ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 476

พระสนมฉีกับเฮ่อฟั่งนั้น คนหนึ่งเป็นพระสนมที่พระองค์รักใคร่ คนหนึ่งเป็นขุนนางที่พระองค์โปรดปราณ หากไม่ใช่ว่าแตะต้องถึงเส้นตายพระองค์ และไม่เพียงแต่ก่อเรื่องวุ่นวายที่ห้องตำราหลวงเท่านั้น แค่เพียงสัมผัสราชบัลลังก์ของพระองค์ พระองค์ก็สามารถจัดการพวกเขาตายคาที่ได้ ขนาดโอกาสที่จะพูดหนึ่งประโยคก็ไม่มีให้

ราชบัลลังก์ของพระองค์ ผู้ใดก็ไม่สามารถมาสัมผัสแตะต้องได้ นี่คือเส้นตายของพระองค์

หลังจากเหตุการณ์นั้นคิดๆดูแล้ว ทั้งสองคนตายอย่างไร้การตรวจสอบ ต้องการสืบสวนแต่ทว่าก็ไม่มีทางที่จะสืบสวนได้เลย

และจวนตระกูลเฮ่อ เฮ่อโยวไม่ได้พักผ่อนสองวัน เพื่อเตรียมงานเลี้ยงพระราชวังนี้ และวันนี้งานเลี้ยงพระราชวังจบสิ้นแล้ว เขานับว่าสามารถกลับมาพักผ่อนที่เรือนได้แล้ว

เฮ่อโยวเพิ่งจะออกมาจากข้างกายองค์จักรพรรดิที่อยู่ในพระราชวัง ช่วงเช้าตรู่ถึงเรือน ทั้งตัวเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ

หลังจากเข้ามาเรือน กลับเข้าห้องนอนอย่างไม่รีบร้อน ล้างมือแล้วก็ไปที่ศาลบรรพบุรุษตระกูลเฮ่อ คุกเข่าอยู่ในศาลบรรพบุรุษอย่างสงบเพื่อฮูหยินใหญ่ นั่นก็คือท่านย่าของเขา เขาจุดธูปหอมหนึ่งดอก

เฮ่อเซียงเจ็บปวดที่สุดที่เสียลูกชายไปคนหนึ่ง และวันธรรมดาๆได้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายอยู่ที่เรือน

เฮ่อฟั่งกับเฮ่อโยวเป็นพี่น้องที่ต่างฝ่ายต่างแข่งขันกัน สุดท้ายเป็นเฮ่อโยวที่จะชนะ จุดจบสุดท้ายของเฮ่อฟั่งเป็นผู้ที่ตายแล้วไร้หลุมฝังศพ

เฮ่อเซียงเหลือเฮ่อโยวที่เป็นลูกชาย ถึงแม้ว่าเขารู้ความจริง แล้วจะพูดออกมาได้อย่างไรล่ะ เมื่อเป็นแบบนี้นานๆ สุดท้ายกลายเป็นความทุกข์ใจ

เฮ่อโยวไปที่หน้าเตียงมองเฮ่อเซียง อีกด้านป้อนยาหม้ออย่างช้าๆ อีกด้านกล่าวขึ้นว่า “อย่างนี้ก็ดี พักผ่อนกายใจที่เรือน ลดการที่อนาคตจะไปลุยสถานการณ์ที่สกปรกแปดเปื้อน สิ่งที่สกปรกแปดเปื้อนนั่น อนาคตข้าจะลุยแทนท่านเอง”

เฮ่อเซียงใช้มือหนึ่งข้างปัดถ้วยยาหล่น เสียงทรงพลังอย่างน่าพิศวงกล่าวขึ้นว่า “เจ้าไสหัวไป”

เฮ่อโยวก็ไม่ได้โกรธ กล่าวขึ้นว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดข้าถึงต้องการให้เขาตายไม่มีชีวิตรอดมาได้?ไม่เพียงเพราะว่าเขาทำให้ท่านย่าญาติที่ดีที่สุดของข้าตาย เขายังจ้างวานนักฆ่าเพื่อสังหารข้ากลางทาง ครั้งนั้นเดิมผู้ที่ควรจะตายคือข้า แต่น่าเสียดายมีผู้หนึ่งมาขวางดาบแทนข้า”

แววตาขุ่นๆของเฮ่อเซียงมองเขา นี่คือลูกชายของเขาที่เมื่อก่อนไร้ความกังวลต่อสิ่งใดคนนั้นของตัวเองหรือไม่? เมื่อก่อนเฮ่อเซียงหวังมาตลอดว่าเฮ่อโยวจะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ของแลกเปลี่ยนการเป็นผู้ใหญ่นี้ไม่เป็นที่สงสัยมันยากที่จะรับได้อย่างมาก

เฮ่อโยวกล่าวว่า “ข้าติดหนี้นาง ข้าต้องคืน ถึงแม้ว่านางจะเป็นสาวใช้ผู้หนึ่ง แต่ทว่าข้าสามารถจำนางได้เป็นเวลานานอยู่แล้ว”

เห็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ตายลงต่อหน้าต่อตาตัวเอง สัมผัสได้ว่าเลือดอุ่นร้อนนั่นไหลอาบที่มือสองข้าง นางเพื่อที่จะปกป้องเขา ชัดเจนตัวเองแรงน้อยขนาดแรงที่จะมัดไก่ยังไม่มี แต่ทว่าดึงดันที่จะมาขวางอยู่ด้านหน้าเขาเพื่อที่จะปกป้อง

เฮ่อโยวจำได้มาโดยตลอด เขามักกลั่นแกล้งนางเสมอ ตอนที่เห็นนางลำบากแสนเข็ญตัวเองจะรู้สึกสนุกสนาน แต่ทว่าจำได้ชัดเจนอย่างนี้

ที่แท้เขาได้ใส่ใจอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวมานานแล้ว เขายังพูด รอหลังจากที่กลับมาค่อยขอร้องให้นางเป็นสาวใช้ข้างกายตัวเองเลย

แต่น่าเสียดายนางไม่สามารถรอจนกลับมาได้ และก็ไม่มีวันข้างหน้าอีก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีสาวใช้ที่ชื่อชิงซิ่งปรากฏตัวข้างกายเขาอีกแล้ว

ความเจ็บปวดอย่างนั้น เพียงแค่เขาไม่พูดมันออกมา ผู้อื่นก็ดูไม่ออกหรอก อยู่ภายในใจของเขามานานแล้ว เพิ่มรอยแผลเป็นมากขึ้นอย่างลึกซึ้ง อาจจะยากที่จะรักษามันหายขาดแล้ว

พริบตาเดียว ทูตของเป่ยเซี่ยกับเย่เหลียงก็ได้มาที่เมืองหลวงหลายวันแล้ว ตอนนี้ห่างจากวันส่งท้ายปีเก่าฉลองตรุษจีนมากกว่าครึ่งเดือน ทูตเห็นเฉินเสียนกับซูเจ๋อกลับมาอย่างปลอดภัย ก็เลือกวันที่จะออกจากเมืองหลวงแล้วกลับเมืองตัวเอง

แน่นอนว่าองค์จักรพรรดิไม่ขอให้พวกเขาอยู่ต่อฉลองตรุษจีน เฝ้าภาวนาให้พวกเขารีบไป ตอนนี้ราชสำนักวังหลังมีเรื่องวุ่นวายเป็นกอง จะทำให้องค์จักรพรรดิหายใจไม่ออกอยู่ละ

วันนี้ขึ้นแปดค่ำเดือนสิบสอง ทูตคิดวางแผนไว้ว่าผ่านวันนี้แล้วค่อยกลับไป ท่านอ๋องของเป่ยเซี่ยอยากจะเชิญองค์หญิงจิ้งเสียนมาพูดคุยที่พระตำหนักรับรอง ก็นับว่าเป็นการดำเนินการแล้ว

องค์จักรพรรดิไม่มีเหตุผลที่จะไม่ตอบตกลง ด้วยเหตุนี้เลยได้ส่งองครักษ์หลวงหนึ่งขบวน คุ้มกันเฉินเสียนไปส่งที่พระตำหนักรับรอง

องครักษ์หลวงเหล่านั้นไม่เพียงมีหน้าที่รับผิดชอบคุ้มกันเฉินเสียนไปส่งอย่างปลอดภัย ที่สำคัญคือเฝ้าติดตามกระทำเคลื่อนไหวของเฉินเสียนกับท่านอ๋องของเป่ยเซี่ยด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี