ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 566

ซูเจ๋อมองหน้าเธอเป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเปิดเผยอารมณ์โศกเศร้าออกมาต่อหน้าเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาว่า “อาเสียน แล้วท่านจะให้ข้าทำเช่นไรได้?”

เฉินเสียนค่อยๆเปิดเสื้อของซูเจ๋อออกอย่างไร้เรี่ยวแรง ลูบไล้ไปที่ตามรอยพับที่เสื้อเขาอย่างเบาๆ พูดเสียงแข็งขึ้นว่า “ใช่ ข้าจะไปให้ท่านทำอะไรได้ ถึงอย่างไรก็เป็นเช่นนี้แล้ว มันยังมีอะไรที่เลวร้ายกว่านี้อีกหรือไม่?”

ซูเจ๋อตอบเธอว่า “ถ้าเกิดมีหล่ะก็ ท่านก็จำเอาไว้ว่าต้องมีสติเพื่อรับมือกับมันให้ได้”

ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าทำให้เธอหลงรักเขามาก และโกรธเกลียดไม่ลง

เฉินเสียนเงยหน้า ชำเลืองมองด้วยดวงตาที่ชุ่มชื้นแล้วเอ่ยว่า “ใต้เท้าซู ท่านรู้จักการปลอบใจคนอื่นบ้างหรือไม่?”

ซูเจ๋อขมวดคิ้วอันเรียวยาวของเขา ใช้ความคิดแล้วจึงพูดขึ้นว่า “ขอจักรพรรดินีได้โปรดแสดงให้เห็น”

เฉินเสียนผลักเขาให้ติดไปกับกำแพง แล้วดันร่างกายของตัวเองเข้าไปประกบแนบชิด มือข้างหนึ่งเกี่ยวไว้ที่คอของเขา เงยคางแล้วจูบลงไปอย่างดูดดื่มที่ริมฝีปากของเขา

สองมือของเธอกดแน่นไปที่ไหล่ของซูเจ๋อ โดยไม่สนใจว่าจะบดขยี้ริมฝีปากของเขามากแค่ไหน

ความรู้สึกทุกข์ใจและความเศร้าโศกทั้งหมดนั้น พลั่งพลูออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับมาถึงจุดที่แตกหัก เธอรู้ว่าซูเจ๋อนั้นต้องเก็บกดความทุกข์ของตัวเองเอาไว้มากยิ่งกว่าเธอเสียอีก ร่องรอยที่เกิดจากความโศกเศร้าที่เล็กน้อยถูกเขาเก็บซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด ไม่เคยแสดงออกมาให้ใครได้เห็น

ซูเจ๋อถูกเธอจูบจนเป็นรอยแดงไปถึงหางตา คลื่นใต้น้ำในดวงตานั้นพลั่งพลูออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เธอเคลื่อนมือลงมาแตะที่บริเวณหัวใจของเขา น้ำตาคลอแล้วพูดด้วยเสียงที่แหบว่า “ซูเจ๋อ ท่านเจ็บหรือไม่ ข้าเคยปลอบใจท่านได้บ้างหรือไม่? ข้าอยากจะให้ท่านสอนว่าต้องทำอย่างไรถึงจะปลอบใจท่านได้บ้าง”

ซูเจ๋อขยับแนบพิงกับกำแพง หายใจเข้าออกอย่างกระสับกระส่าย เขาหลับตาลง ดูคล้ายกับว่ากำลังพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในความสงบนิ่ง แต่ในที่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้

เฉินเสียนเห็นเพียงแสงแวบในดวงตา จากนั้นหลังของเธอก็กลับแนบชิดกับกำแพง ซูเจ๋อเปลี่ยนจากผู้ถูกกระทำกลายมาเป็นผู้กระทำแทน เขาโน้มตัวลงไปบดขยี้เธอ นัยน์ตาสีดำเข้มดั่งน้ำหมึก แล้วใช้นิ้วลูบไล้ไปที่ขี้ผึ้งทาปากสีแดงบนริมฝีปากของเธอ “อยากจะปลอบใจข้านั้น มันง่ายมาก”

เขาดันเธอแนบชิดกับกำแพง มือข้างหนึ่งจับไว้ที่เอว อีกข้างประคองไว้ที่ท้ายทอยของเธอแล้วก้มลงไปจูบ

เฉินเสียนยื่นมือกอดเกี่ยวด้านหลังเขาไว้ แล้วเขย่งเท้าจูบตอบเขาอย่างดูดดื่ม

มุมเสื้อของชุดเครื่องแบบจักรพรรดิสีเหลืองสดใสพัวพันเข้ากับชุดเครื่องแบบขุนนางสีน้ำเงินงดงามกำลังเติมเต็มซึ่งกันและกัน

เฉินเสียนจูบถึงขั้นที่ปิ่นปักผมหลุดออก ศรีษะของเธอแนบชิดกับกำแพง เชยคางขึ้น เส้นเลือดบริเวณคอที่โผล่เหนือขึ้นมาจากเสื้อเคลื่อนไหวอย่างละเอียดอ่อนทำให้คนนั้นรู้สึกเร้าใจ

ซูเจ๋อเลื่อนนิ้วไปที่บริเวณคอของเธอ แล้วค่อยๆปลดกระดุมของเธอออกทีละเม็ด จนเผยให้เห็นบริเวณหัวไหล่ เขาประคองศรีษะของเธอไว้ แล้วจูบประทับลงไปที่กระดูกไหปลาร้าของเธอ

เขาพูดขึ้นอย่างสุขุมว่า “ คำพูดที่ข้าพูดกับท่านคืนนั้น ท่านยังจำได้หรือไม่”

เฉินเสียนกลั้นลมหายใจอยู่ในลำคอ “ข้าจำไม่ได้แล้ว”

“เช่นนั้นข้าจะพูดอีกรอบ ให้ท่านได้จำขึ้นใจ” ซูเจ๋อกระซิบแนบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบาในขณะที่จูบไปด้วย

“ท่านคือผู้หญิงที่ร่วมกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า ชั่วชีวิตนี้ข้าจะไม่อนุญาตให้ไปกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกับชายใดอีก ไม่แม้แต่จะดื่มเหล้ากับผู้อื่น ไม่แม้แต่ให้ใครได้เข้าใกล้ เมื่อมีคนนอกเข้ามาในบ้านเพียงไม่กี่คน ข้าก็แค่เดินเข้าไปในการแสดงอย่างสั้นๆ ข้าจะไม่ไปไหน แล้วก็จะไม่ทำให้โอกาสสุดท้ายของท่านสูญเสียข้าไป”

เฉินเสียนก็พยายามเปิดเสื้อของเขาออก แล้วประทับรอยจูบสีแดงเอาไว้ที่เสื้อด้านในของเขา

เฉินเสียนกอดศรีษะของเขาไว้ ยิ้มทั้งน้ำตา “ซูเจ๋อ ท่านคิดได้เช่นนั้นจริงหรือ?”

ซูเจ๋อกล่าว “คิดไม่ได้ก็ต้องคิดให้ได้ ใครใช้ให้ภรรยาของข้าเป็นจักรพรรดินีของต้าฉู่กัน” สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่แค่ความสุขในชั่วขณะแต่มันเป็นชีวิตของเธอในอนาคต

ใครว่าในใจเขาจะไม่เจ็บปวด เขาเพียงแค่ไม่เปิดออกให้ใครได้เห็นก็เท่านั้นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี