“คุณพูดอะไรนะ?”
เซี่ยยี่จิงมองเจียงเฉิงอย่างตกใจ แววตาของเธอแฝงไว้ด้วยความหวาดหวั่น
เพียงแต่ว่าเธอก็ควบคุมสติได้ในไม่ช้า แต่มันก็สามารถรอดพ้นสายตาของเจียงเฉิงไปได้
“ผมพูดว่า คุณถอดเสื้อผ้าของผมแล้ว ผมก็ต้องถอดเสื้อผ้าของคุณเช่นกัน” เจียงเฉิงมองไปที่เซี่ยยี่จิงแล้วก้าวเดินไปหนึ่งก้าว
“คุณกำลังพูดเล่นใช่มั้ย?”
เซี่ยยี่จิงก็รีบถอยหลังด้วยความระวัง
“คุณคิดว่าผมกำลังพูดเล่นอยู่เหรอ?” เจียงเฉิงประชิดเข้าไปหาเซี่ยยี่จิงอีกสองก้าว
เซี่ยยี่จิงมองออก เจียงเฉิงนั้นเอาจริง ไม่ได้จะพูดเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว เธอรีบถอยหลังอย่างหวาดหวั่น ร่างได้ไปชนเข้ากับโต๊ะแต่งหน้าโดยตรง ตอนนี้เธอก็ไม่มีทางที่จะถอยแล้ว
เจียงเฉิงในเวลานี้ไม่ได้พูดอีก เซี่ยยี่จิงก็ไม่พูด เพียงแต่เห็นได้ชัดเลยว่าลมหายใจของเธอเร็วขึ้น เธอไม่รู้ว่าเจียงเฉิงนั้นสังเกตเห็นอะไรบ้าง
“ฉันของเตือนคุณ หากคุณทำบ้าๆ ฉันจะฟ้องหลิงหลงอย่างแน่นอน” เซี่ยยี่จิงพูดอย่างประหม่า
“วางใจเถอะ ถ้าหากผมคิดจะทำอะไรคุณ ก็ต้องไม่มีทางให้เธอรู้อย่างแน่นอน”
เจียงเฉิงพลางพูด พลางยื่นมือไปวางอยู่บนลำคอที่ขาวระหงของเธอ แล้วลูบลงอย่างแผ่วเบา ราวกับว่าของเพียงเจียงเฉิงยินยอม มันก็จะลูบเข้าไปในหน้าอกที่อวบอิ่มที่อยู่ในคอเสื้อ
“พูดมาเถอะ คุณลองใจผมตั้งหลายครั้ง มีจุดประสงค์อะไร?”
ฝ่ามือของเจียงเฉิงมาหยุดอยู่ที่กระดุมเสื้อตรงหน้าอกของเซี่ยยี่จิงแล้ว เพราะว่ากระดุมสองเม็ดแรกไม่ได้ติดไว้ ดังนั้นเหมือนกับว่ามันได้วางอยู่กึ่งกลางของหน้าอกที่อวบอิ่ม
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร!”
เนื่องจากการที่เซี่ยยี่จิงหายใจระรัว ทำให้หน้าอกที่อวบอิ่มขึ้นลงเป็นจังหวะ หน้าอกที่ขาวราวกับหิมะ ก็สัมผัสโดนฝ่ามือของเจียงเฉิง
“งั้นเหรอ? ยังไม่ยอมรับอีก?”
เจียงเฉิงยิ้มอย่างเย็นชา ออกแรงที่ฝ่ามือ ใช้แรงกระชากจนกระดุมเสื้อของเซี่ยยี่จิงหลุดออก ทันใดนั้นก็เผยให้เห็นเนินออกสีขาวราวกับหิมะที่ซ่อนอยู่ในบรา และกระดูกไหปลาร้าที่สวยงาม
“ตั้งแต่เดินเข้ามาจากประตู คุณก็เจตนาแสดงเสน่ห์ของเธอออกมา รวมทั้งตอนที่แต่งหน้าให้ผม ยังจะให้ผมถอดเสื้อผ้าอีก ล้วนแล้วแต่กำลังสำรวจผม ลองใจผม ผมพูดถูกมั้ย?”
แม้ว่าเวลาที่เจียงเฉิงเผชิญหน้ากับสาวสวยจะมีอาการหวั่นไหวบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับจะสูญเสียสติไปทั้งหมด ดังนั้นถึงสังเกตเห็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนพวกนี้
เซี่ยยี่จิงที่ได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง ในใจก็ยิ่งหวาดหวั่น จริงอยู่ ตอนที่เธอรู้ว่าฮั่วหลิงหลง จะพาผู้ชายมาที่นี่นั้น ก็ได้เตรียมการลองใจแล้ว
เดิมคิดว่าไม่มีทางที่จะถูกจับได้ กลับคิดไม่ถึงว่าท่าทางของเธอกลับถูกมองทะลุทะลวงไปแล้ว
เซี่ยยี่จิงมองตาของเจียงเฉิงอย่างประหม่า มือของเจียงเฉิงอยู่ที่คอเสื้อของเธอ ขอเพียงเจียงเฉิงกระชาก เสื้อชั้นในที่อยู่บนหน้าอกของเธอก็คงไม่เหลือ อาจจะถูกเจียงเฉิงถอดจนหมด
“ฉันไม่สามารถบอกจุดประสงค์ได้ แต่ว่าฉันไม่มีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน” เซี่ยยี่จิงพูดขึ้นในทันที
“จริงเหรอ?”
เจียงเฉิงถาม
“จริงๆ” เซี่ยยี่จิงพูดอย่างจริงจัง
สายตาของเจียงเฉิงจ้องมองเซี่ยยี่จิงอย่างละเอียด ในที่สุดก็ปล่อยมือ ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของเธอจนหมด เพราะยัยอวบอึ๋มคนนี้ช่างยั่วยวนเหลือเกิน หากถอดจนหมด เขาก็คงจะห้ามใจไม่อยู่
“ได้ ผมจะเชื่อคุณ” เจียงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเบา จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าไปเปลี่ยนอีกด้านหนึ่ง
เซี่ยยี่จิงเห็นเจียงเฉิงยอมปล่อย จึงได้โล่งอก หากถูกถอดเสื้อผ้าออกไปหมดจริงๆ เธอนั้นคงอายมากอย่างแน่นอน
“ไม่เลว น้องชาย นายทำให้พี่สาวอย่างฉันตะลึงในความหล่อได้” ฮั่วหลิงหลงเดินเข้าไปควงแขงของเจียงเฉิงไว้
คืนนี้ฮั่วหลิงหลงสวมชุดราตรีสีม่วง เมื่อยืนเคียงข้างกับชุดสูทสีดำของเจียงเฉิง ทั้งสองคนไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ยิ่งดูเหมาะสมเข้าไปอีก
“เหมาะสมกันมาก” เซี่ยยี่จิงยิ้มแล้วพูด เธอนั้นคิดไม่ถึงเลย ตอนนี้ดูแล้วเหมือนผู้ชายที่สุขุมมาก เมื่อกี้ยังกระชากกระดุมของตัวเองอย่างหยาบคาย
เมื่อคิดถึงภาพนั้น สีหน้าของเซี่ยยี่จิงก็เขินอายแดงขึ้นมาทันที
“เป็นอะไร ทำไมหน้าถึงหน้าแดงล่ะ?” ฮั่วหลิงหลงมองเซี่ยยี่จิงแล้วถาม
“ไม่มีอะไร รู้สึกร้อนนิดหน่อย” เซี่ยยี่จิงยิ้มเจื่อนๆแล้วพูด
“วันนี้ขอบคุณเธอมาก วันหลังพี่จะเลี้ยงข้าวเธอนะ” ฮั่วหลิงหลงขณะที่พูดก็ได้ควงแขนของเจียงเฉิงออกไปจากที่นี่
เจียงเฉิงที่นั่งอยู่บนรถของฮั่วหลิงหลง อดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพก่อนหน้านั้น เซี่ยยี่จิงแม้จะน่าสงสัย แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายจริงๆ เพราะเจียงเฉิงนั้นแคร์ฮั่วหลิงหลิงจริงๆ ก็ไม่อยากให้คนที่น่าสงสัยอยู่ข้างกายฮั่วหลิง
บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องของสวี่ฉิง จึงอ่อนไหวเป็นพิเศษมั้ง อย่างไรก็ตาม รูปร่างที่อวบอึ๋มของเซี่ยยี่จิงนั้นไม่เลวจริงๆ
“พี่หลิงหลง วันนี้งานเลี้ยงที่เราจะไป เป็นงานเลี้ยงอะไรครับ?” เจียงเฉิงถาม
“ควรจะพูดว่า เป็นงานเลี้ยงของคนในครอบครัว” ฮั่วหลิงหลงพูดอย่างหยอกล้อ
“งานเลี้ยงของครอบครัว?”
“เรื่องนี้พูดแล้วมันก็ซับซ้อน แม้จะเป็นงานเลี้ยงในครอบครัวพี่ แต่ตระกูลใหญ่มากมายในเมืองหลูหยางต่างก็ได้รับเชิญให้มาร่วมงาน” ฮั่วหลิงหลงกล่าว
“แต่ดูพี่ไม่ค่อยจะดีใจ” เจียงเฉิงมองออก ฮั่วหลิงหลิงไม่เพียงแต่ไม่ดีใจ ในทางกลับกันแววตากลับมีความโกรธอยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง