ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 468

เจ้าน่องน้อยเองที่ยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างไม่ลดละสายตา จ้องมองด้วยสีหน้าแววตาที่แน่นิ่งไม่ไหวติง

เฉินเสียนหันไปบีบแก้มที่กลมๆ ของเจ้าน่องน้อย พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "คืนนี้แม่จะไปดื่มสุราที่สวนดอกไม้ ไม่ต้องรอแม่กลับมา เจ้าเหนื่อยแล้วเจ้าก็ให้เสี่ยวเฮอพาเจ้าเข้านอน เข้าใจแล้วหรือยัง?"

เจ้าน่องน้อยพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ท่านแม่รีบกลับมานะ"

เฉินเสียนยิ้มขึ้นบางเบา พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "แม่จะพยายาม"

เธอไม่ได้ชอบใจอะไรกับงานเลี้ยงฉลองนี้มากมายนัก ก็แค่ไปพบปะกับราชทูตของอาณาจักรเป่ยเซี่ย อย่างมากก็คงจะดื่มสุราเพียงไม่กี่จอกเพื่อแสดงก็เท่านั้น

ด้านนอกพระตำหนักไท่เหอนั้นมืดมิดสุดลูกหูลูกตา รอบๆ ถูกล้อมรอบไปด้วยทหารเวรยามที่เฝ้าระวังและคุ้มกันอย่างหนาแน่น องค์จักรพรรดิคงกลัวว่าจะเกิดเรื่องเหมือนเมื่อครั้งก่อน ที่นักฆ่าบุกวังลักลอบเข้ามาในพระตำหนักไท่เหอ ดังนั้นจึงป้องกันและระมัดระวังเป็นพิเศษ

ซูเจ๋อที่ล้มเหลวไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็คงจะไม่บุ่มบ่ามบุกเข้าไปซ้ำเป็นครั้งที่สองภายใต้สถานการณ์แบบนี้อีกแน่นอน

ทหารเวรยามเฝ้าระวังพระตำหนักไท่เหอหนาแน่นแบบนี้ก็ดีไปอีกอย่าง พระสนมฉีจะได้ไม่ต้องเข้ามาหาเรื่อง

อวี้เยี่ยนและเสี่ยวเฮออยู่ดูแลเจ้าน่องน้อยที่พระตำหนักไท่เหอ ส่วนเฉินเสียนนั้นก็ไปที่งานเลี้ยงฉลองกับแม่นมซุย

แม่นมซุยเป็นคนสุขุมรอบคอบ หากเกิดเรื่องอะไรภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ก็จะได้มีผู้ช่วยในการรับมือ

อวี้เยี่ยนรู้ตัวดีว่านางนั้นไม่ถนัดและด้อยเรื่องพวกนี้ จึงได้อาสาอยู่ดูแลเจ้าน่องน้อยด้วยตัวเอง

เฉินเสียนพูดขึ้นว่า : "เอ้อเหนียง เจ้าไม่ต้องตามข้าไปก็ได้ ข้าก็แค่ไปทานอาหารในงานเลี้ยงฉลองที่อุทยานอวี้ฮัวเท่านั้นเอง อีกเดี๋ยวเดียวก็กลับมา เจ้าอยู่ดูแลเจ้าน่องน้อยกับพวกนางเถอะ แบบนี้ข้าจะรู้สึกวางใจมากกว่า"

แม่นมซุยจึงพูดขึ้นว่า : "ไม่มีคนตามไปปรนนิบัติรับใช้ข้างกายองค์หญิงได้อย่างไรกันข้างนอกมีทหารเวรยามคอยเฝ้าเยอะแยะมากมายขนาดนั้น เจ้าน่องน้อยไม่เป็นอะไรหรอกเพคะ หม่อมฉันติดตามองค์หญิงรีบไปแล้วรีบกลับก็เท่านั้นเองเพคะ"

อุทยานอวี้ฮัวเริ่มคึกคักขึ้นมาแล้ว

โคมไฟแก้วที่ถูกแขวนตามต้นไม้ในป่า ราวกับดอกไม้หลากสีสันเบ่งบานเต็มไปหมดเปลวไฟดูงดงามน่าหลงใหล ส่องแสงเป็นประกายสว่างอยู่กลางป่า ราวกับหิ่งห้อยที่กำลังส่องแสงมัวสลัว ดูแล้วงดงามเป็นที่สุด

ถึงแม้ว่าหลายวันมานี้หิมะจะตกหนัก อากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความตื่นเต้นดีใจในการเยี่ยมชมและเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนที่สวยสดงดงามของอุทยานอวี้ฮัวแห่งนี้

พรมสีแดงที่สะอาดสะอ้านถูกปูพื้นตั้งแต่อุทยานอวี้ฮัวไปจนถึงท้องพระโรงของงานเลี้ยงฉลอง

เฉินเสียนพาแม่นมซุยออกไป เธอแข่งขันความงดงามกับเหล่าพระสนมของวังหลังเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ พบปะและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงาม เดินขึ้นบนพรมแดง ตรงไปที่ท้องพระโรงอย่างเจิดจรัส

เธอเหมือนกับยอดกิ่งที่เย็นยะเยือกในเหมันตฤดู ราวกับดอกเหมยที่กำลังผลิบานปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน

สง่างาม สุขุม และสวยงามตระการตา

จู่ๆ ในท้องพระโรงก็เงียบลงในทันใด

จากนั้น องค์จักรพรรดิสูงสุดและสมเด็จพระราชชนนีก็เสด็จตามหลังมา ทรงนั่งอยู่บนพระที่นั่งสูงสุด เหล่าพระสนมและข้าราชบริพารต่างลุกขึ้นถวายบังคมพระองค์ ราชทูตทั้งสองอาณาจักรก็ได้เข้าทำความเคารพตามอารยธรรมของอาณาจักรตัวเอง จากนั้นเฉินเสียนก็ได้เข้าพบราชทูตของอาณาจักรเป่ยเซี่ยและราชทูตของอาณาจักรเย่เหลียงอย่างเป็นทางการ

ได้ยินมาว่าราชทูตของอาณาจักรเป่ยเซี่ยนั้นเป็นท่านอ๋องวัยกลางคนที่หยุดพักงานไปแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกไม่ธรรมดา การพูดการจาดูสง่าผ่าเผย เขามองมาที่เฉินเสียนด้วยสายตาที่ท่วมท้นไปด้วยความเอ็นดูจากรุ่นอาวุโส

ท่านอ๋องท่านนี้เป็นพี่น้องคนสนิทขององค์จักรพรรดิเป่ยเซี่ย หากนับตามเชื้อสายตระกูลเขาน่าจะเป็นรุ่นปู่ของเฉินเสียน

องค์จักรพรรดิเป่ยเซี่ยเป็นพระอัยกา (เสด็จตา) ของเฉินเสียนโดยชอบธรรม ตามหลักเสด็จตานั้นเป็นผู้เฒ่าผมขาวแล้ว งั้นอายุของพี่น้องของพระองค์ก็คงจะไม่ได้ต่างกันมากนัก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าอายุท่านอ๋องกลับไม่ได้ต่างจากท่านพ่อของเธอเท่าไหร่นัก

เฉินเสียนไม่เคยเจอเลยสักครั้ง เจอกันครั้งนี้ ก็ไม่ได้เป็นประสบการณ์ที่แย่เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี