ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 420

รอหลังจากที่นางสนมกลับไป เฉินเสียนกับฉินหรูเหลียงก็ได้กินอาหารกันตามสบาย

ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า “นางบอกว่าคือเจียงหนาน หมายถึงผู้พิทักษ์เมืองคนก่อนหน้าของเจียงหนานใช่หรือไม่?”

“ประมาณนั้นแหละ”เฉินเสียนกล่าวว่า “หากผู้พิทักษ์เมืองผู้นั้นกับในเมืองหลวงไม่มีการติดต่อกัน จะมีความกล้ามากเช่นนี้ที่ไหนกันล่ะ แต่คิดไม่ถึงว่า คนในเมืองหลวงผู้นั้นคือเฮ่อฟั่ง”

“ก่อนที่เฮ่อฟั่งจะเข้าดำรงตำแหน่งขุนนางระดับสี่ชั้นเอกศาลยุติธรรมต้าหลี่ เขาดำรงตำแหน่งอยู่ฝ่ายโยธาธิการ หลังจากที่ผู้พิทักษ์เมืองเจียงหนานเกิดเรื่อง เขาก็เลยย้ายมาที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่”ฉินหรูเหลียงกล่าวเตือนสติ

“มิน่าเล่า เหตุผลที่ชัดแจ้งคือใช้ตำแหน่งแสวงหาประโยชน์เข้าตัว รอหลังจากที่การกระทำขัดต่อกฎหมายเปิดโปงแล้ว ก็เลยเร่งรีบย้ายรัง”

ปากเฉินเสียนพูดอย่างนี้ แต่ทว่าในใจมีความรู้สึกหนึ่ง ราวกับว่าซูเจ๋อรู้จุดนี้แล้ว เขาเลี้ยงปลาตัวนี้ เพื่อรับปลามันเติบใหญ่ทั้งตุ้ยนุ้ย แล้วค่อยสังหารมัน

แต่กลัวว่าไม่เพียงแต่เฮ่อฟั่ง ที่พัวพันในเรื่องนี้ ไม่แน่ว่ายังจะลากกลุ่มขุนนางที่กินสินบนออกมาได้ด้วย

ออกมาจากหอสุรา เวลายังไม่มืดค่ำ เฉินเสียนกับฉินหรูเหลียงก็ไปที่โรงน้ำชาฟังการเล่าเรื่องอยู่สักพักหนึ่ง

ตอนที่กลับไป เฉินเสียนเข้าสวนสระวสันตฤดู หันกลับไปเห็นฉินหรูเหลียงเดินตามเข้ามา จึงกล่าวว่า “ข้ากลับมาเรือนแล้ว ท่านก็กลับไปได้แล้ว”

ฉินหรูเหลียงเดินบุ่มบ่ามผ่านเธอไป กล่าวขึ้นว่า “ข้าก็กลับมาที่เรือนของข้าแล้ว”

เฉินเสียนกล่าวว่า “นี่เป็นเรือนข้า ท่านอยู่ในเรือนนี้ยังหลงลืมทิศทางหรือ?”

ฉินหรูเหลียงยืนอยู่ที่หน้าห้องว่างไม่มีคนพักมาโดยตลอด หันกลับมาชำเลืองมองแล้วกล่าวกับเฉินเสียนว่า“อ้อ วันนี้ข้าเพิ่งจะตัดสินใจย้ายมา”

“ผู้ใดอนุญาต?”เฉินเสียนหรี่ตามอง

“ข้าเคยถามท่านแล้ว ท่านไม่เปล่งเสียงพูดออกมาก็บอกเป็นนัยแล้ว ผู้ใดให้ท่านเป็นลมแล้วไม่ตื่นเล่า ไม่ควรที่จะกล่าวโทษข้า”

“............”

พูดแล้วฉินหรูเหลียงก็เปิดประตูห้องเข้าไป ทิ้งเฉินเสียนยืนอยู่ในเรือนคนเดียว เธอรู้สึกว่าคนผู้นี้เรือนหลักทั้งกว้างทั้งสบายกลับไม่พัก ดึงดันจะมาเบียดเสียดในเรือนที่ไม่ใหญ่กับเธอให้ได้ ราวกับสมองนี้บ้าไปแล้ว

ข่าวลือวิพากษ์วิจารณ์ของต้าฉู่นับว่าอิสระเสรีมาโดยตลอด

บุรุษนักเล่าในโรงน้ำชาที่ขายสุราด้วย พูดส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของต้าฉู่ ก่อนหน้าพักหนึ่งเฉินเสียนกลายเป็นหัวข้อหลักของการสนาทนาพูดคุยกัน ต่อมากลายเป็นซูเจ๋อ วันนี้ก็ควรเปลี่ยนนักแสดงนำแล้ว

วันต่อมาเนื้อหาการเล่าเรื่องในโรงน้ำชาที่ขายสุราด้วยได้เปลี่ยนไป เล่าถึงขุนนางที่กินสินบนในราชสำนัก ตอนนี้ขุนนางระดับสี่ชั้นเอกของศาลยุติธรรมต้าหลี่เฮ่อฟั่งเป็นหนังหน้าไฟ

ไม่นาน บนถนนซอกซอยล้วนเล่าต่อๆกัน บอกว่าเฮ่อฟั่งโลภจนไร้ขอบเขต ไม่เพียงแต่ใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ยังทุจริตรับสินบนรายการใช้จ่ายที่ได้รับจัดสรรมา เขากับผู้พิทักษ์เมืองคนก่อนหน้านั้นของเจียงหนานเป็นคนที่มีลักษณะเดียวกันอยู่ด้วยกัน ยักยอกตำลึงจีนที่ราชสำนักจัดสรรให้ซ่อมแซมเขื่อนโดยเฉพาะเป็นของส่วนตัว

เจียงหนานซ่อมแซมเขื่อนพันลี้ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าทางเรือไปๆมาๆปกป้องกิจการทุกอย่างให้พัฒนาได้อย่างปกติ ยิ่งเพื่อตอนอาณาประชาราษฎร์เกิดภัยน้ำท่วมตอนน้ำท่วมขุดลอกแห้งแล้งทำให้เก็บน้ำรดพืชใช้ทั้งหมดได้ แต่ทว่าคิดไม่ถึง ปีนี้ช่วงเริ่มสารทฤดูน้ำท่วมโจมตี ผลสรุปเขื่อนพันลี้ที่มองแล้วเหมือนแข็งแกร่งไม่สามารถตีแตกได้ ชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียวถูกทะลวงราวกับกากเต้าหู้

พอเขื่อนแตก น้ำท่วมไหลล้นกว้างขวาง ทำให้อาณาประชาราษฎร์จำนวนนับไม่ถ้วนพลัดจากที่อยู่ไปอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว ผู้อพยพกลายเป็นทุกข์ยาก ตายและบาดเจ็บจำนวนนับไม่ถ้วน

ในสมัยนั้นเขื่อน โครงการทำโดยฝ่ายโยธาธิการส่งผู้ทำงานไปปฏิบัติงานยังหน่วยงานเบื้องล่าง เนื่องจากผู้พิทักษ์เมืองรับผิดชอบซ่อมแซมเขื่อน วันนี้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเหล่าอาณาประชาราษฎร์ล้วนไม่พอใจอย่างมาก

เป็นขุนนางทุจริตนั่นแน่ที่ไม่สนใจชีวิตเหล่าอาณาประชาราษฎร์ แต่สนใจยักยอกตั๋วเงินมาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเอง ถึงได้มีคนตายเยอะเช่นนี้

ตอนนี้ในเมืองหลวงคือเสียงตำหนิซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี