ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 110

“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย หยกก้อนนี้ เจ้านายเราอยากจะเก็บเอาไว้ประมูลขาย ราคาประมูลต้องสูงกว่าราคาที่คุณขายเองแน่นอน คุณว่ายังไงบ้างคะ?”

ทันทีที่พิธีกรสาวเห็นหยกก้อนนี้ เธอก็พลันรีบโทรหาเจ้านาย ดังนั้นเจ้านายจึงบอกว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องเก็บหยกก้อนนี้ไว้ให้ได้

“เอาสิ ยังไงซะ ของแบบนี้ผมเองก็ไม่ได้เล่นจริงจัง” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

พิธีกรสาวได้ยินดังนั้นก็รีบเซ็นสัญญากับเจียงเฉิง หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้น เจียงเฉิงกับฟางหลันหลันก็ออกไปจากที่นี่

เจี่ยงหยุนมองแผ่นหลังที่จากไปของเจียงเฉิง ในใจรู้สึกสับสน เหมือนมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก

“ดูไม่ออกเลย ว่านายจะเล่นพนันหยกเก่งขนาดนี้ด้วย นายนี่มันเก่งทุกอย่างจริงๆเลยนะ” ฟางหลันหลันมองเจียงเฉิงแล้วพูดกลั้วหัวเราะ

“แค่พอเข้าใจบ้าง”

เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

“ฮิฮิ ดูเหมือนว่าให้นายมาเป็นบอดี้การ์ดของฉันนี่เป็นความคิดที่ดีจริงๆเลย นายน่าสนใจกว่าพวกบอดี้การ์ดคนก่อนๆเยอะเลย” ฟางหลันหลันเอ่ยกับเจียงเฉิง

ฟางหลันหลันพึงพอใจในตัวเจียงเฉิงมากๆ ทว่าเจียงเฉิงกลับรู้สึกจนใจ รับใช้คุณหนูแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีฉันกลับบ้านล่ะ” เจียงเฉิงเอ่ย

“ไม่ได้ นายต้องไปเดินชอปปิงกับฉัน!”

“ฉันยังมีเรื่องต้องทำ” เจียงเฉิงเอ่ย

“ก็ได้ คลิปวิดีโอนั่นในมือถือฉันน่ะนะ”

“ไปกันเถอะ จะไปชอปปิงที่ไหน?” เจียงเฉิงหมดหนทางโดยสิ้นเชิง

“เดินไปถึงไหนก็ที่นั่นไง ฮิฮิ” ฟางหลันหลันกอดแขนของเจียงเฉิง ก้อนเนื้ออวบอิ่มกดทับแขนของเจียงเฉิงอย่างไร้ซึ่งความตระหนี่

ณ สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเมืองหลูหยาง

ตำรวจสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าผู้อำนวยการเจี่ยจุ้นชิง เธอตัวสูงผึ่งผาย ชุดตำรวจบนตัวขับเน้นทรวดทรงที่สมบูรณ์แบบของเธอให้ดูเด่นชัดมากยิ่งขึ้น เธอดูองอาจผ่าเผย สวยสะกดสายตา ผมสั้นประบ่ายิ่งทำให้เธอดูเท่และเฉียบแหลม

ตำรวจสาวคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือมู่หรงเสวี่ยที่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับเจียงเฉิงเมื่อก่อนหน้านี้นั่นเอง

“มู่หรงเสวี่ย ภารกิจในครั้งนี้คือบุคคลที่รับมือยาก ผู้ร้ายหลบหนีหมายจับระดับ A ลิสต์แฝงตัวเข้าในเมืองหลูหยางของเรา ในสำนักงานเรา ก็มีแค่เธอที่มีความสามารถแบบนี้ไปจับตัวมันได้” เจี่ยจุ้นชิงเอ่ยเสียงเบา

“ฆาตกรข่มขืนที่ใช้นามแฝงว่าผึ้งนักฆ่าสินะ?” มู่หรงเสวี่ยถามเสียงขรึม

เธอได้ยินข่าวของผึ้งนักฆ่านี่มานานแล้ว มันมักจะลงมือกับผู้หญิงตามไนต์คลับหรือบาร์ต่างๆตอนกลางคืน วิธีการฆ่านั้นโหดเหี้ยมอำมหิตมากๆ

“ใช่แล้ว ถ้าเธอรู้สึกว่ายาก ฉันสามารถให้คนอื่นมาจัดการได้” เจี่ยจุ้นชิงพูดกับมู่หรงเสวี่ย

