ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 743

ขณะที่ท่านอ๋องมู่และฉินหรูเหลียงรออยู่ ณ ห้องโถงชั่วประเดี๋ยวเดียวก็เห็นจาวหยางเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อได้เห็นว่าจาวหยางนั้นปลอดภัยดีไม่ได้เป็นอะไร ท่านอ๋องมู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรู้สึกดีใจจนน้ำตาซึมก็หันไปขอบคุณกับฉินหรูเหลียง

ท่านอ๋องมู่พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า การมาในครั้งนี้คือเพื่อที่จะพาจาวหยางกลับไปแต่งงาน วันแต่งงานของเธอและคู่หมั้นได้กำหนดไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว

ท่านอ๋องมู่เกรงว่าจะมีอันตรายต่อจาวหยางอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เขาจึงไม่ได้ถามเธอตรงๆว่าเธอโดนรังแกหรือไม่ แต่สำหรับท่านอ๋องมู่นั้นขอเพียงได้เห็นลูกสาวมีชีวิตที่ดีก็เพียงพอแล้ว สำหรับเรื่องอื่นๆนั้นก็คงต้องรอให้เธอได้กลับไปถึงเมืองหลวงก่อนแล้วค่อยให้แม่ของเธอค่อยๆอบรมสั่งสอนอีกที

เมื่อไม่ได้สนว่าเธอจะถูกรังแกหรือไม่ ท่านอ๋องมู่ก็ตั้งใจเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องปกป้องดูแลเธอให้เป็นอย่างดี นั่นก็คือให้นางได้แต่งงาน แล้วต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครสามารถมารังแกนางได้อีก

แต่จาวหยางเมื่อได้ยินว่าพรุ่งนี้จะเดินกลับเมืองหลวง เธอก็รีบปฏิเสธขึ้นมาทันทีว่า“ข้าไม่กลับ ข้าไม่อยากแต่งงานเพคะ”

ท่านอ๋องมู่พูดเสียงสั่นว่า “การแต่งงานนั้นเป็นเรื่องใหญ่ นั่นเป็นคำสั่งที่พ่อแม่กับบอกกับแม่สื่อเอาไว้แล้ว เจ้ายังจะมาทำเล่นตัวอะไรอีก?”

จาวหยางเงยหน้าไปมองฉินหรูเหลียงอย่างกังวลใจ ฉินหรูเหลียงนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะช่วยเธอพูดอธิบายเลย เธอจึงกัดฟันชี้นิ้วไปทางเขา แล้วพูดขึ้นว่า“ข้าก็ไม่ใช่จะไม่แต่งงาน แต่ถ้าข้าจะแต่งก็ต้องแต่งกับเขา!”

เมื่อคำพูดนั้นออกมา ทำให้ฉินหรูเหลียงและท่านอ๋องมู่ต่างตกตะลึง

ท่านอ๋องมู่ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วจึงพูดขึ้นว่า“เจ้าพูดอะไรเหลวไหล?แม่ทัพฉินได้หมั้นหมายกับจาวเหอเอาไว้แล้ว เจ้าจะเล่นแง่อะไรในเวลานี้อีก?!แล้วยังไม่รีบไปเก็บข้าวของกลับไปกับข้าอีกรึ! ”

จาวหยางจึงเดินไปอยู่ข้างกายของฉินหรูเหลียง เธอก้มหน้ามองลงไปที่เขา ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา แต่รอยยิ้มนั่นกลับแอบแฝงมีเล่ห์นัยอยู่มากมาย เธอกล่าวขึ้นว่า“ข้าไม่สนว่าเขาจะหมั้นหมายกับใคร ใครใช้ให้เขามีความสัมพันธ์ทางกายกับข้ากันล่ะ ข้ากับเขานอนค้างคืนด้วยกันแล้ว ข้าคือผู้หญิงของเขา”

ท่านอ๋องมู่ตื่นตกใจ“เจ้าว่าอะไรนะ?!”

ฉินหรูเหลียงมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขามีความหวังดีที่ช่วยเธอกลับมา แต่เธอกลับละเลยความจริงแล้วพูดออกมาอย่างไร้สาระโดยไม่รู้ผิดชอบชั่วดี!เธอไม่สนเกี่ยวกับชื่อเสียงเกียรติยศของเธอก็ว่าช่างแล้ว แต่ตอนนี้ยังกลับมาลากเขาให้เข้าไปฉีกหน้าอีก!

แววตาของฉินหรูเหลียงนั้นเย็นชา เมื่อกำลังจะอ้าปากพูด จู่ๆจาวหยางก็ก้มตัวลงไปกอดเขาไว้ทันที เขาพยายามจะดันตัวเองออก แต่เขาก็ยินเสียงสั่นที่ข้างหูว่า“ข้าขอร้องท่านล่ะ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากแต่งงานกับคนอื่น”

ฉินหรูเหลียงเม้มปากแล้วเอ่ยว่า“ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“ท่านอยากจะแต่งงานกับจาวเหอจริงๆหรือ นางก็ไม่ได้อยากแต่งงานออกไปไกลบ้านขนาดนั้น จะไม่ดีกว่าหรือถ้าเราทั้งสองคนร่วมมือกันแสดงละครฉากหนึ่งขึ้นมา รอเมื่อหลังจากงานแต่งงานจบลง ข้ากับท่านก็ต่างคนต่างอยู่อย่างอิสระ แล้วไม่มีที่อะไรเกี่ยวข้องกัน ท่านคิดว่าอย่างไร ?”

มือของฉินหรูเหลียงค่อยๆลูบคลำไปที่เอวของเธอ เขาต้องการที่จะผลักเธอออกหรือต้องการที่จะโอบกอดเธอเอาไว้ ทั้งหมดนั่นก็อยู่ที่ความคิดของเขาแล้ว

ท่านอ๋องมู่ตื่นตระหนกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เหมือนกับในตอนนั้นที่ซูเจ๋อจูบดื่มด่ำกับเฉินเสียนในท้องพระโรงและจักรพรรดิเป่ยเซี่ยเองก็ไม่สามารถที่ตอบโต้อะไรได้

เรื่องนี้สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจของเขาอย่างมาก

จาวหยางกลัวว่าฉินหรูเหลียงจะไม่ยอมช่วยเธอ หรือไม่ก็กลัวว่ามือที่อยู่ที่เอวนั้นจะผลักเธอออกไปจากตัวเขา ดังนั้นเธอจึงโอบกอดไปที่คอของฉินหรูเหลียงเอาไว้อย่างแน่น

จาวหยางรีบพูดขึ้นอีกว่า “ท่านวางใจได้!ข้าจะไม่คิดอะไรเกินจริงกับการแสดงละครจอมปลอมนี้!เพียงแค่เมื่อข้าได้รับอิสระ ข้าก็จะรีบออกไปให้พ้นสายตาของท่าน!และต่อจากนี้ไปท่านจะแต่งงานกับใคร ข้าก็ไม่เข้าไปยุ่ง!ข้ารู้ ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้อยากจะแต่งงานกับจาวเหอ……ข้ารู้ ข้ารู้ว่าท่านมีคนในใจของท่านอยู่แล้ว……”

เธอซุกศรีษะไปในซอกคอของเขา พูดอย่างเบาๆด้วยน้ำตาซึมว่า“เมื่อสองปีที่แล้วท่านมักจะดื่มเหล้าจนเมาอยู่เป็นประจำ ตอนที่ข้าไปส่งท่านกลับจวน ข้าก็จะได้ยินท่านเรียกแต่ชื่อของจักรพรรดิแห่งต้าฉู่……ข้ารู้ว่าท่านชอบเธอ ท่านเห็นแก่เมื่อก่อนที่ข้าไปส่งท่านกลับจวนอยู่เป็นประจำแล้วช่วยข้าสักครั้งได้หรือไม่……”

เมื่อเธอพูดคำเหล่านั้นออกมา เธอก็รู้สึกได้ว่าเอวของตัวเองนั้นถูกกอดแน่นด้วยกำลังแรงที่ใจเย็น ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยอย่างที่สุด

ที่แท้ความรู้สึกที่ถูกคนอย่างเขากอด มันเป็นความรู้สึกเช่นนี้นี่เอง

เธอแอบหลั่งน้ำตาในตอนที่ฉินหรูเหลียงมองไม่เห็น น้ำตาอันอบอุ่นได้หยดลงมาแต่ก็กลับหายไปบนเสื้อของฉินหรูเหลียง

เขามีสีหน้าที่อึมครึมยากที่จะพูดออกมา แต่ในท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนที่โอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ไม่ได้ผลักเธอออกไป

เมื่อท่านอ๋องมู่มีสติกลับมา จึงถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจว่า“แม่ทัพฉิน ท่านจะว่าอย่างไร?”

ฉินหรูเหลียงเงยหน้าไปมองที่ท่านอ๋องมู่ แววตาที่เปิดเผยอย่างเที่ยงตรง เอ่ยขึ้นว่า“ข้าได้มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอแล้วจริงๆ ท่านอ๋องยังจะให้เธอไปแต่งงานกับคนอื่นได้อย่างไรหรือ ?”

ท่านอ๋องมู่ “……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี