พระสนมฉีโมโหจนตัวสั่น และตะโกนว่า "เขาเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้ประสาอะไร จะรู้ได้อย่างไรอะไรคือการฆาตกรรมโดยเจตนา เจ้ามันคนชั่วมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!"
"เด็กไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ประสา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ซะหมด" เฉินเสียนกล่าว "อีกอย่าง ก็มีผู้ใหญ่คอยสั่งสอนไม่ใช่หรือ?"
"เจ้าหมายความว่า ข้าเป็นคนสั่งให้เขาทำ?" พระสนมฉีกัดฟัน
เฉินเสียนกล่าวอย่างใจเย็นและมีสติ "ต่อให้พระสนมไม่ได้เป็นคนสั่ง แต่ก็ละเลยในการอบรมสั่งสอน อีกทั้งพระสนมเองที่ต้องการให้พวกเขาเล่นกันเองตามลำพัง และไม่ต้องการให้มีคนคอยเฝ้าดูแล องค์ชายห้าหกล้มไม่ได้เป็นความผิดของเจ้าน่องน้อย แต่กลับเป็นความประมาทในหน้าที่ของพระสนมเอง"
"ลูกชายของข้าหกล้ม เจ้ายังมีหน้ามาโทษข้า?" พระสนมฉีโมโหจนแทบจะระเบิด
เฉินเสียนกล่าว "ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ พระสนมต้องการอะไรข้าก็ยินยอมทำตามไม่ใช่หรือ หากข้าเป็นพระสนม ข้าควรจะรีบนำองค์ชายห้ากลับไปพบหมอหลวงโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นหากว่าองค์ชายห้าเสียเลือดไปมากจะยิ่งลำบากไปกันใหญ่ พระสนมเป็นแม่แบบนี้ กลับทอดทิ้งลูกชายไม่สนใจดูแลเพราะความโกรธของตัวเอง"
จากนั้นพระสนมฉีจึงนึกถึงองค์ชายห้า และหันกลับไปมององค์ชายห้า เห็นใบหน้าที่ซีดขาวอย่างตกใจ ทั้งโมโหทั้งวิตกกังวล แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ในที่สุดก็สะบัดแขนเสื้อลง และให้นางกำนัลพาตัวองค์ชายห้ากลับไปพบหมอหลวง
ก่อนที่จะกลับออกไป พระสนมฉีหันกลับมาทำสีหน้าเชือดเฉือนใส่เฉินเสียน กัดฟันกรอดและกล่าวว่า "เจ้าคอยดูเถอะ!"
หลังจากนั้นพระสนมฉีก็พาองค์ชายห้าและนางกำนัลทั้งหลายก็รีบกลับออกไป เฉินเสียนยืนอยู่ใต้ชายคามองพวกเขาเดินขึ้นสะพานไม้ด้วยท่าทางสงบ
แม่นมซุยกล่าว "ดูท่าทางของพระสนมฉีแล้ว คงจะไม่ยอมเอาเสียง่าย ๆ นะเพคะ"
เฉินเสียนหันหลังเดินกลับไปที่ห้องตำรา เห็นเจ้าน่องน้อยยังคงนั่งอยู่ที่พื้นบนพรมในห้องตำรา อวี้เยี่ยนคุกเข่านั่งลงข้าง ๆ ใช้ผ้าขนหนูอุ่น ๆ เช็ดรอยคราบหมึกบนแขนของเขา
บนใบหน้ามีร่องรอยนิ้วมือแดงเต็มไปหมด อวี้เยี่ยนก็ถูกพระสนมฉีตบเข้าที่ใบหน้า ใบหน้าของนางยังมีรอยบวมแดงให้เห็น
พระสนมฉีลงฝ่ามือได้แรงทีเดียวเชียว
เฉินเสียนสัมผัสใบหน้าของอวี้เยี่ยน และกล่าวว่า "เจ็บไหม?"
อวี้เยี่ยนส่ายหัวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา "บ่าวไม่เจ็บเพคะ"
นางไม่ได้สนใจอาการเจ็บของตัวเอง กลับตาแดงน้ำตาคลอรู้สึกเจ็บปวดแทนเจ้าน่องน้อย และนางก็บ่นว่า "บ่าวคิดว่าพวกเขาสมควรได้รับมัน ต่อให้องค์ชายห้าจะไม่รู้ประสายังไง ก็ไม่ควรผลักเจ้าน่องน้อยลงไปในทะเลสาบ เมื่อครู่อันตรายขนาดไหน คราวหน้าหากพวกเขายังกล้ากลับมาอีก จะต้องเอากลับให้สาสม!"
เฉินเสียนมองไปที่มือที่เปื้อนหมึกของเจ้าน่องน้อย และหันไปมองจานฝนหมึกที่อยู่ข้าง ๆ เรื่ององค์ชายห้านั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นางแค่มองก็เข้าใจได้ในทันที
เฉินเสียนกล่าว "เสี่ยวเฮอ พาอวี้เยี่ยนไปทำแผลหน่อยสิ"
อวี้เยี่ยนกล่าว "องค์หญิง บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ รอให้บ่าวเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เจ้าน่องน้อยเสร็จค่อยไปก็ยังไม่สายเพคะ"
เฉินเสียนกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล "ไปเถอะ ทางนี้ยังมีข้าและแม่นมซุยอยู่"
เฉินเสียนก้าวเท้าเดินไปที่เจ้าน่องน้อยและนั่งลง และบอกกับแม่นมซุย "เอ้อร์เหนียงช่วยไปหยิบยาขี้ผึ้งในห้องของข้ามาให้หน่อยสิ"
แม่นมซุยรีบไปหยิบยาขี้ผึ้งมาให้อย่างรวดเร็ว เฉินเสียนค่อย ๆ บรรจงทาลงบนใบหน้าของเจ้าน่องน้อย หลังจากที่ทายาขี้ผึ้งให้เจ้าน่องน้อยเสร็จ เฉินเสียนก็สั่งให้แม่นมซุยนำยาขี้ผึ้งไปให้อวี้เยี่ยนใช้
แม่ลูกทั้งสองคนที่อยู่ในห้องตำราต่างก็ไม่พูดอะไรออกมา
ภายหลังเฉินเสียนถาม "เจ้าล่ะ เจ็บไหม?"
เจ้าน่องน้อยตอบเสียงอู้อี้ "ไม่เจ็บ"
เฉินเสียนยิ้ม "ถูกหยิกขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่เจ็บ" นางเอื้อมมือไปกอดเจ้าน่องน้อยไว้ นัยน์ตาเย็นชา "แต่ใบหน้าของเจ้า ขนาดแม่ยังไม่กล้าจะหยิกลงไปแรง ๆ เลย แต่วันนี้กลับให้องค์ชายห้าทำกับเจ้าได้ขนาดนี้"
เจ้าน่องน้อยกล่าว "เขาเจ็บกว่าลูก"
"เขาสมควรแล้ว"
ช่วงเวลานี้ที่เจ้าน่องน้อยได้อยู่ใกล้ชิดกับเฉินเสียน ไม่ได้เรียนรู้อย่างอื่น นอกเสียจากการทำอะไรอย่างมีจุดหมายและด้วยความตั้งใจ เมื่อรู้สึกโกรธก็จะเหมือนเฉินเสียน ที่โกรธจนแทบไม่กะพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...