เฉินเสียนจึงพูดขึ้นอย่างมีเงื่อนงำว่า : "ยังมีฝ่าบาทที่คอยรับมือกับนาง นางกลัวก็แต่จะแยกร่างไม่พอเสียมากกว่า" วันนี้ถือว่าได้เปรียบที่สุด คงเป็นเพราะองค์จักรพรรดินีและองค์ชายใหญ่ นางกำนัลที่น่าสงสัยคนนั้น ก็คงจะเป็นคนข้างกายขององค์จักรพรรดินี
กว่าองค์จักรพรรดินีจะทรงคว้าโอกาสนี้ได้ จะยอมปล่อยพระสนมฉีไปง่ายๆ อย่างนี้ถ้ายังไงกัน ข้อนี้เฉินเสียนไม่ต้องเป็นห่วงเลยแม้แต่นิดเดียว
แทนที่จะมัวเสียเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ หลังจากที่ราชทูตเดินทางออกจากอาณาจักรต้าฉู่ไปแล้ว สู้เอาเวลาไปนั่งคิดเรื่องที่จะพาเจ้าน่องน้อยหนีออกจากที่นี่ให้หลุดพ้นได้อย่างไรเสียยังดีกว่า
เฉินเสียนนึกถึงจระเข้ในทะเลสาบ เมื่อถึงเวลาหน้าสิวหน้าขวัญ ไม่แน่บางทีก็อาจจะมีประโยชน์ขึ้นมาก็ได้ เพียงแต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องใช้เวลาวางแผนระยะยาว
ค่ำคืนนี้ทางฝั่งอุทยานอวี้ฮัวตั้งหน้าตั้งตาจัดแจงสถานที่จนดึกดื่น เฮ่อโยวเริ่มยุ่งตั้งแต่คืนนี้จนถึงการต้อนรับราชทูตในวันพรุ่งนี้ เขากำลังยุ่งกับการวิ่งเข้าวิ่งออกในพระราชวังไม่หยุดหย่อน
กลุ่มของเหล่าขันทีในวังได้ร่วมมือกับฝ่ายพิธีการ ต่างล้วนให้ความร่วมมือกับเฮ่อโยวในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง ในเวลาเดียวกันนั้น ทหารรักษาพระองค์และทหารเวรยามก็ได้เข้ามาสมทบด้วย
นี่เป็นครั้งแรกของการทำงานภายใต้ตำแหน่งขุนนางฝ่ายพิธีการของเฮ่อโยว รับหน้าที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับทางการทูตต่างราชอาณาจักร จะเกียจคร้านและหละหลวมไม่ได้เป็นอันขาด เขาจึงไม่ได้นอนพักเลยทั้งคืน
วันถัดมา เฮ่อโยวได้ไปรับราชทูตของทั้งสองอาณาจักรที่ประตูเมืองและส่งไปพักผ่อนที่พระตำหนักรับรองด้วยตัวเอง
ทุกอย่างเรียบร้อยเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน
กงกงข้างพระวรกายขององค์จักรพรรดิพูดขึ้นว่า : "ใต้เท้าเฮ่อผู้นี้ ถึงแม้จะอายุน้อยไปหน่อย แต่ทำการตั้งอกตั้งใจ ความสามารถก็ไม่ด้อยเลย เมื่อคืนทั้งคืน ได้จัดเตรียมทุกอย่างตามคำสั่งของฝ่าบาทจนสมบูรณ์เสร็จสิ้น วันนี้ยังไม่ทันจะได้พักผ่อนแต่กลับไปรับเหล่าราชทูตที่ประตูเมืองด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
องค์จักรพรรดิทรงทอดพระเนตรและรับรู้อยู่เสมอ
เฮ่อโยวและเฮ่อฟั่งนั้นไม่เหมือนกัน เขาอายุยังน้อยและมีความกระตือรือร้น หากเรื่องนี้มอบหมายให้เฮ่อฟั่งไปจัดการแล้วล่ะก็ เขาคงจะไม่ลงมือทำเองอย่างแน่นอนเขารู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองนั้นสบาย และรู้วิธีที่จะสามารถทำให้ฝ่าบาทไม่เสียหน้าด้วย
องค์จักรพรรดิทรงตรัสขึ้นว่า : "นี่ก็คือสาเหตุที่ข้าต้องการจะใช้สมองของเฮ่อฟั่ง ใช้แรงปฏิบัติของเฮ่อโยว"
เมื่อเหล่าราชทูตได้พักผ่อนที่พระตำหนักรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จึงได้เข้าวังเพื่อถวายบังคมองค์จักรพรรดิ ภายใต้ใบหน้าการแลกเปลี่ยนมิตรภาพนี้ ก็ต้องนำของขวัญติดไม้ติดมือมาด้วยเป็นธรรมดา
อาณาจักรเป่ยเซี่ยได้นำมาอยู่หลายหีบ ข้างในหีบนั้นบรรจุผ้าขนแกะอย่างดี ที่ทั้งหนาและอุ่นมาก
อาณาจักรเป่ยเซี่ยตั้งอยู่ที่เขตชายแดนตะวันตก เป็นตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรต้าฉู่ เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าที่เขียวขจี บนทุ่งหญ้าเต็มไปด้วยแกะและวัวเป็นฝูงๆ ผ้าขนแกะสีสวยเหล่านี้ล้วนถูกเก็บเกี่ยวและถักทอจากที่นั่น
นอกจากผ้าขนแกะแล้ว ยังมีอีกหีบหนึ่ง ข้างในบรรจุไหมพรมสีดำสนิทที่ถูกปั่นเป็นเส้นไหม อาณาจักรเป่ยเซี่ยเรียกมันว่าไหมพรมขนสัตว์
ชาวพื้นเมืองที่เลี้ยงวัวและแกะ มักจะชอบนำขนของสัตว์เหล่านั้นมาปั่นให้เป็นเส้นไหมพรม เมื่อเข้าสู่ช่วงเหมันตฤดูแล้ว ก็มักจะนำมาถักทอเป็นผ้าขนสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงเสื้อผ้ากันหนาว เมื่อนำมาสวมใส่แล้วสามารถกันหนาวและอุ่นกว่าผ้าธรรมดาหลายเท่า
ที่อาณาจักรเป่ยเซี่ย กลวิธีการปั่นรวมถึงการมอบให้อย่างนี้ แสดงถึงความสนิทสนมและเป็นมิตร วิธีการการถักทอจนเป็นผ้าขนสัตว์ต่างๆ ได้กลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของอาณาจักรเป่ยเซี่ยไปแล้ว
แต่ที่อาณาจักรต้าฉู่ยังไม่เคยเห็นไหมที่หยาบขนาดนี้มาก่อน องค์จักรพรรดิรวมไปถึงเหล่านางในที่ได้เห็นมันแล้ว ต่างก็ไม่รู้ว่าจะสามารถนำไปทำอะไรได้
ไหมพรมขนสัตว์สีดำที่ถูกขดเป็นม้วนๆ ดำมืดสนิท ไม่มีความสดใสงดงามเหมือนดังไหมทอผ้าทั่วไป สตรีที่ชอบในสีสันที่สดใสเมื่อเห็นมันแล้วย่อมรู้สึกน่าเกลียดและไม่สวยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ฟังจากที่ราชทูตของอาณาจักรเป่ยเซี่ยได้พูดมา เส้นไหมพรหมขนสัตว์นี้สามารถนำมาถักทอเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ได้ เมื่อเหล่าบรรดานางในได้ยินแล้ว ต่างก็พากันแอบหัวเราะไปตามๆ กัน
ไหมเส้นหยาบขนาดนี้ จะถักทอเป็นเสื้อผ้าได้อย่างไรกัน? และถึงแม้จะสามารถถักทอออกมาเป็นเสื้อผ้าได้ แต่สีดำล้วนที่น่าเบื่อและจำเจนั่น ผู้ใดอยากจะสวมใส่กันล่ะ?
สีที่ดำสนิท ยากต่อการย้อมเป็นสีอื่นอย่างมาก
ดังนั้น หีบหลายใบนี้เมื่อถูกยกมายังวังหลังแล้ว เหล่านางในต่างก็พากันรังเกียจไหมพรมขนสัตว์เหล่านั้นเป็นอย่างมาก และพากันอยากได้แต่ผ้าทอขนแกะที่ทั้งหนาและนุ่ม
เพราะในอาณาจักรต้าฉู่นั้นผ้าเช่นนี้ถือว่าน้อยมาก
องค์จักรพรรดินีได้ทรงให้องค์จักรพรรดิเลือกอยู่หลายอย่าง และได้ทรงเลือกให้กับพระองค์เองหลายผืนด้วยเช่นกัน และยังทรงส่งไปให้สมเด็จพระราชชนนีอีกสองผืนด้วย แน่นอนว่าพระสนมฉีเองก็ขาดไม่ได้เช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...