“นายว่าอะไรนะ?”
หลี่เฟยขมวดคิ้วมองเจียงเฉิง
“ก่อนหน้านี้นายบอกว่า ถ้าฉันรักษาอาการป่วยเป็น นายก็จะกินใบสั่งยึดนี่ลงไป” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ
หลี่เฟยได้ยินเจียงเฉิงพูดดังนั้น ก็พลันโมโหจนหัวเราะ ไม่ว่าใครก็กลั่นแกล้งเขาได้แล้วงั้นเหรอ เกาจินหมิงนั่นกลั่นแกล้งเขาไม่พอ ตอนนี้แม้แต่หมอกระจอกๆก็ยังจะมาเหยียบหัวเขา
“แกคิดว่าแกใช้วิธีต่ำทรามนอกรีตแบบนั้นรักษาคนได้ก็มีสิทธิ์เหิมเกริมแล้วงั้นเหรอ?” หลี่เฟยเอ่ยกับเจียงเฉิงด้วยสายตาเย็นเยือก
“หมอเจียง ช่างเถอะ เรื่องก็จบไปแล้ว” หลินหยุนเอ๋อรีบพูดเตือนเจียงเฉิงทันที
หลี่เฟยเห็นมีคนพูดเตือนเจียงเฉิงก็พลันยิ่งรู้สึกได้ใจ แม้ตัวเองจะเป็นแค่หัวหน้า ทว่าก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญญายึดคลินิกเล็กๆแบบนี้
“มันคนละเรื่องกัน เขาไม่แยกแยะถูกผิดก็จะยึดคลินิกอย่างไม่มีเหตุผล นี่คือการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ต้องสั่งสอนเขาซะบ้าง” เจียงเฉิงเอ่ยอย่างจริงจัง
“นี่แกจะเอาแบบนี้สินะ?”
หลี่เฟยเอ่ยระคนยิ้มเย็นว่า “ทีแรกฉันกะจะไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฉันคงต้องตรวจสอบคลินิกนี่ดีๆซะแล้ว”
หลี่เฟยพูดจบก็พาลูกน้องอีกคนเดินตรวจสอบคลินิกทันที ไม่นานก็ตั้งปัญหามากมายขึ้นมาใส่ร้ายคลินิก
“มาตรฐานด้านสุขอนามัยของคลินิกไม่ผ่าน ด้านในยังมียาหมดอายุลังหนึ่ง ถือว่าผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็เกือบใช้ยาผิด ทำให้เด็กคนหนึ่งเกือบเสียชีวิต ที่กล่าวมาทั้งหมดคือความผิดที่ทำให้คลินิกต้องถูกยึด!”
หลี่เฟยเอ่ยอย่างเคร่งขรึม
“สหาย คุณเข้าใจผิดไปแล้ว เราเพิ่งเปิดคลินิกนี้ได้ไม่นาน ก่อนหน้าก็ผ่านการตรวจสอบด้านสุขอนามัยแล้ว อีกอย่าง ยาที่หมดอายุลังนั้นเราก็กำลังจะเอาไปทิ้งพอดี” หยางเหมยรีบเอ่ยทันที
“ฉันไม่สน ฉันก็แค่พูดตามสถานการณ์ที่ฉันเห็นเท่านั้น” หลี่เฟยพูดแล้วก็มองไปที่เจียงเฉิงอย่างได้ใจทันที
บังอาจมาสู้กับฉัน ดูสิว่าฉันจะขย้ำแกยังไง
“พ่อหนุ่ม รีบขอโทษเขาเถอะ ฉันใช้เงินเก็บทั้งหมดของครอบครัวถึงจะเปิดคลินิกนี้ได้ ถ้าถูกยึดจริงๆแล้วฉันจะใช้ชีวิตยังไง” หยางเหมยรีบเอ่ยกับเจียงเฉิงอย่างร้อนรนใจ
“หมอเจียง อย่ามุทะลุเลยนะ นายสู้เขาไม่ได้หรอก” หลินหยุนเอ๋อเองก็เอ่ยกับเจียงเฉิงเสียงเบา
ดังคำกล่าวที่ว่า เมื่อเจอปัญหาให้หาคนรับผิดชอบโดยตรงดีกว่าหาหัวหน้า หลี่เฟยก็คือผู้รับผิดชอบตรวจสอบด้านสุขอนามัย หากเขาบอกว่าไม่ผ่าน ก็จะหาจุดที่ไม่ผ่านออกมาได้เสมอ
เจียงเฉิงได้ยินแม่ลูกหยางเหมยพูดดังนั้นเองก็พยักหน้า ก่อนจะเดินไปหาหลี่เฟย
“เหอะๆ ตอนนี้อยากมาขอโทษแล้วงั้นเหรอ? สายไปแล้ว!” หลี่เฟยเอ่ยอย่างได้ใจ
“ใครบอกว่าฉันจะขอโทษนาย? ฉันแค่จะบอกว่า ถ้านายใช้อำนาจโดยมิชอบแบบนี้ ฉันก็ทำได้เพียงต้องเรียกอธิบดีพวกนายมาจัดการนายแล้ว” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเย็น
หลี่เฟยอึ้งชะงัก จากนั้นก็ราวกับว่าได้ยินเรื่องน่าขบขัน พลันอดหัวเราะไม่ได้
“ฮ่า ๆ แกบอกว่าจะเรียกอธิบดีพวกฉันมางั้นเหรอ? หมอกระจอกอย่างแกจะรู้จักกับอธิบดีพวกฉันได้ยังไง?” หลี่เฟยพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
“นายไม่เชื่องั้นเหรอ?”
“ฉันเชื่อๆ!”
หลี่เฟยเอ่ยกับเจียงเฉิงว่า “นายเรียกอธิบดีพวกฉันมาเถอะ ฉันจะได้ตำหนิเขาสักหน่อย ว่าทำไมถึงไปรู้จักกับพวกสวะได้”
เจียงเฉิงแค่นยิ้มเสียงเย็น แล้วเอามือถือออกมาทันที ก่อนจะกดโทรหาคุณต่ง
เมื่อเห็นเจียงเฉิงเอามือถือออกมากดโทรออกจริงๆ หลี่เฟยก็มองเจียงเฉิงด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาไม่เชื่อว่าหรอกว่าหมอกระจอกในคลินิกแบบนี้อย่างเจียงเฉิงจะรู้จักกับคุณต่งจริงๆ
เพราะคุณต่งตำแหน่งสูงใหญ่ขนาดนั้น เขายังแทบไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ
“สิบนาที” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง