ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 461

หลังจากเก็บกวาดห้องตำราเสร็จเรียบร้อย เฉินเสียนก็พาเจ้าน่องน้อยไปเล่นกับจระเข้อยู่พักหนึ่ง

เฉินเสียนกล่าวว่า “เจ้ารู้ไหมว่ามันกลัวอะไรมากที่สุด”

เจ้าน่องน้อยส่ายหน้า “ไม่รู้”

“แม่ได้ยินว่ามันกลัวสีเหลือง”

“ทำไมล่ะ”

“น่าจะเป็นเพราะโลกของมันมีแต่สีขาวกับสีดำ และสีเหลืองก็ทำให้มันแสบตาที่สุด” นี่คือสิ่งที่เฉินเสียนบังเอิญเห็นตอนดูสารคดีสัตว์โลกเมื่อนานมาแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ

ตอนนี้ในเมื่อเฉินเสียนมีโอกาสพิสูจน์แล้ว เธอจึงเอ่ยอย่างสนอกสนใจว่า “ลองดูหน่อยดีกว่า จะได้รู้ว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่า”

เฉินเสียนขอให้แม่นมซุยไปหยิบผ้าสีเหลืองสดมาให้และสะบัดตรงหน้าจระเข้ เป็นอย่างที่คิด จระเข้ก้าวถอยหลัง จากนั้นก็หันหัวกลับเข้าไปในมุม

สองแม่ลูกนั่งอยู่ในห้องตำราและหันมามองหน้ากันโดยไม่เอ่ยอะไร

แสงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า เจ้าน่องน้อยรู้ว่าคืนนี้หลังอาหารมื้อเย็น เขาจะต้องพาจระเข้กลับไปที่ทะเลสาบ แม้จะถึงเวลาที่ควรเข้านอนแล้วแต่เขาก็ยังไม่ง่วง เขารอจนกระทั่งนางกำนัลทุกคนกลับไปพักผ่อน จากนั้นจึงคลำทางไปที่ห้องตำรากับเฉินเสียน

โชคดีที่วันนี้ฟ้ามืดเร็ว ทุกคนที่พระตำหนักไท่เหอจึงพักผ่อนเร็วเช่นกัน

เจ้าน่องน้อยกระซิบเรียกเมื่ออยู่ในห้องตำรา “มาเถิด รีบออกมา”

หลังจากนำเศษเนื้อมาให้จระเข้กินแล้ว เขาก็หันหลังพามันออกมาจากห้องตำรา

เจ้าน่องน้อยเดินไปอย่างเชื่องช้าโดยมีจระเข้คลานตามมาข้างๆ อย่างเชื่อฟัง คนกับจระเข้ดูเหมือนจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี

เมื่อเดินมาถึงริมทะเลสาบ เฉินเสียนจึงใช้เชือกผูกเข้ากับตะกร้า ตั้งใจจะให้จระเข้ปีนเข้าไปในตะกร้าและส่งมันลงไปในทะเลสาบ

เจ้าน่องน้อยลูบจระเข้เงียบๆ ก่อนจะบอกว่า “ท่านแม่ ข้าบอกลามันเสร็จแล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นแม่จะส่งมันกลับแล้วนะ”

เจ้าน่องน้อยพยักหน้า ส่วนจระเข้ก็หมอบอยู่ในตะกร้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเฉินเสียนจึงคลายเชือกและปล่อยตะกร้าลงสู่ผิวทะเลสาบ

จระเข้ลอยอยู่บนผิวน้ำอยู่ครู่หนึ่งไม่ยอมจากไป แสงสลัวจากใต้ชายคาส่องกระทบลงบนผิวน้ำจนเกิดเป็นแสงประกายระยิบระยับ

เฉินเสียนจูงมือเจ้าน่องน้อยพลางบอกว่า “ไปเถอะ กลับไปนอนกัน”

รอจนสองแม่ลูกเดินกลับไปแล้ว จระเข้ตัวนั้นจึงหันหลังว่ายน้ำออกไป

หลังจากกลับไปถึงห้องและล้างหน้าบ้วนปากเรียบร้อย เจ้าน่องน้อยก็นอนตะแคงและผล็อยหลับไปเงียบๆ ลมหายใจของเขาแผ่วเบาและสม่ำเสมอ เฉินเสียนนอนตะแคงอยู่ข้างๆ เอามือเท้าศีรษะและมองดูเขาอยู่เงียบๆ เป็นเวลานาน

เธอไม่อยากรบกวนการนอนของเจ้าน่องน้อย ทว่าเธอหลับไม่ลง

ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้พระสนมฉีมาจับผิด เธอคงจะเฝ้าดูเจ้าน่องน้อยอย่างเอาใจใส่ได้อีกสักพัก เพราะคำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจเพียงไม่กี่คำของเสี่ยวเฮอเมื่อตอนกลางวัน ทำให้ตอนนี้ภายในใจของเฉินเสียนสับสนมากและไม่มีทางสงบลงได้เลย

วันรุ่งขึ้น เจ้าน่องน้อยตื่นตรงเวลาตั้งแต่เช้า เขายังจำได้ว่าตัวเองต้องไปเข้าเรียนที่โรงเรียนไท่

เฉินเสียนยังคงหลับอยู่และเขาก็ไม่ได้ส่งเสียงรบกวน แม่นมซุยช่วยสวมเสื้อผ้าให้เขาอย่างเบามือ ขณะที่กำลังจะอุ้มเขาออกไปกินอาหารเช้า เสียงของเฉินเสียนก็ดังขึ้นมาอย่างงัวเงีย “หลังกินข้าวเช้าแล้วเล่นอยู่ในลานข้างหน้าก่อนนะ หลังจากนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนไท่อีกแล้ว”

แต่เฉินเสียนรู้นิสัยของลูกชายดี ถ้าเธอไม่คอยเฝ้าดู เจ้าน่องน้อยจะต้องคว้ากระเป๋าตำราใบน้อยแล้วลากเสี่ยวเฮอออกไปจากพระตำหนักไท่เหอแน่ๆ

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ทันทีที่เฉินเสียนลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาและออกไปที่ห้องอาหาร เธอก็เห็นว่าเจ้าน่องน้อยกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว และกำลังแบกกระเป๋าใบน้อยเตรียมจะฉวยโอกาสตอนที่เธอยังหลับออกไปกับเสี่ยวเฮอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี