เฉินเสียนหลับตาลงและฟังเสียงหัวเราะอันอ่อนโยนของแม่นมซุย นางกล่าวว่า “องค์หญิงน่าจะทรงทราบว่าใครอยู่เบื้องหลังการปกป้ององค์หญิง”
แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยปรากฏตัวเลยจนกระทั่งบัดนี้ แต่เฉินเสียนกลับสัมผัสได้ถึงความตั้งใจอันดีของเขาในทุกๆ สิ่ง
หลังจากประสบพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ เฉินเสียนก็พบว่าเมื่อเทียบกับเขาแล้ว เธอดูไม่ต่างอะไรจากลูกวัวแรกเกิด ที่ไม่ว่าจะเติบโตขึ้นมาแค่ไหนก็ยังไล่ตามเขาไม่ทันอยู่ดี
การวางแผนกลยุทธ์ของเธอไม่มีวันเทียบซูเจ๋อได้เลย ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของเขาทรงพลังประหนึ่งอสนีบาตซึ่งอยู่ท่ามกลางสายลมและแสงจันทร์อันน่ารื่นรมย์
อวี้เยี่ยนรู้ดีว่าแม่นมซุยพูดถึงใคร นางจึงเอ่ยว่า “เอ้อร์เหนียงไม่ได้ออกไปจากจวนและก็ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนปกป้ององค์หญิง”
แม่นมซุยตอบว่า “ใต้เท้าใส่ใจมากแค่ไหน ต่อไปเจ้าจะรู้ได้เอง”
“ข้าไม่อยากรู้ องค์หญิงก็อย่าทรงทราบเลยจะดีที่สุด”
แม่นมซุยกล่าวว่า “เอาละ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ องค์หญิงเพิ่งจะฟื้น จำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ”
แม่นมซุยปล่อยให้อวี้เยี่ยนคอยเฝ้าดูเฉินเสียนในขณะที่ตนเองออกไปต้มยา
อวี้เยี่ยนกล่าวว่า “องค์หญิง บ่าวช่วยประคองให้นอนลงเองเพคะ”
เฉินเสียนเอนกายพิงหมอนบนหัวเตียง เธอส่ายศีรษะและบอกว่า “นอนนานแล้ว เอนหลังแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
หลังจากนั้นก็เงียบกันไปอยู่นาน
เมื่อเห็นว่าเธอเงียบ อวี้เยี่ยนจึงอดถามอย่างเป็นกังวลไม่ได้ “องค์หญิงทรงคิดอะไรอยู่หรือเพคะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ถ้าไม่สบายบอกบ่าวได้นะเพคะ บ่าวจะไปตามหมอมาให้”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”
“เช่นนั้นเหตุใดองค์หญิงจึงดูไม่มีความสุขเลยเพคะ”
เฉินเสียนฉีกยิ้ม เป็นยิ้มที่อ่อนแรงและปราศจากความกังวล เธอกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าไม่มีความสุข เพียงแต่ยังงงๆ นิดหน่อย”
“องค์หญิงงงอะไรหรือเพคะ”
เธออ้าปากค้างอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงจะเอ่ยเบาๆ ว่า “ซูเจ๋อเขา ดีมากๆ... เขาเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก คนอย่างเขา ดูเหมือนจะสบประมาททุกคนที่เข้าใกล้ และทันใดนั้นข้าก็พบว่า ความจริงแล้วข้ากับเขานั้นห่างไกลกันมาก และตลอดชั่วชีวิตนี้ข้าอาจจะไม่มีทางไล่ตามเขาทัน”
เฉินเสียนไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
เมื่อก่อนเธอเคยได้รับความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าซูเจ๋อ เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าตนเองอาจจะไม่คู่ควรกับเขา
เพราะเขางดงามเกินไป ยอดเยี่ยมเกินไป และอาจจะเหมาะแก่การเชยชมและบูชามากกว่า
แล้วเธอล่ะ เธอทำสิ่งต่างๆ ตามอารมณ์และความชอบ หุนหันพลันแล่นและมุทะลุ เธอฝ่าฟันอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งการเมืองด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ เธอจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากซูเจ๋อ
ความจริงแล้วเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งซึ่งบังเอิญมีเปลือกพิเศษห่อหุ้มไว้บนหลัง
ซึ่งแม้แต่เปลือกที่พิเศษนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับซูเจ๋อ
อวี้เยี่ยนไม่เข้าใจความคิดของเธอ นางจึงพูดเพียงว่า “หากไล่ไม่ทันก็ไม่ต้องไล่สิเพคะ ไม่ว่าเขาจะยอดเยี่ยมแค่ไหน บ่าวก็คิดว่าเขากับองค์หญิงเดินอยู่บนเส้นทางคนละสาย เหตุใดองค์หญิงต้องทำให้ตนเองเหน็ดเหนื่อยขนาดนี้ด้วยเพคะ บ่าวคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดในโลกนี้ของคนเราไม่เหมือนกัน ในหัวใจของผู้ที่รักองค์หญิง องค์หญิงก็คือคนที่ดีและยอดเยี่ยมที่สุดเช่นกัน”
เฉินเสียนมองนางและยิ้ม เธอกล่าวว่า “เจ้าปลอบคนได้เก่งดี”
อวี้เยี่ยนกล่าวว่า “อย่างเช่นแม่ทัพฉิน เขาจะต้องคิดเช่นนั้นแน่นอนเพคะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเสียนหายวับไปทันที “เมื่อครู่นี้คิดเสียว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน”
อวี้เยี่ยนยังคงพูดเจื้อยแจ้วว่า “องค์หญิงไม่ทรงทราบ ทุกวันช่วงที่องค์หญิงทรงหลับใหลอยู่ แม่ทัพฉินมาคอยดูแลเช็ดหน้าเช็ดตัวให้องค์หญิงอยู่เป็นครึ่งค่อนวัน ทั้งยังใส่ใจเป็นอย่างมาก”
เฉินเสียนเหลือบมองและกล่าวว่า “แล้วเจ้าล่ะ ยืนดูอย่างตื่นเต้นรึ”
อวี้เยี่ยนบอกว่า “เดิมทีบ่าวเป็นคนทำเพคะ แต่เขามาแย่งบ่าวทำ บ่าวจึงได้แต่ยืนดูอยู่ข้างๆ”
เฉินเสียน “...ก่อนนี้ไม่ใช่ว่าเคยบอกให้เจ้าทำตัวให้ฉลาดหน่อยหรือ ถ้าเขาอยากทำ เจ้าต้องไม่ให้เขาทำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...