ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 167

แม้ว่าฮั่วหลิงหลงจะพูดแบบนี้ แต่ลึกๆในใจเธอก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เจอพ่อแท้ๆ ของเธอ ท้ายที่สุดแล้วนั่นคือคนที่แม่ของเธอจำไม่เคยลืมมาก่อน

“ครั้งที่แล้วที่คุณกลับบ้าน เป็นอย่างไรบ้าง” ฮั่วหลิงหลงเปลี่ยนเรื่องและถามเจียงเฉิง

“ครั้งที่แล้วที่กลับบ้าน?”

“ภรรยาของคุณไม่ได้ลงโทษคุณเหรอ?” ฮั่วหลิงหลงถามด้วยรอยยิ้ม

เจียงเฉิงตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจทันที ที่แท้แล้วฮั่วหลิงหลงจงใจเข้าใกล้ตัวเอง แล้วทิ้งกลิ่นน้ำหอมติดตัวเองกลับไป

“นอนบนพื้นไปทั้งคืน” เจียงเฉิงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

“คุณนี่จริงๆเลย ฐานะที่เป็นผู้ชาย หลังจากที่ได้กุ๊กกิ๊กกับผู้หญิงอื่นแล้ว กลับบ้านต้องกำจัดกลิ่นที่ติดตัวไป คถุณไม่รู้เหรอ?” ฮั่วหลิงหลงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

เจียงเฉิงยิ่งหมดหนทาง เขาไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์อะไรกับฮั่วหลิงหลงเลย เธอเองต่างหากที่เข้ามาใกล้ตัวเขาเอง

ขณะที่เจียงเฉิงและฮั่วหลิงหลงเข้าไปในรถพร้อมพูดคุยหัวเราะอย่างสนุกสนาน และตอนที่ขับรถออกไปจากที่นั่น มีร่างเงาแอบมองมาทางพวกเขาอย่างลับๆ

“นายท่าน ชายที่ชื่อเจียงเฉิงไปกับคุณหนูอีกแล้ว” เสียงหญิงสาวกระซิบใส่เครื่องส่งรับวิทยุที่อยู่ข้างหู

“แน่ใจหรือว่าเขาไม่ใช่ภัยคุกคามต่อหลิงหลง” เสียงชายที่แหบห้าวและทุ้มลึกดีงมาจากเครื่องส่งรับวิทยุ

“ยังไม่แน่ใจ” หญิงสาวพูดเบาๆ

“ปกป้องเธอให้ดี มิฉะนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แกเองก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่เหมือนกัน” เสียงแหบห้าวของเขามีความโกรธแฝงเล็กน้อย หลังจากพูดจบเขาก็วางสาย

ผู้หญิงคนนั้นออกมาจากที่มืด เธอสวมชุดกีฬา ใบหน้าของเธองดงามละเอียดอ่อน เธอคือเซี่ยยี่จิง ที่รับผิดชอบทำชุดราตรีให้กับเจียงเฉิง

เธอไม่แน่ใจว่าเจียงเฉิงเข้าใกล้ฮั่วหลิงหลงด้วยความหวังดีหรือปองร้าย อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีความประทับใจที่ดีต่อเจียงเฉิงเท่าไหร่นัก ครั้งที่แล้วเธออยู่ในห้องแต่งตัว เขาเกือบจะถอดเสื้อผ้าเธอออกหมด

ณ สโมสรเขาชิงเฉิน ในห้องของติงหวู่ตี๋

“พี่อู๋ตี๋ ทางจีเจ๋อมีการเคลื่อนไหวแล้ว” ลูกน้องรีบวิ่งเข้ามาที่ห้องของติงหวู่ตี๋เพื่อรายงาน

“ฮั่วเซาฟงและจี้เจ๋อหาคนได้เท่าไหร่?” ติงหวู่ตี๋เล็มเล็บของเขาอยู่ และถามด้วยเสียงเบา

"แค่หนึ่งคน!"

“มีแค่คนเดียวเหรอ?” ติงหวู่ตี๋ถามและขมวดคิ้วทันที

“ใช่ มีแค่คนเดียว ผมเห็นกับตา” ลูกน้องรีบรายงาน

“รู้ไหมว่าเป็นใคร”

“ไม่รู้ แต่คนของเราติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ในรถของจี้เจ๋อ” ลูกน้องกล่าว

“ดีเลย ต่อสายบันทึกเสียงมาหาฉันเดี๋ยวนี้” ติงหวู่ตี๋สั่งอย่างรวดเร็ว

"ครับ!"

ติงหวู่ตี๋รู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการทดสอบเจียงเฉิง หลังจากคืนนี้เขาจะรู้ว่าเขาควรเลือกอยู่ในทีมไหน

“นายแน่ใจหรือว่าสามารถรอเจียงเฉิงที่นี่ได้?” ฮั่วเซาฟงถามขณะนั่งอยู่ในรถและมองออกไปข้างนอก

“คุณชายฮั่ว ไม่ต้องห่วง ผมสืบมาแล้ว ทุกครั้งที่ทางฮั่วหลิงหลงมีเหล้าใหม่เข้ามา มันก็จะมาเอาทุกครั้ง” จี้เจ๋อพูดกับฮั่วเซาฟงด้วยรอยยิ้ม

ฮั่วเซาฟงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ดี วันนี้ฉันจะส่งเด็กนั่นไปตายซะ และถึงเวลานั้นภรรยาของเขาจะเป็นของนาย”

“ครับ ครับ คุณชายฮั่วพูดถูก” จี้เจ๋อพูดตามน้ำ และในขณะเดียวกัน เขาก็หันศีรษะและเหลือบมองด้านหลัง

มีชายสวมแว่นกันแดดนั่งอยู่ตรงเบาะหลัง สวมแว่นกันแดดตอนกลางคืน ทำให้เขาดูแปลกๆ

ใต้แว่นดำมีจมูกที่โด่งดูดี และชายคนนั้นมีแผลเป็นยาวบนใบหน้า รอยแผลมีตั้งแต่ขมับยาวถึงคาง รอยแผลเป็นที่น่ากลัวเช่นนี้ เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าตอนนั้นอาการบาดเจ็บของเขาน่าจะร้ายแรงมาก

“คุณชายฮั่ว เราพาคนมาแค่คนเดียว จะไหวเหรอ?” จี้เจ๋อรู้ว่าเจียงเฉิงมีความสามารถแค่ไหน ถึงคนเยอะก็อาจจะเอาเขาไม่อยู่ แต่ตอนนี้กลับพามาแค่1คน เขาเองก็เป็นห่วงเหมือนกัน

“คุณชายจี้ คุณไม่รู้ซะแล้ว บางทีมีคนเยอะก็ไม่อาจจะได้ผลอะไร แต่บางครั้งคนเพียง1คน สามารถต่อสู้กับคนเป็นสิบเป็นร้อยได้” ฮั่วเซาฟงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“งั้นเหรอ? ฟังจากที่คุณชายฮั่วพูดมา คนคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถสูงเหรอ?” จี้เจ๋อถามด้วยความสงสัย

“แน่นอนสิ ฉันเชิญบุคคลนี้มาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเงินจำนวนมาก และถ้าฉันพูดถึงชื่อเขา คุณน่าจะเคยได้ยินเหมือนกัน” ฮั่วเซาฟงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ

" ชื่ออะไร?"

“ไท่หลง!”

“ไท่... ไท่หลง?”

เสียงของจี้เจ๋อสูงขึ้นหลายเดซิเบล

ในเวลาเดียวกัน ติงหวู่ตี๋ได้ยินสิ่งนี้อย่างชัดเจน

“ไท่หลงงั้นเหรอ?”

รูม่านตาของติงหวู่ตี๋ หดตัวลงอย่างกะทันหัน และทุกคนก็ตกตะลึง

สำหรับคนนี้ คนอย่างติงหวู่ตี๋จะรู้ดีไม่มากก็น้อย

ไท่หลงมีชื่อเสียงในวงการมวยใต้ดินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความโหดเหี้ยมของเขาเหลือทน ในเวทีมวยใต้ดิน เขาชกไป 96 ครั้ง ชนะ 96 ครั้ง และคู่ต่อสู้ของเขาทั้งหมดตายด้วยหมัดเหล็กของไท่หลงโดยไม่มีข้อยกเว้น

เคยมีนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ยั่วยุไท่หลงจนโกรธเคือง ไท่หลงจึงสังหารครอบครัวของนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในชั่วข้ามคืน

ถึงไท่หลงจะไม่ใช่ทหารรับจ้าง แต่เป็นหมือนทหารรับจ้าง เขารับแต่เงิน ตราบใดที่ราคาเหมาะสม เขาสามารถทำงานให้ใครก็ได้

“คราวนี้ ไอ้หนุ่มนั้นถึงวาระแล้ว” ติงหวู่ตี๋บ่นทันที แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจียงเฉิงเก่งในการต่อสู้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับนักฆ่าตัวจริงประเภทนี้แล้ว มันเป็นเหมือนการต่อสู้สำหรับเด็กๆ

“เตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้ไปที่คฤหาสน์ของจี้เจ๋อ” ติงหวู่ตี๋สั่งลูกน้องของเขาทันที

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเจียงเฉิงเป็นคุณชายของครอบครัวตระกูลใหญ่ที่แฝงตัวมา สามารถประจบได้ แต่คืนนี้ยังไงเขาก็ต้องตาย ฉะนั้นเขาเลือกประจบจี้เจ๋อจะดีกว่า

“น่าทึ่งมาก คุณชายฮั่ว คุณสามารถเชิญคนระดับนี้มาได้” จี้เจ๋อพูดกับฮั่วเซาฟงอย่างรวดเร็ว

“แค่มีเงินแม้แต่ผีก็สั่งได้” ฮั่วเซาฟงพูดเบาๆ

“แต่ก็ต้องสามารถเข้าถึงด้วย” จี้เจ๋อเข้าใจดี คนโหดเหี้ยมอย่างไท่หลง คนธรรมดาไม่มีทางติดต่อกับเขาได้ เห็นได้ชัดว่าการพึ่งพาตระกูลใหญ่ ก็จะสามารถเข้าหาคนได้ทุกประเภท

“วันนี้มีคุณไท่หลงอยู่ เจียงเฉิงตายแน่” จี้เจ๋อพูดอย่างภาคภูมิใจ

เมื่อฮั่วเซาฟงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็หัวเราะอย่างภาคภูมิใจในทันที และทันใดนั้นเขาก็เห็นลัมโบร์กีนีกำลังขับรถเข้ามา

“ คุณชายฮั่ว นี่คือรถของเจียงเฉิง” จี้เจ๋อรู้จักรถของเจียงเฉิง เขาเร่งตะโกนบอกทันที

“โอเค ฉันรู้แล้ว” ฮั่วเซาฟงพยักหน้าและลงจากรถ จี้เจ๋อก็เดินตาม

“พี่สาวที่แสนดีของผม ทำไมวันนี้ไม่ใส่เสื้อผ้าที่เซ็กซี่แล้วล่ะ?” ฮั่วเซาฟงเดินไปหาฮั่วหลิงหลง

“นายนี่เอง? นายมาหาฉันอีกทำไม?” ฮั่วหลิงหลงเจอฮั่วเซาฟง และสีหน้าของเธอก็ไม่พอใจในทันที

“ทำไมน่ะเหรอ? ถ้าเป็นไปได้ผมอยากมีอะไรกับคุณน่ะสิ” ฮั่วเซาฟงมองดูร่างกายเซ็กซี่ของฮั่วหลิงหลง

"นายนี่มัน..."

ฮั่วหลิงหลงยังไม่ได้พูดอะไร เจียงเฉิงก็ดึงแขนเธอเอาเธอไปอยู่ข้างหลังตัวเอง เขามองไปที่ฮั่วเส้าฟงด้วยความเย็นชา และบอกว่า “ ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ นายจะได้จากไปอย่างมีเกียรติ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง