ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 608

เฉินเสียนนั่งอยู่ในท้องพระโรงที่ว่างเปล่า มีประกาศรับสั่งให้ซูเจ๋อเข้าวัง จากนั้นเฮ่อโยวซึ่งอยู่ข้างกายจึงเป็นผู้อ่านพระราชโองการให้ทราบโดยทั่วกัน เลื่อนยศให้บัณฑิตซูเจ๋อเป็นอัครเสนาบดีผู้ช่วยปกครองดินแดนต้าฉู่ พร้อมกับพระราชทานตราประจำตำแหน่งอัครเสนาบดี ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะคอยช่วยเหลือจักรพรรดิดูแลราชกิจในราชสำนักโดยมิอาจหย่อนยานต่อหน้าที่

จากมุมของเฉินเสียนซึ่งเรียกได้ว่ามองจากเบื้องสูงลงมา เธอมองดูซูเจ๋อคุกเข่ารับพระราชโองการของเธอ มองดูเขาโค้งศีรษะคำนับแสดงความขอบคุณต่อจักรพรรดิ

มือทั้งสองข้างที่วางอยู่บนบัลลังก์มังกรเกร็งแน่น เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความต้องการที่จะถลันลงไปดึงเขาให้ลุกขึ้นมาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

ซูเจ๋อรับพระราชโองการ ต่อแต่นี้ไปเขาจะเป็นขุนนางของเธอและเป็นผู้นำของเหล่าขุนนางทั้งหลาย

เฉินเสียนจะทำอย่างไรได้อีกถ้าหากไม่ทำเช่นนี้ นี่คือสิ่งที่ซูเจ๋อตัดสินใจเด็ดขาดลงไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงบัณฑิตที่ไม่ได้กุมอำนาจ ก็จะยังเกิดเรื่องกับเขาอยู่ดี

ในเมื่อเธอหยุดมันไม่ได้ ไม่ดีกว่าหรือถ้าจะให้เขาอยู่ในตำแหน่งอันสูงส่งซึ่งมากด้วยอำนาจ ให้เขาได้อยู่ในตำแหน่งที่มีเกียรติซึ่งจะทำให้เขามีอำนาจมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการสร้างศัตรู แต่คนอื่นก็จะทำอะไรเขาอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ ทั้งยังต้องให้ความเคารพเขาตามขนบและเชื่อฟังเขาอย่างไม่อาจโต้แย้ง

เขาเป็นอัครเสนาบดีของอาณาจักร ต่อไปจะยังมีใครกล้าทำให้เขาเสียเกียรติ จะยังมีใครกล้าฟ้องร้องให้ปลดเขาออกจากตำแหน่งอีก

เฉินเสียนลุกขึ้นและก้าวลงมาจากบัลลังก์ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าซูเจ๋อ เอ่ยเบาๆ ว่า “ท่านต้องการเป็นขุนนางผู้กุมอำนาจ ข้าจึงทำให้ท่านเป็นขุนนางผู้กุมอำนาจ ท่านต้องการทำสิ่งใด ข้าจะให้ท่านทำทุกอย่าง ตกลงหรือไม่”

ซูเจ๋อประสานมือคารวะ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงกรุณา กระหม่อมจะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังเป็นอันขาด”

กระหม่อม...

ต่อแต่นี้ไปเขาคือขุนนางของเธอ

ก่อนหน้านี้เฉินเสียนเคยพูดว่าเครื่องแบบขุนนางของซูเจ๋อดูดีมาก ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ด้วยเส้นแบ่งของจักรพรรดิและขุนนาง เธอจึงไม่อาจยื่นมือออกไปจัดอาภรณ์ให้เขาได้อย่างที่ใจปรารถนา

เมื่อมีการเข้าเฝ้าในราชสำนัก พวกเขาจะเอ่ยถึงเรื่องราวความรักไม่ได้อีกต่อไป

ในที่สุดเฉินเสียนก็เป็นฝ่ายหันและจากไปก่อน

วันนี้ซูเจ๋อกลายเป็นเสนาบดี เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่หยุดเข้าเฝ้าต่างไม่สบายใจ ข่าวจากในวังถูกส่งมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่คิดว่าในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ ฝ่าบาทไม่เพียงแต่ไม่รับสั่งปลดซูเจ๋อ แต่ยังเลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นถึงอัครเสนาบดีแห่งราชสำนัก

มีหรือที่เหล่าขุนนางเฒ่าผู้ริเริ่มให้หยุดเข้าเฝ้าจะไม่ตื่นตระหนกเพราะเรื่องนี้

พวกเขาไปรวมตัวกันที่เรือนของผู้เฒ่าเฮ่ออีกครั้ง เอ่ยอย่างคับแค้นใจว่า “ผู้เฒ่าเฮ่อนะผู้เฒ่าเฮ่อ ท่านทำได้ลงไปอย่างไร! ...ฮึ่ย! ท่านยอมปล่อยตำแหน่งอัครเสนาบดีไปง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไรกัน!”

ผู้เฒ่าเฮ่อกำหมัดและทุบลงบนฝ่ามืออีกข้างอย่างแรง เขาทอดถอนใจและบอกว่า “ข้าเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน! ฝ่าบาทไม่คำนึงถึงหลักประเพณี จะให้ข้าทนรออยู่ได้อย่างไร! ดูเหมือนต่อไปข้าจะต้องพักอยู่แต่ที่เรือนจริงๆ เสียแล้ว”

เหล่าขุนนางเฒ่าคิดอะไรไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่ ต่างหดหู่และท้อใจเป็นอย่างมาก

ผู้เฒ่าเฮ่อกล่าวอีกว่า “แล้วตอนนี้จะแก้ไขอย่างไรดี พวกท่านทุกคนยังคิดจะไปเข้าเฝ้าที่ราชสำนักต่อไปหรือไม่”

“นี่มันจะไม่ขัดกับความตั้งใจเดิมของพวกเราหรอกรึ จะให้เรายอมเลิกราได้อย่างไร! เดิมทีคิดว่าคราวนี้จะบีบให้ซูเจ๋อออกไปจากราชสำนักอย่างสมบูรณ์ แต่กลับทำให้เขากลายเป็นอัครเสนาบดีผู้กุมอำนาจเสียอย่างนั้น หากเขารวบอำนาจไว้เสร็จสรรพ ต้าฉู่จะตกอยู่ในอันตราย!”

ผู้เฒ่าเฮ่อใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยอย่างสงบว่า “ละเว้นการเข้าเฝ้ามาแล้วหลายวัน กิจของราชสำนักไม่มีใครดูแล ไม่ใช่ว่านั่นไม่เป็นผลดีต่อต้าฉู่หรอกหรือ แต่เดิมเหล่าเราควรมุ่งมั่นสร้างสิ่งที่จะนำต้าฉู่ไปสู่ความรุ่งเรือง ไม่ใช่การวิ่งไล่และปราบปรามคนเพียงผู้เดียว ถ้าพูดถึงการใช้อำนาจบาตรใหญ่ เหล่าเฒ่าชราอย่างเราเองก็ใช้อำนาจไม่ต่างกัน”

“ผู้เฒ่าเฮ่อ เหตุใดท่านจึงช่วยพูดแทนซูเจ๋อเช่นนี้” เหล่าขุนนางเฒ่าไม่เข้าใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี