ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 180

หลินเซิ่งเหวินอยู่ด้านนอกห้องเรียนสอนเต้น พลางถือดอกไม้หนึ่งช่อไว้ในมือ ได้ยินเฉินเหยาพูดดังนั้นก็ไม่รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย

“คุณครูเฉินเหยา ถึงคุณแจ้งความผมก็ไม่กลัว ผมเอาดอกไม้มาสารภาพรักกับคุณ โจ่งแจ้งขนาดนี้ ตำรวจไม่สนใจหรอก” หลินเซิ่งเหวินเอ่ยอย่างได้ใจ

“ฉันบอกแล้ว ว่าฉันมีแฟนแล้ว นายอย่ามาตื๊อฉันอีกเลย” ตอนนี้เฉินเหยาเริ่มรู้สึกกลัวแล้วจริงๆ

เพราะเฉินเหยาเพิ่งเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ ว่าหลินเซิ่งเหวินมักจะชอบตามจีบคุณครูผู้หญิงในโรงเรียน แต่ก่อนก็เคยจีบคุณครูผู้หญิงคนหนึ่ง ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่ตอบตกลง หลินเซิ่งเหวินก็พาคนบุกเข้าไปในห้องทำงาน แล้วย่ำยีคุณครูคนนั้นในห้อง

เฉินเหยานึกถึงเหตุการณ์แบบนั้น ในใจก็รู้สึกถึงแต่ความหวาดกลัว ถ้าเธอเองก็ต้องถูกคนขืนใจ งั้นเธอยอมกระโดดตึกฆ่าตัวตายซะยังจะดีกว่า

“คุณครูเฉินเหยา อย่ามาหลอกผมเลยน่า ผมรู้นะว่าคุณไม่มีแฟน เมื่อความรักมาถึงก็อย่าปฏิเสธเลย” หลินเซิ่งเหวินมองเข้าไปในห้องสอนเต้นไปพลาง ยิ้มเอ่ยไปพลาง

ตอนนี้เฉินเหยาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าคนเลวนี่คงไม่มีทางจากไป ตอนนี้ก็ทำได้เพียงต้องรอเจียงเฉิงปรากฏตัวแล้ว

“เป็นไงบ้าง?”

หลินเซิ่งเหวินมองดูลูกน้องที่กำลังสะเดาะกลอนประตู พลันรีบเอ่ยถาม

“อีกนิดแล้ว พี่เหวิน” ลูกน้องคนนี้จับลวดเหล็กเสียบเข้าไปในรูกุญแจ พลางรีบตอบกลับ

ขณะที่พูด ก็ได้ยินเสียงแกรกของกลอนประตู หลินเซิ่งเหวินเห็นดังนั้นก็เปิดประตูห้องเรียนบุกเข้าไปทันที

เฉินเหยานึกว่าล็อกประตูแล้วอีกฝ่ายจะเข้ามาไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าจะบุกเข้ามาได้ง่ายๆแบบนี้

“นาย......นายออกไปนะ” เฉินเหยาตกใจจนรีบจับไม้ถูข้างๆไว้หมับ แล้วชี้ไปที่หลินเซิ่งเหวิน

“วันนี้คุณครูเฉินเหยาแต่งตัวสวยจังครับ” หลินเซิ่งเหวินมองเฉินเหยาด้วยสายตาหื่นกาม พลางยิ้มเอ่ย

ก็จริง เดิมทีเฉินเหยาก็เรียนเต้นอยู่แล้ว รูปร่างดีออร่าจับ วันนี้เธอตั้งใจแต่งตัวสวย กลับคิดไม่ถึงว่าจะตกเป็นเป้าหมายของหลินเซิ่งเหวิน

“เมื่อกี้ฉันแจ้งความไปแล้วจริงๆ นายไปตอนนี้ก็ยังทัน” เฉินเหยาถอยหลังไปพลาง พูดเตือนไปพลาง

หลินเซิ่งเหวินแค่นยิ้มเสียงเย็น เขากวาดตามองห้องสอนเต้นรอบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยว่า “ไม่เลว กระจกเยอะใช้ได้ ถ้าทำอะไรกันตรงนี้ต้องเร้าใจมากแน่ ๆ”

“ไปถอดเสื้อเธอซะ” หลินเซิ่งเหวินเองก็ไม่อยากยืดเยื้อแล้ว พลันตะโกนเอ่ยทันที

ได้ยินหลินเซิ่งเหวินพูดดังนั้น ลูกน้องของเขาก็รีบไปล้อมตัวเฉินเหยาเอาไว้

คราวนี้เฉินเหยากลัวแล้วจริงๆ เธอรีบเหวี่ยงไม้ถูในมือทันที ทว่าเธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่นานไม้ถูก็ถูกแย่งไป ก่อนที่พวกผู้ชายจะดึงตัวเฉินเหยาเอาไว้

“ไอ้สารเลว ปล่อยฉัน!”

เฉินเหยาดิ้นรนไม่หยุด เพราะดิ้นรนรุนแรงเกินไป จนกระดุมเสื้อตรงหน้าอกหลุด พลันเผยหน้าอกอวบอิ่มออกมาไม่น้อย ทำให้สายตาของหลินเซิ่งเหวินยิ่งหื่นกามมากขึ้น

“ฮ่า ๆ คนที่ต้องตาฉัน ยังไม่มีใครสามารถหนีรอดไปได้” หลินเซิ่งเหวินยิ้มร้ายไปพลาง ยื่นมือไปยังหน้าอกของเฉินเหยาไปพลาง

เฉินเหยาไม่อยากถูกคนแปดเปื้อนจริงๆ เธอเห็นว่าหลินเซิ่งเหวินจะลงมือกับเธอ ก็พลันยิ่งดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เพียงครู่หนึ่งเธอก็ขืนตัวออกจากลูกน้องข้างๆ ขณะเดียวกันก็ตวัดขาเรียวยาวเตะไปยังจุดสำคัญของหลินเซิ่งเหวิน

อ้าก—

หลินเซิ่งเหวินกรีดร้องทันที แล้วใช้มือกุมด้านล่างของตัวเองเอาไว้

“พี่เหวิน พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ลูกน้องคนหนึ่งรีบถามหลินเซิ่งเหวิน

“ไม่เป็นไรแม่แกสิ แกมาลองดูไหม” หลินเซิ่งเหวินตะโกนเสียงอย่างอดกลั้นความเจ็บปวด

เดิมทีเฉินเหยาอยากจะวิ่งไปที่ประตู ทว่าตรงประตูเองก็ลูกน้องของหลินเซิ่งเหวิน เธอจึงทำได้เพียงเดินไปที่ริมหน้าต่างทีละก้าว

“ยังยืนบื้อทำอะไรอีก ไปจับตัวไว้ซะ แม่งเอ้ย พูดด้วยดีๆไม่เอาต้องให้ใช้กำลัง ฉันไม่เพียงแค่จะย่ำยีมัน แต่จะถ่ายรูปโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตด้วย” หลินเซิ่งเหวินมองเฉินเหยาอย่างโกรธเกรี้ยว

เฉินเหยาได้ยินดังนั้นก็ยิ่งตระหนกกว่าเดิม พวกลูกน้องก็กำลังจะมาจับเธอ

“ไสหัวไปซะ!”

เฉินเหยาจับแขนของลูกน้องคนหนึ่งเอาไว้ ก่อนจะกัดเต็มแรง

“อ้าก—“

ลูกน้องคนนี้กรัดร้องอย่างเจ็บปวด เจ็บจนปล่อยแขนของเฉินเหยาออก เฉินเหยาใช้โอกาสนี้พุ่งตัวขึ้นไปยืนบนริมหน้าต่างทันที เอ่ยว่า “พวกแกอย่าเข้ามา ไม่งั้นฉันจะโดดลงไป”

การกระทำของเฉินเหยาทำให้ลูกน้องพวกนั้นสะดุ้งตกใจ แม้พวกเขาจะอยากมาลวนลามคนสวย ทว่าก็ยังคงไม่อยากให้มีคนตาย

“พวกสวะ แค่ผู้หญิงคนเดียวก็จับเอาไว้ไม่ได้!” หลินเซิ่งเหวินสบถด่า

“นี่ชั้นหกเลยนะ เธอกล้าโดดลงไปเหรอ?”

เฉินเหยารีบมองลงไปแวบหนึ่ง ก็จริงที่มันสูงมากๆ ถ้ากระโดดลงไป แม้จะไม่ตาย แต่ก็ต้องพิการแน่ ๆ

“ทำไมฉันจะไม่กล้า? ถ้าพวกนายบีบบังคับฉันอีก ฉันจะกระโดดลงไปจริงๆแน่” แม้เฉินเหยาจะกลัว ทว่าเธอกลัวถูกคนย่ำยีแล้วถ่ายรูปมากกว่า ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว

“งั้นเหรอ?”

หลินเซิ่งเหวินแค่นยิ้มเสียงเย็น เอ่ยว่า “ไปลากตัวมันลงมา มันไม่กล้าโดดหรอก”

พวกลูกน้องสบตามองหน้ากันครู่หนึ่ง ต่างไม่มีใครก้าวไปข้างหน้า เพราะหากพวกเขาลงมือ แล้วถ้ามีคนตายขึ้นมาก็จะเป็นความผิดของพวกเขา

“ฉันให้พวกแกคนละสองร้อย มันไม่กล้ากระโดดแน่ ๆ” หลินเซิ่งเหวินเอ่ย

พวกลูกน้องได้ยินว่าได้เงินเพิ่ม แต่ก็ยังไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอยู่ดี เพราะนี่มันชีวิตคนเลยนะ

“พวกสวะ!”

หลินเซิ่งเหวินเห็นไม่มีใครกล้าไป ก็พลันเดินไปหาเฉินเหยาเองทันที

เฉินเหยาเห็นหลินเซิ่งเหวินเดินมาแล้วจริงๆ ในใจเธอก็พลันรู้สึกตระหนก เธอเองก็ไม่รู้ว่าถ้ากระโดดลงไปแล้วจะเป็นยังไงบ้าง แต่ไม่กระโดดตอนนี้ก็ไม่ได้แล้ว เธอไม่อยากถูกคนย่ำยี

“น้องชาย ต่อจากนี้ไป นายต้องพึ่งตัวเองแล้ว”

เฉินเหยารวบรวมความกล้า ก่อนจะกระโดดลงไปจากหน้าต่างทีเดียว ฉับพลันนั้น เธอรู้สึกได้ถึงความไร้น้ำหนัก ร่างกายหล่นลงไปสู่พื้นอย่างรวดเร็ว

“พี่เหวิน เธอกระโดดลงไปแล้วจริงๆ!”

พวกลูกน้องต่างสะดุ้งตกใจ พลันรีบตะโกนทันที

“ต้องให้พวกแกพูดพล่ามหรือไง ฉันเห็นแล้ว” หลินเซิ่งเหวินเองก็ตกใจเช่นกัน กระโดดลงไปจากที่สูงขนาดนี้ อาจจะตายได้จริงๆ

ตอนที่เฉินเหยากำลังรอให้ร่างกายกสัมผัสกับพื้นคอนกรีต จู่ ๆเธอก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองหล่นมาอยู่ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่ง ไม่ได้กระแทกลงบนพื้น

เฉินเหยาลืมตาขึ้นทันที พลันเห็นหน้าข้างของเจียงเฉิง

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เพราะเจียงเฉิงอุ้มอย่างค่อนข้างกะทันหัน ดังนั้นมือข้างหนึ่งของเขาจึงอุ้มเข่าของเฉินเหยาเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็แตะบนหน้าอวบอิ่มของเฉินเหยาโดยไม่ตั้งใจ ไม่อาจไม่พูดได้ว่า บางส่วนของร่างกายคนเรียนเต้นก็มักจะเต่งตึงและเด้ง

เพราะเกิดเรื่องขึ้นอย่างกะทันหัน ดังนั้นเฉินเหยาจึงยังไม่รู้ตัว ไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ทำเพียงแค่มองหน้าของเจียงเฉิงอย่างเหม่อลอย

“เฉินเหยา?”

เจียงเฉิงเรียกเธออีกครั้ง เฉินเหยาจึงจะเริ่มรู้สึกตัว

“ไม่เป็นไร” ใจของเฉินเหยาที่เดิมทีกระสับกระส่าย เมื่อเห็นเจียงเฉิงก็พลันสงบลงในพริบตา ก่อนที่เธอจะอดร้องไห้ในอ้อมกอดของเจียงเฉิงไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง