สรุปเนื้อหา บทที่ 647 ท่านอ๋อง ฝ่าบาท ฝ่าบาทมาอีกแล้วเพคะ! – ข้าคือหงส์พันปี โดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว
บท บทที่ 647 ท่านอ๋อง ฝ่าบาท ฝ่าบาทมาอีกแล้วเพคะ! ของ ข้าคือหงส์พันปี ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉียน หราน จวิน เสี้ยว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เฉินเสียนไม่ได้พูดถึงสาเหตุที่เธอมา และจักรพรรดิเป่ยเซี่ยก็ไม่กล้าจะซักถามมากนัก เขาต้องการดูว่า เธอเป็นถึงองค์จักรพรรดิของอาณาจักรต้าฉู่ สามารถอยู่ในเมืองหลวงของเป่ยเซี่ยไปได้นานแค่ไหน
ในตอนแรกมีท่านอ๋องมู่เป็นเจ้าภาพ นำเฉินเสียนเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ ตัวเมือง
ต่อมา ท่านอ๋องมู่เห็นว่าจักรพรรดิเป่ยเซี่ยทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมาก และไม่ต้องการเกิดความขุ่นเคืองใด ๆ กับจักรพรรดิเป่ยเซี่ย ดังนั้นจึงปล่อยให้องค์หญิงจาวหยางพระราชธิดาของพระองค์เป็นคนนำเฉินเสียนเดินเที่ยวรอบ ๆ
เมื่อเฉินเสียนออกไป ฉินหรูเหลียงและองครักษ์จะติดตามข้างกายเธอเสมอ เมื่อเธอพบกับองค์หญิงจาวหยางเป็นครั้งแรก เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่ฉินหรูเหลียงที่อยู่เบื้องหลังเฉินเสียนจากนั้นมองไปที่เฉินเสียนอย่างระมัดระวังและกล่าวว่า "องค์จักรพรรดินีเป็นท่านเองหรือที่จะแย่งพี่ชายของข้าไป?"
"ท่านคิดว่าไม่เหมือนหรือ?"
องค์หญิงจาวหยางแทบไม่อยากจะเชื่อและกล่าวว่า "ข้าแค่คิดว่าไม่น่าเป็นไรได้"
ท่านอ๋องจะอภิเษกสมรสแต่กลับมีคนมาแย่งเจ้าบ่าวไป ผู้หญิงที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ ต้องเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริง ๆ แต่ผู้หญิงที่มาแย่งเจ้าบ่าวไปกลับไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่เป็นถึงองค์จักรพรรดินีของอาณาจักรอื่น ผู้หญิงที่เป็นกษัตริย์ สำหรับองค์หญิงจาวหยางแล้วเธอรู้สึกแปลกประหลาดมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปเพียงครึ่งวัน ไม่ต้องการให้องค์หญิงจาวหยางคุ้นเคยกับเฉินเสียน
องค์หญิงจาวหยางดูเหมือนจะชอบฉินหรูเหลียงเป็นพิเศษ และกล่าวกับเฉินเสียนว่า "ฝ่าบาท เขาเป็นใครกันหรือเพคะ?"
เฉินเสียนกล่าว "เขาเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ของต้าฉู่"
องค์หญิงจาวหยางถาม "ผู้ชายที่ต้าฉู่ดูหล่อเหลาเหมือนเขาทั้งหมดหรือเปล่าเพคะ?" ยิ่งเธอมองเธอก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตา และเธอก็พูดคุยกับเฉินเสียน "อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปที่ร้านเครื่องประดับ ไม่อย่างงั้น หม่อมฉันพาฝ่าบาทเสด็จไปที่จวนท่านอ๋องรุ่ยก่อน แล้วหม่อมฉันค่อยไปเดินเล่นเองดีไหมเพคะ"
เฉินเสียนหรี่ตาของเธอและกล่าวว่า "องค์หญิงช่างมีน้ำใจเสียจริง ช่างถูกใจข้าจริง ๆ"
องค์หญิงจาวหยางกล่าว "เรื่องเล็กน้อยเพคะ เพื่อความสะดวกของฝ่าบาทและเพื่อความสะดวกของหม่อมฉันด้วยเพคะ"
เมื่อมาถึงจวนท่านอ๋องรุ่ย ทหารยามทำการคุ้มกันแน่นหนากว่าแต่ก่อน ไม่บอกก็รู้ จกัรพรรดิเป่ยเซี่ยทำเพื่อป้องกันเฉินเสียน หากเฉินเสียนแค่คนเดียว คงไม่มีทางที่จะเข้าไปจากที่นี่อย่างเปิดเผย และท่านอ๋องมู่ก็ไม่กล้าที่จะช่วยเหลืออย่างโจ่งแจ้ง สำหรับองค์หญิงจาวหยางนั้น เธอมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้น และเธอก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของ ท่านอ๋องรุ่ย ที่มีอิสระในการเข้าและออกจวนท่านอ๋องรุ่ย
จึงเหมาะสมเป็นอย่างมากที่มีเธอเป็นคนนำเฉินเสียนเข้าไปในจวนท่านอ๋อง
หลังจากเข้าไปในจวน องค์หญิงจาวหยางและพ่อบ้านที่จวนท่านอ๋องกล่าวอย่างจริงจัง "พระองค์คือองค์จักรพรรดิของอาณาจักรต้าฉู่ เดินทางมาแสนไกล และพระองค์เป็นอาคันตุกะของเป่ยเซี่ย ตอนนี้องค์จักรพรรดิต้องการเข้าไปเดินเล่นรอบสวนและภูมิทัศน์ของจวนท่านอ๋องของเป่ยเซี่ย พวกเจ้าต้องคอยต้อนรับอย่างดี อย่าทำให้มีอะไรผิดพลาด"
พ่อบ้านจวนท่านอ๋องตอบรับอย่างระมัดระวัง
เฉินเสียนเลิกคิ้วขึ้นและกล่าวอย่างจริงจังว่า "องค์หญิงไม่ได้จะไปร้านเครื่องประดับหรอกหรือ ฉินหรูเหลียง ท่านพาองค์หญิงออกไปเดินเล่น คุ้มกันความปลอดภัยให้กับองค์หญิงนะ"
องค์หญิงจาวหยางเดินอย่างช้า ๆ ด้วยการเอามือไพล่หลัง และกระซิบอย่างสนุกสนานกับเฉินเสียน "ฝ่าบาทแน่มากเลยเพคะ เยี่ยมเพคะ!"
เฉินเสียนกล่าว "เพื่อความสะดวกของท่าน และเพื่อความสะดวกของข้า"
ฉินหรูเหลียงเม้มริมฝีปาก เผยให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาและหล่อเหลา
องค์หญิงจาวหยางเดินมาใกล้ ๆ เขา และกล่าวว่า "จักรพรรดิของท่านบอกให้ท่านคุ้มครองความปลอดภัยให้กับข้า งั้นข้าไม่เกรงใจละนะ เราไปกันเถอะ"
และฉินหรูเหลียงก็ถูกเฉินเสียนจับคู่ แต่ไม่มีทางปฏิเสธคำสั่งของจักรพรรดิได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาองค์หญิงจาวหยางออกจากจวนอย่างเย็นชา
ครั้งก่อนเจ้าสาวยังไม่ได้ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับท่านอ๋องรุ่ย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเข้าห้องหอ ถึงแม้คนในจวนต่างให้ความเคารพและให้เกียรติเธอ และยังเรียกเธอว่าว่าที่พระชายา แต่เธอก็ยังไม่ถือว่าเป็นพระชายาของท่านอ๋องรุ่ยโดยชอบธรรม ก็ต้องถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง เธอพักอยู่ที่เรือนด้านข้างเรือนหลักมาแล้วหลายวัน และเธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่หนทางที่จะไปต่อ
ซูเจ๋อยิ้มและไม่ได้คิดอะไร
หลานเอ๋อร์ไม่เคยคาดคิดว่าคนที่มาแย่งท่านอ๋องตั้งแต่แรกนั้นคือกษัตริย์
เมื่อเฉินเสียนก้าวเข้าไปในลานบ้าน ภาพที่เห็นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ตรงกลางลานมีสระน้ำหินซึ่งมีปลาคาร์พสีสดใสว่ายอยู่อย่างสบายใจ
เฉินเสียนยืนอยู่หน้าภูเขาจำลอง และเล่นกับปลาคาร์พ สาวใช้ในเรือนยืนตรงอยู่ที่ใต้ระเบียง ไม่กล้าที่จะดูหมิ่นเธอ แต่ก็มีการป้องกันอยู่บ้างด้วยความไม่คุ้นเคย
"ท่านอ๋องของพวกเจ้าล่ะ?" เฉินเสียนถาม
หลานเอ๋อร์ตอบอย่างระมัดระวัง "ตอนนี้ท่านอ๋องนอนพักผ่อนอยู่เพคะ ท่านอ๋องไม่ต้องการรับแขกเพคะ"
ซูเจ๋ออยู่ในห้องในเวลานี้ มีหนังสืออยู่ในมือของเขา ได้ยินเสียงของเฉินเสียนจากข้างนอก สายตาของเขาอยู่ระหว่างบรรทัดในหนังสือ และเขาไม่ได้พลิกหน้าหนังสือเลยสักพัก
เฉินเสียนไม่ได้ใจร้อน ราวกับว่าเธอมาคุยกับสาวใช้แล้วถามว่า "วันนี้เขานอนไปแล้วกี่ชั่วโมงหรือ?"
หลานเอ๋อร์ตอบอย่างไม่คิดอะไร "ตอนกลางคืนนอนแปดชั่วโมง ตอนกลางวันงีบหลับเมื่อเหนื่อยในระหว่างวันเพคะ"
เฉินเสียนพยักหน้าและกล่าวว่า "งั้นก็ดี ถือว่ายังมีการพักฟื้นร่างกายอยู่" เมื่อก่อนตอนที่เขาทำงานทั้งวันทั้งคืนอยู่ที่ต้าฉู่ เฉินเสียนได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเขามีเวลาพักเพียงสองชั่วโมงต่อคืนเท่านั้น
หลานเอ๋อร์กะพริบตา รู้สึกถึงความโดดเดี่ยวเล็กน้อยจากน้ำเสียงที่สงบของเธอ
เฉินเสียนยังถามอีกว่า "เรื่องอาหารการกินของเขาล่ะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...