“ให้ฉันจัดการเถอะ คนแบบนี้ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก” มู่หรงเสวี่ยเอ่ยเสียงเย็น

มู่หรงเสวี่ยเกลียดผู้ชายที่ย่ำยีผู้หญิงแบบนี้ที่สุดแล้ว ดังนั้นเธอจะไม่มีทางปล่อยผู้ร้ายแบบนี้ไปแน่ๆ

“ได้ งั้นก็ฝากเธอจัดการละกัน” เจี่ยจุ้นชิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “นี่คือข้อมูลของผู้ต้องหา”

เจี่ยจุ้นชิงไม่รู้สึกกังวลมู่หรงเสวี่ยเลยสักนิด แม้มู่หรงเสวี่ยจะมีฐานะสูงส่ง มาจากตระกูลเลื่องชื่อของเมืองหลวง ทว่าตั้งแต่เด็กเธอก็มีนิสัยชอบเอาชนะ และหมั่นฝึกศิลปะการต่อสู้มาโดยตลอด

ตั้งแต่อายุยังน้อยเธอก็คว้าแชมป์ศิลปะการต่อสู้มานับไม่ถ้วน ตอนที่อยู่ในกรมตำรวจก็เป็นแชมป์มวย ความสามารถในการสืบสวนระดับท๊อป นี่เป็นถึงตัวท๊อปของทีมเขาเชียวนะ

มู่หรงเสวี่ยรับเอกสารมา จากนั้นก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง แล้วอ่านข้อมูลของผึ้งนักฆ่าอย่างละเอียด

“ห่าวตง เพศชาย อายุสามสิบสองปี คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก่อนเคยเป็นทหารในกองกำลังพิเศษที่เอเชียใต้มาก่อน มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้มากๆ ช่วงที่เป็นทหารเคยทำร้ายครูฝึกการต่อสู้อยู่บ่อยครั้ง ถนัดการใช้ยาสลบ นิสัยเลือดเย็น ฉุนเฉียว เคยฆ่าผู้หญิงมาเจ็ดรายอย่างโหดเหี้ยม วิธีการฆ่าอำมหิตมากๆ”

เมื่ออ่านข้อมูลเหล่านี้จบ หัวคิ้วของมู่หรงเสวี่ยก็ขมวดเข้าหากัน ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่รับมือยากมากจริงๆ

หลังเลิกงาน มู่หรงเสวี่ยก็เปลี่ยนชุดธรรมดาแล้วเตรียมตัวกลับบ้าน ขณะที่ขับรถผ่านถนนที่มีคนพลุกพล่าน จู่ ๆมู่หรงเสวี่ยก็เห็นฝูงคนด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกล

มู่หรงเสวี่ยรีบจอดรถแล้วลงไปดูทันที เธอเบียดเข้าไปในฝูงคน ก่อนจะเห็นหญิงชราคนหนึ่งนอนสลบอยู่บนพื้น

“ฉันคือตำรวจ ทุกคนถอยไปซะ อย่ารบกวนผู้ป่วยหายใจ” มู่หรงเสวี่ยเห็นว่าอาการของหญิงชราฉุกเฉินวิกฤตมากๆ ก็รีบพูดทันที

คนรอบข้างเห็นว่าตำรวจมา ก็พลันหลีกทางให้มีพื้นที่ว่าง

“มีคนโทรเรียกรถพยาบาลหรือยัง?” มู่หรงเสวี่ยถาม

“มีคนโทรแล้ว” คนรอบข้างรีบตอบทันที

ลมหายใจของหญิงชรายิ่งอยู่ยิ่งอ่อนแรง ดูแล้วไม่น่าจะรอได้ถึงตอนที่รถพยาบาลมา มู่หรงเสวี่ยเผยสีหน้าร้อนรน เหมือนว่าจะต้องทำการผายปอดเท่านั้นแล้ว

มู่หรงเสวี่ยมีเวลาคิดไม่มาก พลันคุกเข่าลงบนพื้น ปลดกระดุมเสื้อของหญิงชราออก มือทั้งสองข้างวางทับบนหน้าอก เตรียมตัวทำการผายปอด

ในขณะที่มู่หรงเสวี่ยกำลังจะออกแรง น้ำเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยก็พลันดังลอดเข้ามาในหูเธอ “ถ้าเธออยากจะฆ่าคนไข้ งั้นก็ผายปอดได้เลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง