ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 109

ช่างตัดหินหยกมองหินที่เจียงเฉิงวางลง สายตาพลันเผยแววเหยียดหยามแวบหนึ่ง

“น้องชาย ก้อนหินกากๆแบบนี้ ยังมีความจำเป็นต้องตัดอีกเหรอ?” เดิมทีช่างตัดหินหยกก็หงุดหงิดกับหยวนห้าวมากพอแล้ว ตอนนี้ยังต้องมาตัดก้อนหินกากๆแบบนี้อีก แน่นอนว่าย่อมต้องรู้สึกไม่เต็มใจอยู่แล้ว

“ต้องสมองไม่เต็มบาทขนาดไหน ถึงได้ซื้อก้อนหินที่มีค่าไม่ถึงร้อยด้วยราคาสองหมื่น นี่ฝันอยู่เหรอว่าจะเจอหยกน่ะ?” หยวนห้าวเห็นดังนั้น ก็อดประชดประชันไม่ได้

ก่อนหน้านี้เขาก็ขายหน้ามากพอแล้ว เสียเงินเก้าล้านซื้อก้อนหินกากๆไปฟรีๆ ครั้งนี้เขาเองก็จะเหน็บแนมเจียงเฉิงสักหน่อย ให้เจียงเฉิงอับอายขายขี้หน้า

“ล้อเล่นหรือเปล่า? จ่ายสองหมื่นซื้อก้อนหินกากๆแบบนี้เนี่ยนะ? เดาว่าถึงโยนทิ้งไว้ข้างทางก็คงไม่มีใครเก็บหรอกนะ?”

“นั่นสิ ของอย่างพนันหยก แม้ภายนอกดูดีก็ใช่ว่าจะเจอหยกข้างใน แต่ถ้าภายนอกดูไม่ดี ก็ไม่มีทางเจอหยกแน่ ๆ”

คนรอบข้างต่างมองเจียงเฉิงด้วยสายตาที่เหมือนกำลังมองคนปัญญาอ่อน เพราะคนเหล่านี้เองก็เป็นมือเก่าที่คลุกคลีอยู่ในวงการมานาน แน่นอนว่าเรื่องแค่นี้ก็ย่องต้องมองออกอยู่แล้ว

“นี่ อย่าลากฉันมาขายขี้หน้ากับนายนะ” ฟางหลันหลันยื่นมือไปดึงแขนของเจียงเฉิง ถูกคนอื่นว่าจนแม้แต่เธอยังรู้สึกอับอาย

“ไม่เป็นไร เธอรอดูเรื่องสนุกก็พอ” เจียงเฉิงมองฟางหลันหลันแล้วยิ้ม ฟางหลันหลันจึงได้เพียงตอบตกลงอย่างด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

“ทั้งสองท่าน ผมเองก็ไม่ได้ให้พวกคุณช่วยฟรี ตัดหินหยกก้อนนี้ ผมให้ค่าตอบแทนสองเท่าของเงินเดือนพวกคุณ เป็นไง?” เจียงเฉิงเอ่ย

ช่างตัดหินหยกได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกว่าค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียว ดังนั้นจึงพยักหน้าตอบตกลง

“คุณอยากตัดยังไง?” ช่างตัดหินหยกถามเจียงเฉิง

“อันนี้ เลื่อยเอาดีกว่า” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเบา

“แม่เจ้า ทุกคนฟังดูสิ ก้อนหินกากๆแบบนี้ยังต้องเลื่อยอีก?” หยวนห้าวมองเจียงเฉิงและพูดด้วยสีหน้าดูถูก

“นั่นสิ ก้อนหินแบบนี้ไปแผงลอยไหนก็เจอได้เป็นกำ แม้แต่ลายน้ำก็ยังไม่มี มันจะไปเป็นหินหยกดีอะไรได้”

“เฮ้อ ก้อนหินกระจอกแบบนี้ยังเห็นเป็นลูกรัก เป็นคนที่ไม่เคยเปิดโลกมาก่อนจริงๆด้วย”

คนรอบข้างต่างเหน็บแนมและเย้ยหยันเจียงเฉิง หยวนห้าวเองก็ไม่เชื่อ แม้แต่หินหยกเก้าล้านของตัวเองยังตัดไม่เจอหยก ก้อนหินกระจอกแบบนี้จะตัดเจออะไรได้

เจ้าของแผงลอยที่ขายหินหยกให้เจียงเฉิงก่อนหน้านี้ก็มาร่วมวงดูด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะยังไง หินก้อนนี้เขาก็ขายให้คนโง่ไปสองหมื่นแล้ว ส่วนเขาก็กำไรเหนาะ ๆ

“ได้ เราจะเลื่อยให้ตามที่คุณพูด” แม้ช่างตัดหินหยกเองก็ไม่เห็นดีในหินก้อนนี้ ทว่ารับเงินทำงาน พวกเขาเองก็พูดอะไรมากไม่ได้

“หึ่ง ๆ......”

ใบเลื่อยเสียดสีไปตามขอบหินอย่างรวดเร็ว สายตาของทุกคนเองก็จดจ้องไปยังเครื่องตัดหินหยก

“ขาด......ขาดทุนบานตะไท” เจ้าของแผงลอยพึมพำ

“ลำบากทั้งสองท่านแล้ว ค่าจ้างผมจ่ายให้พวกคุณก่อนเถอะ” เจียงเฉิงพูดกับช่างตัดหินหยก

“น้องชาย ไม่ต้องแล้วล่ะ เราสองคนได้ตัดหยกที่ดีขนาดนี้ออกมา ก็ถือว่าเป็นเกียรติของเราแล้ว ค่าจ้างก็ช่างเถอะ” ช่างตัดหินหยกเอ่ยกับเจียงเฉิง

ก็จริง สำหรับช่างตัดหินหยกแล้ว สามารถตัดหยกที่ดีขนาดนี้ออกมาได้ ก็ถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ

หยวนห้าวเห็นหยกชั้นดีขนาดนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่ยุติธรรม เขาเสียเก้าล้านยังไม่ได้เห็นแม้แต่ตด เจ้าหมอนี่กลับเสียแค่สองหมื่นก็ได้หยกที่ดีขนาดนี้แล้ว

“หยกก้อนนี้ดูยังไงก็น่าจะต้องขายสิบล้านแล้วไหม?”

“นายรู้จักวงการนี้น้อยไปแล้ว หยกก้อนใหญ่ขนาดนี้ น้อยสุดก็ต้องยี่สิบล้านสิ”

“แต่ละคนไม่เข้าใจก็แสร้งทำเป็นเข้าใจ ของหายากย่อมมีราคาแพง หยกที่หายากขนาดนี้ เพียงแค่มีคนขาย เดาว่าขายห้าสิบล้านก็เป็นไปได้”

เดิมทีเจี่ยงหยุนยังดูแคลนเจียงเฉิง ตอนนี้ได้ยินว่าหินหยกที่เจียงเฉิงตัดสามารถขายได้ถึงหลักสิบล้าน งั้นก็แปลว่าเจ้าหมอนี่กลายเป็นเศรษฐีแล้วสิ?

เจี่ยงหยุนพลันรู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย เจียงเฉิงไม่เพียงแค่มีสาวสวยอยู่ข้างกาย ซ้ำยังรวยขนาดนี้อีกต่างหาก งั้นเธอสูญเสียไปมากเลยน่ะสิ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง