ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 52

เซียงซั่นยื่นมือไปกอดคอของเขาไว้ หางตาเต็มไปด้วยความสุขสมใจและความภาคภูมิใจ บุรุษเพศ ใช้กลอุบายเพียงนิดหน่อย ก็ได้มาครอบครองสมใจ

ก่อนหน้านี้ท่านแม่ทัพเคยเกลียดเฉินเสียนเสียยิ่งกว่าอะไรดี แต่สุดท้ายก็ไปทำเฉินเสียนท้องจนได้ งั้นตอนนี้ข้างเตียงของเขาเพิ่มนางมาอีกคน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

แต่ฉินหรูเหลียงกลับบ้าคลั่งมาก เซียงซั่นที่ไม่เคยผ่านมือชายจึงรับแทบไม่ไหว

เขาเหี้ยมโหดราวกับจะจับเซียงซั่นกินเข้าไปทั้งตัว จนเซียงซั่นเริ่มตื่นกลัวขึ้นมา

นั่นเป็นยากระตุ้นการเป็นสัดที่ให้ม้ากิน แต่วันนี้กลับเอามาให้ฉินหรูเหลียงกิน เห็นได้ชัดว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเขารุนแรงแค่ไหน

โต๊ะหนังสือถูกเขาปัดล้ม พู่กัน น้ำหมึก และถ้วยซุปกระจายเต็มพื้น

เซียงซั่นลุกขึ้นถอยหลังด้วยความตื่นกลัว แต่ถูกมือฉินหรูเหลียงรวบตัวขึ้นมา เมื่อถึงข้างกำแพง ก็ทิ้งนางลงบนม้านั่ง จากนั้นเขาก็คร่อมตัวลงมาทับร่างนางไว้

ไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น

ชุดกระโปรงสีเขียวอ่อนฉีกขาด เมื่อฉินหรูเหลียงคลำเจอทางเข้า ก็ทำการสอดใส่ด้วยความรุนแรง

สัตว์ร้ายที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่บนร่างของเซียงซั่น ใบหน้าของเซียงซั่นซีดขาว เล็บของนางจิกลงบนหลังของฉินหรูเหลียงจนเป็นรอยเลือด ร้องครางด้วยความเจ็บปวด

นางกำลังทนต่อการทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมไปครึ่งค่อนคืน

เมื่อตัดสินใจจะทำแล้ว ทุกอย่างล้วนต้องจ่ายค่าตอบแทน

เซียงซั่นสลบไปตอนไหน นางเองไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

ช่วงเวลาของฟ้าสางมาถึง เซียงซั่นที่ยังคงสลบอยู่ จู่ๆ ก็ถูกยกไปวางบนพื้น ร่างกายที่เปลือยเปล่าสัมผัสกับพื้นที่เย็นเยียบ นางสะดุ้งไปทั้งตัว แล้วจึงค่อยๆ ได้สติขึ้นมา

ผิวที่ขาวเนียน ปรากฏร่องรอยช้ำตามตัวเต็มไปหมด และเลือดพรหมจรรย์ที่เลอะเปื้อนม้านั่ง ดูแล้วอุจาดตาไม่น้อย

ฉินหรูเหลียงนั่งอยู่บนม้านั่ง เมื่อได้สติแล้ว เขาก็ไม่อาจยอมรับและผ่านพ้นมันไม่ได้

มองเห็นเพียงขาที่ยาวของเขาที่เหยียบลงพื้น เขาก็คว้าคอของเซียงซั่นขึ้นมาทันที : "กำเริบเสิบสาน กล้าดียังไงมาปีนขึ้นบนเตียงของข้า!"

เซียงซั่นเนื้อตัวสั่นเทา หยดน้ำตาไหลไม่หยุด : "ท่านแม่ทัพ บ่าวมิบังอาจ......เป็นท่านแม่ทัพเอง......"

ฉินหรูเหลียงสายตาเย็นยะเยือกที่สะท้านถึงขั้วหัวใจ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้มีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเขา หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างเขาเองก็มิอาจจำได้ แต่เขามั่นใจได้อย่างหนึ่ง ซุปถ้วยนั้นมีปัญหาอย่างแน่นอน

เซียงซั่นทั้งหวาดกลัวทั้งกระดากอาย : "เมื่อคืนนี้บ่าวคิดว่าท่านแม่ทัพดื่มซุปเสร็จแล้ว จึงตั้งใจว่าจะมาเก็บถ้วย แต่พอเข้ามาแล้ว ไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพเป็นอะไรไป เข้าใจผิดว่าบ่าวเป็นนายหญิง......"

ฉินหรูเหลียงชะงักงันนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

เซียงซั่นน้ำตาซึม พูดขึ้นต่อว่า : "บ่าวทั้งร้องทั้งตะโกน ร้องขอให้ท่านเมตตา ปล่อยบ่าวไป......บ่าวหลบไม่ได้หนีไม่พ้น และสุดท้ายมิอาจต้านแรงไหวจึง......"

ในห้องตำรามีเพียงเสียงร้องไห้ของเซียงซั่น บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่หนาวสะท้าน

จนในที่สุดเขาก็ปล่อยคอของเซียงซั่น ทิ้งลงกับพื้น ตะโกนเสียงดัง : "ไสหัวไปซะ!"

เซียงซั่นน้ำตาคลอเบ้า เก็บเสื้อผ้าที่ฉีกเป็นชิ้นๆ บนพื้นขึ้นมาคลุมตัวไว้

ฉินหรูเหลียงไม่อยากเห็นแม้แต่หางตา ทำไมถึงมองชุดสีเขียวอ่อนนั้นเป็นหลิ่วเหมยอู่ไปได้

เซียงซั่นไม่อยู่ต่อ หมุนตัวร้องไห้วิ่งออกจากห้องตำราไปทันที

หลายวันมานี้ท้องฟ้าสีหม่น แสงสีขาวกระทบกับเมฆที่ปลายฟ้า

นางวิ่งจนถึงหลังเรือนหลัก หยุดร้องไห้ พร้อมกับหยิบเสื้อผ้าที่ตัวเองซ่อนไว้ตั้งแต่แรกออกมาเปลี่ยน นางตั้งใจดึงคอเสื้อออก เพื่อให้เห็นถึงความไม่เรียบร้อย จากนั้นก็ร้องไห้กลับไปยังสวนดอกพุดตาน

เซียงซั่นไม่อยากให้เรื่องนี้จบเพียงเท่านี้ ไม่อย่างงั้นก็เท่ากับว่านางขาดทุน

นางจะต้องให้หลิ่วเหมยอู่รับรู้เรื่องนี้ เพื่อให้ฉินหรูเหลียงจัดการเรื่องนี้ลำบากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี