ซูเจ๋อไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดจากพันธนาการได้ กดเธอลงกลับไปอีกครั้ง แล้วดึงเธอเข้าไปกอดในอ้อมแขนอย่างแน่น กระซิบที่ข้างหูของเธอว่า “มันเป็นเหยื่อขนาดใหญ่ที่ข้าจะเลี้ยงมันเอาไว้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้มันข้าจะนำไปแลกกับสิ่งที่ข้าต้องการ”
เฉินเสียนพยายามต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“อาเสียน”
เสียงพูดที่อ่อนนุ่ม ทำให้เธอสูญเสียแรงที่กำลังต่อสู้
ซูเจ่อเอ่ยว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ข้าต้องการมากที่สุดสิ่งใด?”
“คือท่าน” ซูเจ๋อใช้มือข้างหนึ่งจับไปที่เอวของเธอ มืออีกข้างก็ประคองเข้าที่ศรีษะของเธอ แล้วก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากเธออย่างดุเดือดในอ้อมแขนของเขา
เมื่อตอนที่ลมหายใจของซูเจ๋อเข้ามาปกคลุมตัวเธอ เธอก็รู้สึกหายใจไม่ออก ไม่ใช่ว่าจะพูดคุยกันดีๆหรือ เพิ่งจะได้พูดคุยกันไม่กี่คำ ก็กลับมาเป็นเช่นนี้อีกแล้ว!
เฉินเสียนตัวสั่นเทาไปทั้งตัวและพยายามร้องตะโกนออกมา เธอยังคงกัดฟันแน่น มือทั้งสองข้างที่อยู่บนทรวงอกของซูเจ๋อนั้นไม่ว่าจะผลักดันหรือจะทุบตีเขาอย่างไร เขาก็ไม่ยอมที่จะปล่อยเธอออกไปแต่เขากลับเดินหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นไปอีก
แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะทุบตีเขาอย่างแรงๆ เธอถูกจูบจนเธอรู้สึกว่าสมองเลอะเลือน แรงที่ทุบตีไหล่ของเขาก็ค่อยๆช้าลงและหมดเรี่ยวแรงลงไป
เขาจู่โจมเธอเป็นเวลานาน จึงทำให้ริมฝีปากของเฉินเสียนที่ถูกเขาจูบนั้นรับรู้ได้ถึงอาการชา เธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นดังจนมาถึงลำคอ เต้นเร็วแรงเหมือนกำลังจะหลุดออกมาให้ได้
เฉินเสียนกะพริบตาลง ทำให้หางตามีน้ำตาใสหยดลงมา ราวกับน้ำค้างที่จับตัวรวมกันในยามค่ำคืน
ซูเจ๋อจูบพลิกไปพลิกมาบนริมฝีปากของเธอ เสียงครางต่ำในลำคอที่ทำให้คนเคลิบเคลิ้มอย่างหลงไหลเป็นแรงดึงดูดที่มีเสน่ห์อย่างไม่รู้จบ เขาเกลี่ยกล่อมเธอว่า “เปิดปากออก”
เฉินเสียนเม้มปากแน่น ไม่ยินยอมที่จะเปิดปาก
ซูเจ๋อจ้องมองเธออย่างแผ่วเบา แต่เขาก็พูดโน้มน้าวเธอว่า “ท่านไม่ยินยอมก็ช่างเถิด เมื่อครู่พูดกันถึงไหนแล้ว พวกเรามาพูดคุยกันต่อดีหรือไม่”
เฉินเสียนหายใจอย่างกระสับกระส่าย ผลักไปที่ซูเจ๋อพร้อมกับพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “เช่นนั้นท่านก็ปล่อยข้าก่อน……”
แต่ทว่ายังไม่ทันจะพูดจบประโยค คราวนี้ซูเจ๋อก็ได้ฉวยโอกาสช่วงเวลาที่เธออ้าปากพูด ก้มลงไปประกบริมฝีปากเธอเอาไว้ จูบอย่างดื่มด่ำเข้าไปในปากของเธอเพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสที่จะถอยได้
“ไม่ใช่ว่าจะพูดคุยกันดีๆ……หรือ……ท่านมันคนเลว……”เฉินเสียนถูกเขากดให้แนบไปชิดกับกำแพง เขาพัวพันจูบกับเธออย่างหิวกระหาย
สิบนิ้วของทั้งสองมือเธอถูกซูเจ๋อพันธนาการโดยกดแนบชิดไปกับกำแพงอีกครั้ง เฉินเสียนรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเธอนั้นราวกับเป็นหมาป่าที่สามารถจะกลืนเธอไปได้ในเพียงคำคำเดียว
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันดูสับสนไปหมด จิตใจเธอนั้นก็สับสน แม้แต่ปฏิกิริยาร่างกายที่ตอบสนองเขาก็ดูสับสนวุ่นวาย
อันที่จริงแล้วมันก็นานมากแล้ว ที่เขาไม่ได้สัมผัสกับจูบของตัวเองแบบนี้……
เฉินเสียนทั้งโกรธทั้งร้อนใจ จึงเอ่ยออกมาว่า “ท่านปล่อยข้านะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปข้าจะกัดท่านแล้วนะ……”
แม้เธอจะพูดคำข่มขู่ออกมาแต่ก็เป็นการข่มขู่ที่ไร้อานุภาพ อย่าว่าแต่คนธรรมดาทั่วไปจะหวาดกลัวเลย หมาป่าที่อยู่ด้านหน้าเธอจะไปกลัวได้อย่างไร
ซูเจ๋อตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “กัดสิ ขอเพียงแค่เป็นสิ่งที่ท่านชอบ” ถึงอย่างไรเขาก็ได้จูบเธอตามที่เขาปรารถนาเอาไว้แล้ว
แต่ในท้ายที่สุด เฉินเสียนก็ไม่ได้กัดเขาอย่างโหดร้ายอะไรเช่นนั้น
เมื่อตอนที่ลิ้นของซูเจ๋อได้สัมผัสกับลิ้นของเธอ เธอก็รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองไว้ได้แล้ว จึงร้องครางออกมาจากลำคอเบาๆ เวลานั้นซูเจ๋อก็รู้ได้ถึงปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกายของเธอที่ซื่อสัตย์มากกว่าคำพูดที่เธอพูดออกมาเสียอีก มันช่างน่าวิเศษอย่างยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...