พระสนมฉีกล่าว "เมื่อก่อนตอนที่เจ้าน่องเพิ่งจะเข้าวังไปใหม่ ๆ ก็ไปพักอาศัยอยู่ในตำหนักของข้า มีข้าที่คอยดูแล เขาและองค์ชายห้าของข้าก็ดูจะเข้ากันได้ดี ตอนนี้ย้ายออกมาอยู่ที่พระตำหนักไท่เหอแล้ว ทำไมข้าจะมาเยี่ยมเยียนเขาไม่ได้เลยหรือยังไง?"
เฉินเสียนกล่าว "เจ้าน่องน้อยเป็นแค่ชื่อเล่นของเขา ไม่ได้ชื่อเจ้าน่อง"
พระสนมฉีหัวเราะเยาะเย้ย และกล่าวว่า "ทำไมฟังดูแล้วก็เหมือนสุนัขที่คอยเดินตามก้นคนอื่น"
เฉินเสียนยกคิ้วขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
พระสนมฉีเรียกองค์ชายห้าเข้าไปมา และกล่าวว่า "เจ้าไม่ได้อยากจะมาหาเจ้าน่องเพื่อเล่นด้วยกันหรอกหรือ มาถึงนี่แล้วเจ้ายังเขินอายอยู่ทำไมกัน เข้าไปเล่นกับเขาสิ" พูดพลางแตะไปที่หลังขององค์ชายห้า เพื่อเป็นกำลังใจให้เขา
เมื่อตอนที่เดินเข้ามา องค์ชายห้าก็เห็นเจ้าน่องน้อยนั่งอยู่ที่ริมราวบันไดด้านนอก แม้ว่าเจ้าน่องน้อยจะโตขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ทำให้องค์ชายห้าอยากจะรังแกเขา
เพียงแค่คิดว่าจะได้รังแกเจ้าน่องน้อย องค์ชายห้าก็กลับไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว
เหมือนกับที่พระมารดาของนางบอก ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะไอ้คนชั้นต่ำนี้ เขาก็คงไม่ต้องถูกเสด็จพ่อดุว่า ก็เพราะว่าเจ้าน่องน้อยลากจระเข้ออกไปด้วยมือเปล่า จึงทำให้เขาดูเป็นคนขี้ขลาด!
เพราะความหวาดกลัวขององค์ชายห้า จึงทำให้เขาไม่กล้าไปโรงเรียน แต่สำหรับเจ้าน่องน้อยแล้วนั้น ไม่เพียงแค่ไม่ถูกทำโทษ แต่กลับได้เข้าไปนั่งเรียนในห้องเรียนที่โรงเรียนไท่ องค์ชายห้ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโมโห
ไอ้เจ้าตัวเล็กนี้ เมื่อก่อนที่ถูกตัวเขาเองรังแกหยิกแก้มดูแล้วขี้ขลาดตาขาวขนาดไหน!
ครั้งนี้จะต้องให้เขาได้ลิ้มลองความโหดร้ายดูบ้าง!
องค์ชายห้าเดินไปที่ริมฝั่ง เห็นเจ้าน่องน้อยที่กำลังเหม่อลอยไม่ส่งเสียงใด ๆ นั่งอยู่ตรงนั้น จึงถามว่า "เจ้ากำลังมองอะไรหรือ?"
เจ้าน่องน้อยไม่ได้สนใจเขา
นางกำนัลได้รับคำสั่งจากพระสนมฉี บอกว่าเด็กทั้งสองคนเล่นกันเอง จึงไม่ได้เดินตามมารบกวน ได้แค่คอยมองอยู่ห่าง ๆ
องค์ชายห้ายังคงกลัวสิ่งที่อยู่ในน้ำ ไม่กล้าที่จะมองไปใกล้ เพียงแค่หันแวบไปมา น้ำในทะเลสาบเงียบสงบ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เขาจึงเริ่มรู้สึกมีความกล้าขึ้นมา และไปย่อตัวลงข้าง ๆ เจ้าน่องน้อย และผลักเขาไปหนึ่งทีพร้อมกับกล่าวว่า "ถามเจ้าน่ะ เป็นใบ้หรือไง?"
การเคลื่อนไหวของเด็กทั้งสองที่อยู่ข้างนอกนั้น เฉินเสียนและพระสนมฉีที่นั่งอยู่ข้างในห้องโถงก็พอจะมองเห็นได้
เฉินเสียนเก็บกลั้นอารมณ์ไว้ ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา เพื่อเห็นแก่หน้าของพระสนมฉี นางคงคิดว่าเฉินเสียนคงไม่กล้าลงมือทำอะไรนาง ตอนนี้ทำให้เพียงมองดูลูกชายตัวเองถูกคนอื่นรังแก ขนาดจะอ้าปากขอความช่วยเหลือยังไม่กล้า พระสนมฉีจึงรู้สึกได้ใจยิ่งนัก
ในขณะเดียวกัน ในใจของพระสนมฉีก็รับรู้ได้ว่านางมีไหวพริบ หากว่าองค์หญิงจิ้งเสียนกล้าสั่งให้หยุด พระสนมฉีจะต้องยิ่งทำรุนแรงยิ่งขึ้นไป
เพราะถึงอย่างไรฐานะของนางและองค์ชายห้าในวังหลังก็เทียบเท่ากับองค์จักรพรรดินีและองค์ชายใหญ่ แถมยังเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระราชชนนีอีกด้วย
เจ้าน่องน้อยไม่สนใจ จึงทำให้องค์ชายห้ารู้สึกโกรธจัด อย่างไรก็ตามองค์ชายห้าตอนอยู่ในวังมักมีคนคอยเอาอกเอาใจทุกอย่าง มีเพียงแค่เจ้าน่องน้อยที่ไม่ไว้หน้าเขา
องค์ชายห้าดึงแขนเสื้อ เพื่อให้เขารับรู้รสชาติของความทุกข์!
และเพราะองค์ชายห้าไม่คิดถึงผลที่จะตามมาทีหลัง มือผลักไปที่หลังของเจ้าน่องน้อย เพื่อจะทำให้เขาตกลงไปในทะเลสาบ!
ผลักไปสองสามทีไม่มีวี่แววจะขยับเขยื้อน ก้มลงไปจึงเห็นว่าขาทั้งสองข้างของเจ้าน่องน้อยติดอยู่กับราวตรงกลาง องค์ชายห้าก้มลงไปและดึงขาทั้งสองข้างขึ้น
เฉินเสียนดื่มน้ำชา ในที่สุดก็พูดออกมาเบา ๆ "เอ้อร์เหนียง ริมทะเลสาบอันตราย ไปอุ้มเจ้าน่องน้อยกลับเข้ามาหน่อย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...