ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 145

ภายใต้แสงจันทร์ ผมลอนสลวยยาวคลุมไหล่ ฮั่วหลิงหลงในตอนนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหล

โดยเฉพาะ ณ ตอนนี้ที่เธอกำลังนั่งคร่อมตัวเจียงเฉิงด้วยท่าที่คลุมเครือขนาดนี้ อีกทั้งนิ้วมือก็ยังลูบไล้เจียงเฉิง

“พี่หลิงหลง พี่ไม่ต้องทำแบบนี้” เจียงเฉิงกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง แล้วพูดอย่างยากลำบากเล็กน้อย

“ทำไม? หรือนายเองก็คิดว่าพี่สกปรกงั้นเหรอ?” ฮั่วหลิงหลงถามเสียงเบา

“ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น!”

เจียงเฉิงรีบเอ่ยว่า “ผมมีเมียแล้ว ผมทำเรื่องที่ผิดต่อเธอไม่ได้”

“ไม่เป็นไร พี่ไม่ต้องการให้นายรับผิดชอบสักหน่อย พี่เคยบอกไว้แต่แรกแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถช่วยพี่เอาเพชรนี้กลับคืนมาได้ พี่ก็จะตอบแทนด้วยร่างกายตัวเองแน่นอน” ฮั่วหลิงหลงเอ่ยอย่างจริงจัง

“ไม่ต้องแล้วล่ะ ผมเห็นพี่หลิงหลงเป็นพี่สาวจริงๆ ไม่ได้มีความคิดอย่างอื่น” เจียงเฉิงเอ่ย

ฮั่วหลิงหลงมองแววตาที่หนักแน่นของเจียงเฉิง พลันรู้สึกซาบซึ้งใจ ก่อนจะลงมาจากตัวเจียงเฉิง แล้วใช้นิ้วมือทัดปอยผมที่ข้างหูตัวเอง

“ขอโทษนะ พี่คิดตื้นไปเอง” ฮั่วหลิงหลงถอนหายใจ แล้วนั่งลงบนพื้นอีกครั้ง

เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถอนหายใจ เป็นเพราะได้เพชรกลับคืนมาแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อไป หรือเพราะผู้ชายดีๆอย่างเจียงเฉิงแต่งงานแล้วกันแน่

“ไม่พูดเรื่องนี้ละ นายคงสงสัยมากเลยใช่หรือเปล่าว่าทำไมพี่ถึงอยากได้เพชรเม็ดนี้กลับมาไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม?” ฮั่วหลิงหลงถามเจียงเฉิง

“ใช่ครับ” เจียงเฉิงพยักหน้า

ฮั่วหลิงหลงสูดหายใจลึก ราวกับว่ากำลังจัดการความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย

“แท้จริงแล้ว พ่อแท้ๆของฉันไม่ใช่คนของตระกูลฮั่ว แต่คือคนคนหนึ่ง ที่ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉันเคยได้ยินแม่ฉันเล่าว่า ตอนที่เธอถูกคนของตระกูลฮั่วบีบบังคับให้แต่งงาน เธอก็ท้องฉันแล้ว เพียงแต่คนตระกูลฮั่วยังไม่รู้เท่านั้น”

“ต่อมา ผู้นำตระกูลฮั่ว หรือก็คือพ่อของฮั่วเซาฟง พบว่าฉันหน้าตาไม่ค่อยเหมือนคนตระกูลฮั่ว ก็เลยพาฉันไปตรวจดีเอ็นเอ เมื่อเขารู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวเขา ก็เชื่ออย่างสุดใจว่าแม่ฉันนอกใจเขา เพราะฉะนั้นก็เลยไล่ฉันกับแม่ฉันออกจากบ้าน”

“ฉันยังจำได้ว่าตอนนั้นคนตระกูลฮั่วล้วนแต่เกลียดฉันกับแม่ฉัน ไม่อนุญาตให้ฉันกับแม่เอาของของตระกูลฮั่วไปด้วยแม้แต่ชิ้นเดียว ตอนนั้นฉันกับแม่ถูกไล่ออกจากบ้านด้วยร่างเปลือยเปล่า ปีนั้น ฉันอายุเก้าขวบ”

ขณะที่ฮั่วหลิงหลงพูด น้ำเสียงของเธอก็เริ่มสะอื้น ดวงตาคู่สวยกระพริบ พลันมีน้ำตาไหลลงมาสองสาย

“แล้วพ่อแท้ๆของพี่ล่ะ?” เจียงเฉิงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เช็ดน้ำตาให้ฮั่วหลิงหลงแล้วถาม

ฮั่วหลิงหลงส่ายศีรษะ แขนขาวผ่องกอดเข่าตัวเอง เอ่ยว่า “แม่ฉันไม่ค่อยพูดถึงเขามากนัก เคยพูดแค่ว่า ครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้มอบเพชรเม็ดนี้ให้แม่ฉัน บอกว่าจะรีบกลับมาแต่งงานกับเธอ แต่น่าเสียดายที่นับแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยปรากฏตัวอีก”

“ตอนที่ฉันกับแม่ถูกไล่ออกมา เพชรนี้เองก็ถูกทิ้งไว้ที่ตระกูลฮั่ว เพียงแต่แม่ฉันคิดถึงมันมาโดยตลอด กระทั่งก่อนจากไปก็ยังพูดถึงมัน เพราะฉะนั้นฉันก็เลยต้องเอาเพชรนี้กลับคืนมาให้ได้” ฮั่วหลิงหลงลูบกล่องที่ใส่เพชรดวงดาวแห่งความหวังเอาไว้

เจียงเฉิงเข้าใจแล้ว ว่าทำไมน้องชายเธอถึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอขนาดนั้น ทำไมตอนนั้นที่ฮั่วหลิงหลงดื่มเหล้าและเต้น ถึงได้ดูเศร้าโศกเล็กน้อย

“เอาล่ะ เรื่องราวของฉันเล่าจบแล้ว แต่น่าเสียดายที่เราไม่มีเหล้า” ฮั่วหลิงหลงสูดหายใจเข้าลึก แล้วแสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“คราวหลังถ้ามีโอกาส พวกผมค่อยดื่มด้วยกันก็ได้” เจียงเฉิงยิ้มเอ่ย

“แล้วนายล่ะ?”

“ผม?”

“นายมีเรื่องราวอะไร? ตอนที่พี่เจอนายครั้งแรก ก็รู้สึกว่านายเองก็น่าจะเป็นคนที่มีเรื่องราวมากเหมือนกัน” ฮั่วหลิงหลงยิ้มเอ่ยกับเจียงเฉิง

เจียงเฉิงใจกระตุกวูบ ก็จริง เกรงว่าเรื่องราวของเขาคงจะซับซ้อนกว่าฮั่วหลิงหลงเล็กน้อย เพราะเขาเป็นคนตายที่ได้เกิดใหม่อีกครั้ง

“ผมจะไปมีเรื่องราวอะไรกันล่ะ” เจียงเฉิงโบกมือปฏิเสธ

“ไม่มีเหรอ?” ฮั่วหลิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยว่า “พี่ไม่เชื่อหรอก เมื่อกี้นายเป็นจุดสนใจของงานเลี้ยงเลยนี่ คนธรรมดาทำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกนะ”

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมส่งพี่กลับบ้านเถอะ” เจียงเฉิงมองเวลาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเบา

ฮั่วหลิงหลงพยักหน้า ก่อนที่ทั้งคู่จะไปจากที่นี่ แล้วมาถึงบ้านของฮั่วหลิงหลง

“ไม่ขึ้นไปดื่มเหล้าหน่อยแล้วค่อยกลับเหรอ?” ฮั่วหลิงหลงบิดตัว แล้วยิ้มถามอย่างเย้ายวน

“ไม่ล่ะ ผมกลับบ้านก่อนดีกว่า” เจียงเฉิงกวาดตามองเรือนร่างที่เซ็กซี่เย้ายวนของฮั่วหลิงหลงแวบหนึ่ง นี่ถ้าขึ้นไปดื่มเหล้าจริงๆ เกรงว่าคงจะไม่ได้ลงมาแล้วแน่ ๆ

“ก็จริง ที่บ้านนายยังมีเมียรออยู่เลย”

ฮั่วหลิงหลงพูดไปพลาง เดินมายืนตรงหน้าเจียงเฉิงไปพลาง แขนทั้งสองข้างจะโอบคอของเจียงเฉิง ยื่นศีรษะไปที่ข้างหูของเขา ลมหายใจหอมเป่ารดที่ต้นคอของเจียงเฉิง เอ่ยว่า “แต่คำพูดของพี่ยังมีผลเสมอ ถ้านายต้องการพี่เมื่อไหร่ พี่สามารถให้นายได้เสมอ”

“บายๆ!”

ฮั่วหลิงหลงโบกมือลาแล้วหัวเราะหันตัวเดินเหยียบส้นสูงจากไป

เจียงเฉิงมองเรือนร่างที่เย้ายวนของฮั่วหลิงหลง ในใจเองก็รู้สึกรุ่มร้อน คนทั่วไปถ้าเผชิญกับผู้หญิงที่ยั่วยวนใจขนาดนี้ เกรงว่าก็คงจะจับกดทันทีแล้วสินะ?

เจียงเฉิงส่ายหัว แล้วหันตัวไปขึ้นรถ ก่อนจะไปจากที่นี่ ฮั่วหลิงหลงอยู่ที่ชั้นบน เมื่อเห็นเจียงเฉิงจากไป เธอก็พลันรู้สึกเศร้าใจอย่างไม่บอกไม่ถูก “ถ้านายยังไม่แต่งงานแล้วล่ะก็ คงจะดีขนาดไหน”

ณ สโมสรเขาชิงเฉิน ภายในห้องของติงหวู่ตี๋

“นายพูดจริงงั้นเหรอ?”

ติงหวู่ตี๋มองชายวัยกลางคนพลางถามอย่างตกตะลึง

“จริงครับ ตอนนั้นฟางเจี้ยนกั๋ว ไป๋เว่ยกั๋ว จ้าวฝูหลินและคนใหญ่คนโตมากมายในวงการธุรกิจ ล้วนแต่เป็นฝ่ายไปทักทายเจียงเฉิงก่อน” ชายวัยกลางคนเองก็เข้าร่วมงานเลี้ยงงานประมูลการกุศลที่ฮั่วเซาฟงจัดขึ้น ดังนั้นจึงได้เห็นภาพนี้กับตาตัวเอง

ติงหวู่ตี้ได้ยินดังนั้นก็พลันครุ่นคิดขึ้นมาทันที เอ่ยว่า “ตระกูลฟาง ตระกูลไป๋ ตระกูลจ้าว ล้วนแต่เป็นตระกูลใหญ่ทั้งนั้น อยู่รอบตัวเจ้าหมอนี่กันหมดแบบนี้ เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ”

“จริงสิ ยังมีอีกเรื่อง ตอนนั้นลูกสาวตระกูลหลิงของเมืองหลวงก็อยู่ด้วย อีกทั้งยังจะมอบตัวเป็นศิษย์เจียงเฉิงให้ได้ ถึงขั้นจะพาเจียงเฉิงไปที่เมืองหลวง ซ้ำยังให้คำสัญญาหลายอย่างที่เป็นประโยชน์” ชายวัยกลางคนพูดเสริม

“แม้แต่ตระกูลหลิงของเมืองหลวงก็ยังเห็นเขาสำคัญขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?”

“ใช่ครับ เพียงแต่ผู้ชายที่ชื่อเจียงเฉิงเหมือนจะไม่คอยสนใจ ก็เลยปฏิเสธคุณหนูหลิงทีเดียว”

เคร้ง!

แก้วน้ำในมือของติงหวู่ตี๋พลันตกพื้น ก่อนที่เขาจะถามอย่างตกตะลึงว่า “นายบอกว่าเขาปฏิเสธคำเชิญชวนของตระกูลหลิงงั้นเหรอ?”

“ครับ!”ชายวัยกลางคนพยักหน้าตอบ

“คนคนนี้อาจจะเป็นทายาทเศรษฐีตระกูลใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวง เดาว่าฐานะน่าจะสูงกว่าตระกูลหลิง” ตอนนี้ติงหวู่ตี๋รู้สึกโชคดีมากๆ ที่ไม่เคยไปหาเรื่องเจียงเฉิงก่อนจนเกินไป หน้าผากเขาในตอนนี้มีแต่เหงื่อเย็นผุดเต็มไปหมด

เจียงเฉิงกลับมาถึงบ้านแล้ว ก่อนเข้าบ้านก็ยังเปลี่ยนเสื้อที่ใส่ก่อนหน้าโดยเฉพาะ

“ยังไม่นอนอีกเหรอ” เจียงเฉิงเห็นสวี่ฉิงที่ใส่ชุดนอน พลางยิ้มเอ่ย

“รอนายอยู่” สวี่ฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

“ฉันขอไปอาบน้ำก่อน” เจียงเฉิงพูดแล้วก็กำลังจะเดินไปที่ห้องน้ำ

ทว่าสวี่ฉิงกลับเรียกเจียงเฉิงหยุดทันที “หยุดเดี๋ยวนี้ซะ”

“มีอะไรงั้นเหรอ?”

“บนตัวนาย เหมือนจะมีกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่น” สวี่ฉิงสูดจมูกดม พลางเอ่ยเสียงเบา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง