ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 568

เหตุการณ์ที่ศาลาบนประตูเมืองร่วงหล่นลงมานั้นทำให้วุ่นวาย เหล่าองครักษ์วังหลวงจึงรีบขึ้นไปดูเหตุการณ์ด้านบนให้แน่ชัด บรรดาขุนนางที่อยู่ด้านหลังก็โน้มน้าวให้เฉินเสียนรีบกลับเข้าพระราชวัง

เฉินเสียนนั้นปลอดภัยดี เพราะตอนนั้นซูเจ๋อเป็นคนที่กดทับเธอเอาไว้ ทั้งสองกลิ้งหกล้มลงไปที่พื้น เธอก้มศรีษะลง พยายามอดกลั้นอารมณ์ แล้วปัดเศษฝุ่นที่ติดตามเสื้อผ้าอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเอ่ยว่า“ใต้เท้าซูเป็นคนที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ จะถือเป็นความผิดได้อย่างไร ขอเชิญองค์ชายหกเสด็จเข้าในเมือง ”

องค์ชายหกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ตกตะลึง

สถานการณ์ในขณะนั้น ตำแหน่งที่เขาอยู่มันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

เดิมทีองค์ชายหกนั้นคิดว่า เรื่องนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ เฉินเสียนก็คงจะต้องสิ้นพระชนม์เป็นแน่

ในเวลานั้น เขาก็รู้อย่างชัดเจนดีว่านั่นไม่ใช่ผลสุดท้ายที่เขาอยากจะให้เป็น เดินทางมาไกลเป็นพันลี้เพื่อมาถึงต้าฉู่ เขายังไม่ทันได้เริ่มเล่นเกมกับเธอเลย ถ้าเกิดจะมาจบลงเช่นนี้ มันคงทำให้เขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหัวใจของเขานั้นถูกบีบรัดแน่น แต่เขากลับไม่ขยับก้าวเท้าเข้าไปช่วยเธอ

ตอนที่ก้อนหินที่ร่วงหล่นลงมานั้น เป็นแค่ช่วงเวลาพริบตาเดียว องค์ชายหกกับเฉินเสียนต่างถูกสะกดให้หยุดนิ่ง ไม่ทันจะได้มีการตอบสนองที่ดี แต่สำหรับคนที่อยู่ด้านหลังของเธอนั้นสามารถที่จะเคลื่อนไหวราวกับสายลมมาโอบกอดเธอให้หลบหลีกตอนที่ก้อนหินร่วงหล่นลงมาได้

นั่นเป็นเพราะว่าเขาอยู่ด้านหลังของเธอ หัวหน้าของบรรดาขุนนาง ในสายตาของเขาคนที่เขาสนใจมีแค่เธอเพียงคนเดียว

เดิมทีองค์ชายหกนั้นต้องการที่จะมายั่วยุและยุแยงตะแคงรั่ว ขอเพียงแค่ต้องการดึงดูดความสนใจจากเฉินเสียนได้ นั่นก็พอแล้ว แต่ทันใดนั้นเขาก็กลับพบว่าเขาพ่ายแพ้ไปแล้วหนึ่งขั้น เพราะว่าเขาไม่มีทางที่จะดื้อรั้นยุแยงให้เฉินเสียนและซูเจ๋อนั้นแตกหักกันได้

กลุ่มคนเดินถนนกำลังเดินกลับเข้าเมือง โดยมีกลุ่มขุนนางชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้เร่งรัดอยู่ด้านหลัง เฉินเสียนเดินออกมาจากซูเจ๋อ แล้วหันหลังกลับเตรียมขึ้นรถม้า

แต่ทว่าเฉินเสียนที่เพิ่งเดินห่างออกจากกายซูเจ๋อได้เพียงไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็มีสายลมจากขุนเขาเขียวพัดเข้ามา ทำให้ชายเสื้อชุดเครื่องแบบขุนนางของเขาพัดไปตามสายลม

เฉินเสียนได้กลิ่นหอมของไม้กฤษณาจางๆจากตัวเขา จึงหยุดก้าวเดินในทันที

เธอขมวดคิ้ว แล้วเงยหน้าหันไปถามซูเจ๋อว่า “ใต้เท้าซูท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”

ซูเจ๋อพูด “ขอบพระทัยความห่วงใยของฝ่าบาท กระหม่อมไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ”

ก้อนหินเหล่านั้นที่ร่วงหล่นลงมาใส่บนร่างกายของเขา ถึงแม้จะไม่มีเลือดออก แต่ก็อาจจะมีเลือดช้ำในได้ เขารีบตอบกลับมาอย่างทันทีโดยที่ยังไม่ทันได้คิด

เฉินเสียนเม้มปาก แล้วถามย้ำอีกครั้งว่า “ใต้เท้าซูท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”

เธอได้กลิ่นหอมจางๆของไม้กฤษณาที่มีกลิ่นคาวของเลือดปะปนอยู่!

ครั้งนี้ซูเจ๋อไม่ได้ตอบอะไรกลับ เพียงแค่ขยับมุมปากราวกับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในวินาทีนั้นเฉินเสียนก้าวเท้าถอยกลับมา ซูเจ๋อก็หลับตาแล้วล้มลงอย่างทันที เธอจึงรีบสวมกอดเขาไว้โดยที่ไม่สนใจสายตาของผู้อื่น

ร่างกายของซูเจ๋อนั้นโน้มเอนไปทางเธอ ทำให้เฉินเสียนนั้นเซไปด้านหลังสองก้าวถึงจะยืนอย่างมั่นคงได้ เธอได้กลิ่นคาวของเลือดจากร่างกายซูเจ๋อ มือข้างหนึ่งกอดเขาไว้ อีกข้างก็ค่อยๆลูบขึ้นไปที่ด้านหลังของซูเจ๋ออย่างสั่นเทา

สีเลือดบนใบหน้าของเฉินเสียนก็ค่อยๆซีดขาวลง

เธอรู้สึกหนาวเย็นตั้งแต่ศรีษะจนจรดปลายเท้า นิ้วที่เยือกเย็นนั้นสัมผัสได้ถึงความเหนียวจากใต้ผมของเขา ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่ความเหนียวข้นนั้นเปียกชุ่มไปทั่วเสื้อผ้าของซูเจ๋อ

นิ้วมือของเฉินเสียนนั้นสั่นเทา ขาก็กลับรู้สึกอ่อนแรง ในขณะที่กอดซูเจ๋อเอาไว้ทั้งสองนั้นก็ค่อยๆทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น

เฉินเสียนอ้าปากค้าง เสียงที่ออกมาจากลำคอนั้นสั่นเทา“บาดเจ็บ ท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือ?”

เลือดที่เหนียวข้นไหลออกมาจากบริเวณลำคอของเขา เธอค่อยๆลูบไปตามรอยเลือดที่ไหลออกมาจากเส้นผมของเขา ยิ่งเลื่อนมือสูงขึ้นเท่าไหร เธอก็รู้สึกสั่นเทามากขึ้นเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี