ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 497

สรุปบท บทที่ 497 เหมือนจะถูกวางยาพิษตายแล้ว: ข้าคือหงส์พันปี

ตอน บทที่ 497 เหมือนจะถูกวางยาพิษตายแล้ว จาก ข้าคือหงส์พันปี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 497 เหมือนจะถูกวางยาพิษตายแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ข้าคือหงส์พันปี ที่เขียนโดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เทศกาลบุปผาสะพรั่งในเดือนกุมภาพันธ์ ลมหนาวยังคงพัดพาความหนาวเหน็บมาเยือนเล็กน้อย

ความหนาวในเหมันตฤดูถือว่าจบสิ้นเสียที หิมะหยุดตกมาหลายวันแล้ว แสงตะวันเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้น้อยใหญ่มีเขียวขจีสดใหม่เกิดขึ้น ดอกไม้ตูมพร้อมผลิบานอยู่รอมร่อ

รุ่งอรุณนี้เฉินเสียนตื่นเช้ากว่าปกติ ยามที่เธอลืมตาขึ้น ท้องฟ้ายังไม่ได้สว่างเต็มที่

เธอผวาตื่นอย่างไร้สาเหตุ รู้สึกเพียงว่าหัวใจเสมือนมีก้อนหินหนักอึ้งทับโถม และทำให้หัวใจเต้นดังกึกก้องไปทั่วท้อง

เธอนั่งสวดมนต์อยู่ในพระอุโบสถแต่เช้า หนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาเธอรู้สึกสบายใจมาโดยตลอด ไม่เคยเป็นเหมือนวันนี้ที่หัวใจเต้นตึกตักจนไม่อาจสงบสุขได้

เฉินเสียนอยู่ในพระอุโบสถผู้เดียว เพื่อให้ตัวเองสงบจิตสงบใจ เธอจึงอ่านบทสวดออกมา ซึ่งปกติจะอ่านในใจเท่านั้น

ทั่วทั้งพระอุโบสถเกิดเสียงสวดมนต์และเสียงเคาะบักฮื้อดังกังวานไปทั่ว

ทันใดนั้นเกิดเสียง คะชะ!

ไม้เคาะบักฮื้อหักเสียแล้ว เฉินเสียนมองไม้เคาะที่หักอยู่บนพื้นเป็นสองท่อนด้วยความตะลึงงัน พลางเกิดลางสังหรณ์ในบัดดล

"อมิตาภพุทธ"

เฉินเสียนหันหน้ากลับไปมองพลันเห็นเจ้าอาวาสวัดฮู่กั๋วสาวเท้าเข้ามา

เฉินเสียนลุกขึ้นคารวะ กล่าวว่า "เจ้าอาวาสไต้ซือ วันนี้จิ้งเสียนว้าวุ่นใจ จึงมาสวดมนต์ให้ขัดเกลาจิตใจ คาดไม่ถึงว่าจะทำบักฮื้อเสีย ไต้ซือโปรดอภัยด้วย"

"สรรพสิ่งบนโลกที่กระทบจิตใจล้วนเกิดจากความทุกข์สุข การเจอะเจอกับการอำลา วาสนามาแล้วจากไป หากโยมสามารถปล่องว่างได้ หัวใจก็จะสงบดั่งสายน้ำเอง"

เฉินเสียนคำนับ กล่าวว่า "ไต้ซือใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเห็นแก่นแท้ จิ้งเสียนคงไม่อาจทำได้ในเวลาส้้นๆหรอก? จิ้งเสียนไม่อาจละทางโลกได้ สิ่งที่ภาวนาจึงเป็นเรื่องทางโลกทั้งนั้น"

พอฟ้าสว่างเต็มที่ก็มีพระราชโองการเรียกตัวเฉินเสียนกลับวังโดยเร็ว

อีกหลายวันกว่าจะถึงสี่สิบเก้าวันแท้ๆ

เฉินเสียนตระหนักได้ว่าลางสังหรณ์ที่ว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้สินะ เธอกับอวี้เยี่ยนเก็บสัมภาระเสร็จสรรพ จากนั้นก็กล่าวคำอำลากับเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ในวัดฮู่กั๋ว ก่อนจะลงเขาไปอย่างไม่เร็วไม่ช้า

เมื่อเดินทางมาถึงตีนเขาพลันเห็นองครักษ์วังหลวงยืนเฝ้าอย่างหนาแน่น คล้ายกับกลัวเฉินเสียนจะหนีอย่างไรอย่างนั้น จึงทำให้เฉินเสียนอดหนักอึ้งในใจไม่ได้

ตอนเธอมาวัดฮู่กั๋วจักรพรรดิก็ไม่ได้สั่งให้องครักษ์วังหลวงมาส่งเธอมากเท่านี้ ทว่าวันนี้ เพียงแค่ลงเขากลับวัง องครักษ์วังหลวงก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

อวี้เยี่ยนก็ตกใจกับภาพตรงหน้าจนอึ้งไม่น้อย กล่าวว่า "เกิดอะไรขึ้นเพคะ……"

เฉินเสียนก็ไม่รู้เช่นกัน ทว่าดูจากภาพตรงหน้าคงต้องเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่

องครักษ์วังหลวงไม่รีรอ เมื่อเฉินเสียนขึ้นรถม้าเสร็จก็รีบเคลื่อนขบวนกลับพระราชวังทันที

รถม้ากระตุกจนเฉินเสียนกับอวี้เยี่ยนเวียนเกล้าปวดเศียร อวี้เยี่ยนอดตะโกนเสียงดังไม่ได้ "พวกท่านช้าหน่อย กระแทกแรงไปแล้ว!"

ความเร็วของรถม้าไม่ได้ลดลง ซ้ำยังเพิ่มความเร็วมากกว่าเดิมอีกต่างหาก

ผ่านไปสักพักจึงมีเสียงองครักษ์วังหลวงส่งเข้ามา "ฝ่าบาทรับสั่งให้องค์หญิงจิ้งเสียนรีบกลับวังโดยด่วนพ่ะย่ะค่ะ"

หยุดพูดชั่ววูบ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า "หากองค์หญิงเคืองใจที่รถม้ากระแทกแรง เมื่อกลับถึงวังคงหายเคืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ หากยามนี้วิ่งเร็วหน่อย ไม่แน่ว่าอาจได้เห็นหน้ากันครั้งสุดท้ายพ่ะย่ะค่ะ"

เฉินเสียนรู้สึกกลัดกลุ้มใจอย่างบอกไม่ถูก ถามว่า "เจอหน้ากันครั้งสุดท้ายอะไร เห็นหน้าใครครั้งสุดท้าย?"

องครักษ์วังหลวงกล่าวว่า "องค์หญิงจิ้งเสียนเสด็จกลับไปถึงก็รู้เองพ่ะย่ะค่ะ"

ตอนที่เดินทางมาถึงวังเพิ่งผ่านเวลาเที่ยงมาหมาดๆ

เมื่อลงจากรถม้าก็มีขันทีมารายงานกับเฉินเสียน โดยบอกว่าจักรพรรดิรออยู่ในพระตำหนักไท่เหอ ให้เฉินเสียนรีบไปพระตำหนักไท่เหอทันควัน

เจ้าน่องน้อยอาศัยอยู่ในพระตำหนักไท่เหอ ไม่รู้ว่าหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเขา เฉินเสียนกลับมา สิ่งที่กังวลก็คือพระตำหนักไท่เหอนี่แหละ

เฉินเสียนยกเท้าถีบบานประตู

ประตูทั้งสองบานพลันเปิดออก ทันใดนั้นเสียงร่ำไห้ก็หยุดลง

ดวงตาบวมแดงอขงเสี่ยวเฮอมองมายังเฉินเสียน "องค์หญิง……เสด็จกลับมาถึงเสียที……"

เฉินเสียนเดินเข้าไปอย่างไร้การตอบสนอง เมื่อเดินมาถึงห้องนอนเห็นหมอหลวงรายล้อมอยู่ข้างเตียง จึงถามเสียงแผ่วเบา "พวกเจ้ากำลังทำกระไรอยู่?"

วันนี้จักรพรรดิเสร็จราชการก็มายังพระตำหนักไท่เหอ ซึ่งเวลานี้กำลังรอฟังผลอยู่ในห้องโถง

เมื่อเฉินเสียนกลับมาถึงก็ไม่มีกะจิตกะใจไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิเสียแล้ว เมื่อจักรพรรดิได้ยินเสียงเคลื่อนไหวพลันเสด็จมาดูที่ห้องนอนของเจ้าน่องน้อย

ภายในห้องเงียบกริบ เฉินเสียนจ้องมองหมอหลวงด้วยแววตามืดครึ้มที่เต็มไปด้วยไอสังหาร ก่อนจะตวาดเสียงกะทันหัน "ข้าถามพวกเจ้าว่ากำลังทำอะไรอยู่"

เฉินเสียนกล่าวอย่างดุดัน "หลีกไป"

หมอหลวงหลายท่านโดนตวาดใส่จนอึ้งทึ่ม หากแต่ยังคงถอยไปอยู่สองข้าง

เฉินเสียนก้าวเท้าไปทีละก้าว เห็นร่างกายเล็กๆกำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง

ซึ่งเป็นภาพเหมือนปกติ ในแต่ละวันเจ้าน่องน้อยจะนอนกลางวันทุกวัน

เพียงแต่เขาไม่ได้ถอดเสื้อคลุ้มที่เฉินเสียนเตรียมให้แก่เขา

พอเดินเข้าไปใกล้ เธอถึงเห็นใบหน้าเล็กของเขาซีดขาว ลูกตานูนลงไป เมื่อก่อนดวงตาที่เรียวเล็กที่ทอประกายแสงความนิ่งเงียบ บัดนี้ปิดไว้เสียสนิท

ไม่ว่าจะเป็นจมูก รูหู เบ้าตาหรือมุมปาก ล้วนมีเลือดไหลทะลักออกมาเรื่อยๆอย่างช้าๆ

เขาไม่เห็นเธอกลับมาและไม่ได้แสดงท่าทางดีอกดีใจแต่อย่างใด เขาแค่นอนอยู่บนเตียงอย่างเดียวดายเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี