“โทษทีนะ นายไม่คู่ควรจะรู้ว่าฉันคือใคร” ฟางหลันหลันกลอกตาบนใส่หยวนห้าว “ไป เราไปเลือกหินกันเถอะ”
มือของหยวนห้าวค้างอยู่กลางอากาศอย่างน่าขายหน้าเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อเห็นฟางหลันหลันกอดแขนของเจียวเฉิงไว้อย่างสนิทสนม ในใจก็ยิ่งรู้สึกอิจฉาริษยา แม่งเอ้ย ผู้หญิงดีๆถูกผู้ชายห่วยแตกทำเสียของหมด
เจียงเฉิงเองก็รู้สึกจนใจ เด็กคนนี้เล่นละครเก่งชะมัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแฟนเขาจริงๆยังไงอย่างงั้น
“เป็นไง? ฉันช่วยรักษาหน้านายแล้วใช่ไหมล่ะ?” ฟางหลันหลันเอ่ยเสียงเบา
“ก็โอเค” เจียงเฉิงพูดเสียงเรียบ
“ชิ!”
ฟางหลันหลันเห็นท่าทางเย็นชาของเจียงเฉิงก็แค่นเสียงเย็น
“อย่าเพิ่งไปสิครับ” หยวนห้าวรีบพูด
“คุณทำอะไรน่ะ? ฉันยังอยู่นี่นะ” เจี่ยงหยุนเห็นท่าทางลุ่มหลงของหยวนห้าวก็รีบดึงเขาไว้
หยวนห้าวมองเจี่ยงหยุนแวบหนึ่งอย่างรังเกียจ แล้วหันไปพูดกับฟางหลันหลันว่า “คนสวย คนเลิศเลอแบบคุณอยู่กับสวะแบบนี้ดูเสียรสนิยมไปนิดหนึ่งจริงๆนะครับ”
ฟางหลันหลันไม่สนใจคำพูดของหยวนห้าวเลยสักนิด ส่วนเจียงเฉิงก็ก้มเอาหินที่หน้าตาดูไม่ค่อยดี ทว่ากลับมีประกายแสงสีเขียวแวววาวที่เขาเห็นเมื่อกี้นี้ขึ้นมา
“ก้อนหินขยะแบบนี้ยังจะแสร้งเก๊กดูอีกงั้นเหรอ? นายรู้ไหมว่าอะไรคือพนันหยก?” หยวนห้าวพูดระคนยิ้มเย็น
หยวนห้าวเองก็คลุกคลีอยู่ในวงการพนันหยกมานาน เขาก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ว่าหินหยกที่วางเรียงรายบนแผงลอยข้างนอกแบบนี้ ร้อยละเก้าสิบเก้าล้วนเป็นขยะที่หลอกคนทั้งนั้น มีเพียงหินหยกที่ประมูลขายในเคาน์เตอร์ด้านใน จึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเจอหยกเนื้อดี
“หินหยกก้อนนี้ราคาเท่าไหร่?” เจียงเฉิงถามเจ้าของแผงลอย
“สองหมื่น!”
“ตกลง!”
เจียงเฉิงตกลงซื้อทันทีอย่างไม่ลังเล
“นายบ้าไปแล้วเหรอ? หินหยกก้อนนี้ฉันยังรู้สึกว่าไม่ดี นายยังจะกล้าซื้อสองหมื่นอีกเหรอ?” ฟางหลันหลันมองเจียงเฉิงอย่างตกตะลึง
เดิมทีเจ้าของแผงลอยก็เสนอราคาขายไปงั้นโดยไม่ได้คิดอะไร โดยปกติแล้วคนทั่วไปก็จะต่อราคา เหมือนอย่างหินหยกหน้าตาแบบนี้ แค่กี่ร้อยหยวนยังแทบจะขายไม่ออก แต่พ่อหนุ่มที่ยอมจ่ายสองหมื่นคนนี้กลับไม่ต่อราคาเลยด้วยซ้ำ
“ได้ ๆ ๆ ตกลง” เจ้าของแผงลอยกลัวเจียงเฉิงกลับคำพูด พลันรีบตอบตกลง เพราะสำหรับเขาแล้ว คนโง่แบบนี้ไม่ได้พบเห็นบ่อยๆหรอกนะ
“สมองไม่เต็มบาท!”
หยวนห้าวสบถด่าเสียงเย็น แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ด้านในที่อยู่ข้างหลัง
“นายพนันหยกไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ก็ยังต้องดูฉันเป็นตัวอย่าง” ฟางหลันหลันมองเจียงเฉิงแล้วส่ายหัวอย่างจนใจ ก่อนจะพาเจียงเฉิงเข้าไปที่เคาน์เตอร์เช่นกัน
ณ ตอนนี้ ชั้นโชว์บนเคาน์เตอร์มีก้อนหยกดิบวางเอาไว้ หน้าตาดูดีมากๆ ลวดลายบนผิวชัดเจน สีเขียวชอุ่ม ดูก็รู้ว่าเป็นหยกดิบชั้นดี
“ทุกท่าน นี่คือหยกดิบชั้นดีชิ้นสำคัญของเจ้านายเรา ราคาประมูลเริ่มต้นสามแสน ทุกครั้งจะเพิ่มราคาได้ต่ำสุดหนึ่งหมื่น คนที่เสนอราคาสูงสุดจะได้หยกดิบก้อนนี้ไป” ผู้หญิงที่สวมชุดกี่เพ้าคนหนึ่งพูดยิ้มๆอยู่หน้าเคาน์เตอร์
“ดูจากความวาวนี่ เป็นไปได้มากเลยนะว่าจะได้เจอหยกเขียว”
“ใช่แล้ว ลวดลายชัดเจนขนาดนี้ ต้องเป็นหยกชั้นเลิศแน่ ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง