน้าซีดเผือด
ฉินหรูเหลียงพูดขึ้นต่อว่า : "เจ้าในตอนนี้ ให้ข้าสัมผัสเจ้าแม้เพียงนิดเดียว ก็พลอยทำให้ข้ารู้สึกสกปรกเสียยิ่งกว่าอะไรดี"
มือของเขาที่ดูไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่ไม่รู้เลยว่าเขาต้องใช้แรงในการตัดสินใจมากแค่ไหน เพื่อที่จะดึงหลิ่วเหมยอู่ออกจากข้างกายของเขาอย่างสิ้นเชิง
ฉินหรูเหลียงพูดขึ้นอย่างเด็ดขาดว่า : "เจ้าไปเสีย ชาตินี้ทั้งชาติข้าก็ไม่อยากจะเห็นหน้าเจ้าอีก"
"ข้าไม่ไป! ข้าไม่ยอมไปหรอก!" หลิ่วเหมยอู่ดึงชายเสื้อของฉินหรูเหลียงอีกครั้ง : "ต่อให้ตายข้าก็ไม่มีวันจากท่านแม่ทัพไปแน่นอน!"
"ตอนนี้ข้าจะไม่ขอร้องแทนพี่ชายของข้าแล้วได้หรือเปล่า? ข้าขอร้องเถอะท่านแม่ทัพ......อย่าไล่ข้าไปเลย......"
หลิ่วเหมยอู่ร้องไห้โศกเศร้าด้วยความสิ้นหวัง : "เรื่องเมื่อก่อนข้าทำผิดไปแล้ว ขอเพียงแค่อย่าให้ข้าไป......ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพข้าคือเหมยอู่นะเจ้าคะ......เหมยอู่คนที่ร่วมชีวิตกับท่านมานานนับหลายปี ท่านจะสิ้นเยื่อขาดไยแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ......"
ฉินหรูเหลียงหลับตาลง แล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "หากเจ้าไม่ไป เจ้าจะให้ข้าทนนึกถึงเรื่องเลวทรามที่เจ้าเคยทำไว้ในทุกๆ ครั้งที่ข้าเห็นหน้าเจ้ารึ?"
"ท่านแม่ทัพข้าผิดไปแล้ว! ต่อไปนี้ข้าจะไม่ทำมันอีก......" นางจับชายเสื้อของฉินหรูเหลียงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ชี้มือไปที่เฉินเสียนด้วยมือที่สั่นเทา
"ต่อไปนี้ข้าจะไม่ทำร้ายนาง ข้าจะโอบอ้อมนางและไม่ขัดแย้งกับนางอีก......หากว่าท่านชอบนาง เหมยอู่จะไม่ขัดขวางและฉุดรั้งท่านแม่ทัพไว้......ข้ารักท่านสุดหัวใจ และจากท่านไปไม่ได้จริงๆ......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...