ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 178

“ลุงใหญ่?”

เจียงเฉิงขมวดคิ้วมองไปที่สวี่จื้อกั๋วทันที

อันที่จริงเจียงเฉิงเคยเจอกับสวี่จื้อกั๋วตั้งแต่คราวก่อนแล้ว อีกทั้งยังเป็นเพราะอาการป่วยของน้องชายครูคนสวยเฉินเหยาอีกต่างหาก ตอนนั้นเขาเคยตบหน้าสวี่จื้อกั๋วเต็มแรงอย่างไม่ไว้หน้า

แม้ตอนนั้นเจียงเฉิงจะรู้ว่าคณบดีเสิ่นปิงเรียกคนคนนี้ว่าศาสตราจารย์สวี่ แต่เขาคาดคิดไม่ถึง ว่าคนคนนี้จะเป็นญาติกับสวี่ฉิง ซึ่งเป็นลุงใหญ่ของสวี่ฉิง ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินตระกูลสวี่พูดถึงมาก่อนเลย

“หึ” สวี่จื้อกั๋วได้ยินเจียงเฉิงเอ่ยเสียงสงสัยก็พลันขมวดคิ้วมองไปที่เจียงเฉิงทันที เขาไม่ชอบเจียงเฉิงมากๆ เป็นลูกเขยไร้น้ำยาแต่งเข้าบ้านตระกูลสวี่ไม่พอ ซ้ำยังชอบทำแต่อะไรที่นอกรีตแปลกประหลาด

“สวี่ฉิง ครั้งนี้ที่ฉันมาหลูหยาง อย่างแรกคือเพื่อมาทำวิจัย อย่างที่สองคือมีเรืองส่วนตัวกับพ่อเธอนิดหน่อย อย่าจะนัดเขามากินข้าวด้วยกัน” สวี่จื้อกั๋วมองสวี่ฉิงและเอ่ยอย่างจริงจัง

“ลุงใหญ่ พ่อฉันค่อนข้างยุ่งในวันปกติน่ะ น่าจะไม่มีเวลา” สวี่ฉิงกลับเอ่ยปฏิเสธทีเดียวด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรเล็กน้อย

เพียงครู่หนึ่งเจียงเฉิงก็มองออกแล้ว ว่าแม้สวี่ฉิงจะเรียกสวี่จื้อกั๋วว่าลุงใหญ่ ทว่ากลับไม่ได้ชอบเขามากนัก

“สวี่ฉิง ไม่ว่ายังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าทะเลาะกันจนตึงเกินไปจะดีกว่า ไม่งั้นครอบครัวพวกเธอ คงไม่มีวันจะกลับมาในตระกูลได้อีก” สวี่จื้อกั๋วเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

“เหอะๆ ตระกูลแบบนั้น ไม่กลับไปก็ได้” สวี่ฉิงพูดจบก็เข้าไปในโรงพยาบาล

เจียงเฉิงกำลังจะเข้าไป สวี่จื้อกั๋วกลับเอ่ยว่า “นายชื่อเจียงเฉิงสินะ?”

“ครับ” เจียงเฉิงดูออกว่าสวี่ฉิงไม่ได้ชอบลุงคนนี้มากนัก ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกอีกฝ่ายว่าลุงใหญ่

“ถ้านับตามรุ่น นายควรจะเรียกฉันว่าลุงใหญ่ แต่ฉันไม่ชอบนายมากๆ” สวี่จื้อกั๋วเอ่ยเสียงเย็น

“บังเอิญจังเลยครับ ผมเองก็ไม่ชอบคุณ” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

“นาย—“

สวี่จื้อกั๋วคิดไม่ถึงว่าเจียงเฉิงจะกล้าเถียงเขาแบบนี้ เพราะเขาได้ยินมาว่าเจียงเฉิงเป็นคนที่ห่วยแตกมากๆ ตอนนี้ดูแล้วไม่น่าจะเป็นแบบนั้น

“ฉันรู้ว่านายคือลูกเขยแต่งเข้าบ้านที่สวี่ฉิงขอ แล้วรู้ด้วยว่าแต่ก่อนนายห่วยแตกขนาดไหน คนอย่างนายไม่เหมาะสมกับสวี่ฉิง ฉันอยากให้นายไปจากเธอโดยเร็ว” สวี่จื้อกั๋วเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง

“ทำไม?”

“ไม่ทำไม แม้สวี่จื้อจุนจะไปจากตระกูลสวี่แล้ว แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงเป็นคนของตระกูลสวี่อยู่ดี การแต่งงานของลูกสาวเขา ก็ย่อมต้องให้ตระกูลสวี่ตัดสินใจ” สวี่จื้อกั๋วเอ่ยเสียงเย็น

เจียงเฉิงจึงจะเข้าใจ ที่แท้สวี่จื้อกั๋วก็มาเพราะเรื่องของสวี่ฉิงนี่เอง เพราะเขารู้สึกว่าเจียงเฉิงไม่เหมาะสมกับเธอ

“ถ้าเป็นเรื่องนี้ คุณคงต้องมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ เพราะผมไม่มีทางไปจากสวี่ฉิง เธอเองก็ไม่มีทางไปจากผม” เจียงเฉิงพูดจบก็เดินเข้าไปในโรงพยาบาล

“นาย......”

สวี่จื้อกั๋วกำลังจะพูดอะไรอีกสักหน่อย จู่ ๆก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลอดมาจากด้านนอก

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยได้”

เจียงเฉิงกับสวี่จื้อกั๋วหันศีรษะ ก็เห็นชายกำยำเสื้อดำคนหนึ่งอุ้มเด็กหนุ่มที่เลือดอาบตัววิ่งเข้ามา

“เกิดอะไรขึ้น?”

สวี่จื้อกั๋วเห็นแล้วก็รีบตรงดิ่งไปหาทันที เพราะตอนนี้เขากำลังทำวิจัยที่นี่ หากเกิดเรื่องขึ้นก็ต้องคอยช่วยเหลือดูแล

“เขา......”

“เด็กหนุ่มคนนี้น่าจะประสบอุบัติเหตุรถยนต์ที่ค่อนข้างรุนแรง ดูจากสถานการณ์แล้วกระดูกขาหักทั้งสองข้าง ศีรษะได้รับบาดเจ็บ ซี่โครงหัก อาการค่อนข้างสาหัส” เจียงเฉิงมองดูอาการของเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยทันที

อีกทั้งเจียงเฉิงรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้คุ้นตามาก เหมือนจะเป็นเด็กหนุ่มในบอยกรุ๊ปหนึ่งที่น้องสาวเขาชอบ ชื่อ ไห่หยางบอยส์

“นายเพ้อเจ้ออะไรน่ะ ยังไม่ผ่านการตรวจมาก่อน นายกล้าพูดจาส่งเดชได้ยังไง?” สวี่จื้อกั๋วตะคอกใส่เจียงเฉิงทันที เพราะเขามาในฐานะศาสตราจารย์ จะยอมให้เจียงเฉิงแย่งซีนได้ยังไงกัน

“ผมพูดจริง อาการของเขา มีแต่ผมที่รักษาได้” เจียงเฉิงจับชีพจรของผู้บาดเจ็บครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเบา

เจียงเฉิงรู้สึกได้ ว่าอาการบาดเจ็บของคนคนนี้สาหัสกว่าอาการของฟางหลันหลันในตอนนั้น ซึ่งอาการบาดเจ็บของศีรษะค่อนข้างสาหัส

“เพ้อเจ้อ อาการแบบนี้มีเพียงแพทย์แผนตะวันตกเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ แพทย์แผนจีนอย่างนายอย่ามาเกะกะที่นี่จะดีกว่า” สวี่จื้อกั๋วเอ่ยเสียงเย็น

เดิมทีสวี่จื้อกั๋วก็ดูแคลนเจียงเฉิงอยู่แล้ว อีกทั้งในสายตาเขาแพทย์แผนจีนก็เป็นเพียงปาหี่ที่หลอกลวงคน แม้ครั้งก่อนจะฟลุกรักษาผู้ป่วยจนหายได้ ทว่าเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะดวงดีเท่านั้น

“คุณสองคนใครพูดถูกกันแน่? ถ้ายืดเยื้อจนอาการสาหัสกว่าเดิม ประธานไห่ไม่มีทางปล่อยพวกคุณไปแน่” ชายกำยำเสื้อดำเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนรน

“ประธานไห่?”

สวี่จื้อกั๋วรู้จักประธานไห่คนนี้ดี นั่นคือยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของเครื่องมือทางการแพทย์ของทั้งมณฑลหัวตงเชียวนะ อย่าว่าแต่เมืองหลูหยางเลย แม้จะอยู่ในทั้งมณฑล ก็ไม่มีใครที่ไม่เกรงใจประธานไห่

เจียงเฉิงได้ยินนามสกุลไห่ก็รู้ในทันที ว่าเขาก็คือไห่จื่อของบอยกรุ๊ปที่น้องสาวเขาชอบที่สุด ส่วนอีกคนก็ชื่อหยางจื่อ

“งั้นเรารีบไปตรวจกันก่อนเถอะ” สวี่จื้อกั๋วไม่สนใจคำวินิจฉัยของเจียงเฉิง พลันให้พยาบาลทำการตรวจทันที

ไม่นานผลการตรวจก็ออกมา สวี่จื้อกั๋วมองดูใบผลตรวจครู่หนึ่ง พบว่าอาการของผู้บาดเจ็บเหมือนคำวินิจฉัยเมื่อก่อนหน้านี้ของเจียงเฉิงทุกประการ

“ดี ในเมื่อผลตรวจออกมาแล้ว งั้นคุณรีบเตรียมการผ่าตัดเถอะ” ชายกำยำเสื้อดำไม่อยากให้เด็กหนุ่มที่ตัวเองดูแลเกิดอะไรขึ้น พลันรีบเอ่ยอย่างร้อนรน

“น้องชาย ถ้าเป็นอาการแบบนี้ เครื่องมือแพทย์ของที่นี่ผมไม่มั่นใจจริงๆว่าจะรักษาได้ ถ้าอยู่ในมณฑลแล้วล่ะก็ ผมก็ยังมีความมั่นใจบ้าง” สวี่จื้อกั๋วเห็นอาการบาดเจ็บแล้วก็รู้ว่าไม่มีหวังแล้ว แม้จะช่วยชีวิตกลับมาได้ แต่ก็จะกลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ดี

“คุณว่าอะไรนะ?” ชายกำยำเสื้อดำได้ยินดังนั้นก็โมโหทันที พลันยื่นมือดึงคอเสื้อของของเขาอย่างฉับพลัน

“ผมพูดจริง ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ก็รักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว คุณรีบย้ายไปโรงพยาบาลอื่นจะดีกว่า” สวี่จื้อกั๋วรีบเอ่ย

“แกจะให้ฉันย้ายไปไหน?” ชายกำยำเสื้อดำตะคอกเสียงโกรธเกรี้ยว

“คุณอย่าโมโหใส่ผม ผมเป็นศาสตราจารย์จากมณฑลที่มาทำวิจัย ไม่ใช่หมอของที่นี่” สวี่จื้อกั๋วรีบเอ่ย

“ฉันไม่สน แกต้องรักษาเขาให้หาย” ชายกำยำตะคอกอย่างไม่ยอม

“อาการบาดเจ็บของเขายืดเยื้อต่อไปไม่ได้แล้ว” เจียงเฉิงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย

“นายช่วยเขาได้?”

ชายกำยำเห็นดังนั้นก็ปล่อยสวี่จื้อกั๋วออกทันที แล้วเดินมาตรงหน้าเจียงเฉิง

“ได้” เจียงเฉิงตอบเสียงเบา

“คุณอย่าเชื่อเขานะ เขาเป็นแค่หมอแพทย์แผนจีน จะรักษาอาการบาดเจ็บแบบนี้ได้ยังไง” สวี่จื้อกั๋วรีบเอ่ย

“งั้นแกมารักษาสิ” ชายกำยำก่นด่า

“ผมทำไม่ได้ๆ” สวี่จื้อกั๋วปฏิเสธโบกมือรัวๆ

“ทำไม่ได้แล้วยังจะพล่ามเยอะอีก” ตอนนี้ชายกำยำร้อนรนจนแทบบ้า ดังนั้นอารมณ์จึงฉุนเฉียวมาก

“ไม่ต้องไปห้องผ่าตัดแล้ว รักษาที่นี่เลย” เจียงเฉิงสั่งให้พยาบาลไปเอาเข็ม ถุงน้ำเกลือ ถุงมือ และกรรไกร

“นาย......”

สวี่จื้อกั๋วกำลังจะบอกว่าถ้าจะเชื่อมกระดูก จำเป็นต้องอยู่ในห้องผ่าตัดที่ปราศจากเชื้อโรคเท่านั้น ทว่าเขามองชายกำยำแวบหนึ่ง พลันกลืนคำพูดลงคอทันที

ได้ใจไปเถอะ รอตอนที่เชื่อมกระดูกแล้วติดเชื้อขึ้นมา ฉันจะคอยดูว่าแกจะจัดการยังไง สวี่จื้อกั๋วลอบเอ่ยในใจ

เมื่อเจียงเฉิงเตรียมการเสร็จ เขาก็สวมถุงมือแพทย์ ไม่ได้ผ่าผิวของผู้บาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ กลับกดตรงจุดแตกหักของกระดูกทีเดียว จากนั้นก็ซี่โครงที่ยุบลงไปอย่างเห็นได้ชัดก็นูนขึ้นแล้วเชื่อมต่อกันใหม่

“นี่......นี่คือวิชาจับกระดูกงั้นเหรอ?” สวี่จื้อกั๋วเห็นดังนั้นก็พลันตกตะลึงทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง