เฉินเหยาตกใจกลัวแทบแย่ ถึงยังไงเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงอายุยี่สิบกว่าปีมาฝึกงาน ผลสรุปกลับต้องมาประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ สำหรับเธอมันถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
เธอไม่ได้ลงมาจากบนตัวของเจียงเฉิง และไม่รู้สึกว่ามือของเจียงเฉิงอยู่ผิดที่ด้วย เธอระบายความเสียใจออกมาทั้งแบบนี้เลย
เจียงเฉิงเองก็สัมผัสได้ว่าเฉินเหยาตกใจจริงๆ แต่ความรู้สึกที่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนคือ หน้าอกหน้าใจของเฉินเหยากดทับที่แผ่นอกของตัวเองอยู่
“พอแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว”เจียงเฉิงปลอบโยนเฉินเหยาที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“อืม”
เฉินเหยาตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากนั้นเธอถึงได้ลงจากแผ่นอกของเจียงเฉิง แล้วลุกขึ้นยืน
พอดีกับตอนนี้หลินเซิ่งเหวินพาคนวิ่งลงมาจากด้านบน เดิมทีหลินเซิ่งเหวินร้อนใจจนอยากจะวิ่งหนีไปอย่างนี้เลย เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเฉินเหยาจะกล้ากระโดดตึกลงมา
กระโดดลงมาจากชั้นหก อาจจะตายได้ พอถึงตอนนั้นเขาก็พัวพันกับคดีฆาตกรรมแล้ว ต่อให้ครอบครัวตัวเองมีเส้นสาย ก็ไม่สามารถจัดการคดีเกี่ยวกับคนตายได้อย่างราบรื่นหรอก
เดิมทีหลินเซิ่งเหวินนึกว่าเฉินเหยาตกลงมาตายแล้วแน่ๆ แต่พอมาถึงด้านล่าง คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้เห็นเฉินเหยายืนปกติไม่มีบาดแผลอยู่ อีกทั้งข้างกายของเธอยังมีผู้ชายยืนอยู่ด้วยคนหนึ่ง
“เชี่ยมันไม่ตาย กูตกใจหมดเลย”หลินเซิ่งเหวินก่นด่าออกมาเงียบๆ ทันใดนั้นก็รีบวางมาดทันที
“ไอ้บ้า มึงไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงคนนี้กูชอบพอถูกใจ? ไสหัวไปตอนนี้เลย”หลินเซิ่งเหวินเดินสาวเท้าก้าวอาจๆมาทางเจียงเฉิง แม้แต่พวกลูกน้องของเขาเหล่านั้น พอเห็นว่าคนมีชีวิตรอดอยู่ ก็ต่างพากันทยอยเหิมเกริมขึ้นมา
นอกจากหลินเซิ่งเหวินจะชอบกลั่นแกล้งรังแกผู้หญิงแล้ว ยังมีงานอดิเรกอีกอย่างคือกลั่นแกล้งคนอ่อนแอกว่า เจียงเฉิงตัวคนเดียว อีกอย่างมองดูแล้วไม่ใช่คนแข็งแกร่งอะไร เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก
“แกชอบถูกใจผู้หญิงคนนี้เหรอ?”
เจียงเฉิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น พูดว่า“เวลาแกปฏิบัติกับผู้หญิงที่แกชอบ แกก็คือต้องบีบบังคับจนเธอต้องกระโดดตึกใช่ไหม?”
“ใครบอกมึงว่ากูบังคับมันกระโดดตึก เป็นตัวมันเองที่ไม่ระมัดระวังตกลงไป ”หลินเซิ่งเหวินพูดกับเจียงเฉิงด้วยสายตาเย็นชา ส่วนพวกลูกน้องของเขาก็ล้อมรอบเฉินเหยากับเจียงเฉิงไว้ตรงกลางแล้ว
“แกพูดซี้ซั้ว ชัดเจนว่าแกบังคับเข้าไปในห้องเรียน แกอยากจะบังคับฝืนใจฉัน ฉันถูกบีบบังคับจนต้องกระโดดลงตึก”
เฉินเหยาปฏิเสธตอบโต้ พร้อมกับมองบริเวณโดยรอบ เห็นคนมารายล้อมตั้งมากมาย เจียงเฉิงตัวคนเดียว เธอหวาดกลัวจับที่แขนของเจียงเฉิงไว้แน่นขนัด
“ได้ยินแล้วใช่ไหม?เธอไม่ได้อยากอยู่กับแก อีกอย่าง ฉันเป็นแฟนของเธอ ถ้าหากแกยังกล้ามาวอแวเธออีก ฉันจะทำให้แกเป็นผู้ชายไม่ได้อีกเลย ไสหัวไป”เจียงเฉิงสบถด่าอย่างเย็นชา
เฉินเหยาที่เกาะรัดแขนของเจียงเฉิง พอได้ยินเจียงเฉิงบอกว่าเป็นแฟนของตัวเอง เธอรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันที
หลินเซิ่งเหวินได้ยินคำพูดตรงทื่อของเจียงเฉิง เลยไม่พอใจทันที เขาเป็นคนข่มขู่คนอื่นตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ยังไม่มีคนกล้าข่มขู่เขาแบบนี้เลย
“ไอ้บ้าเอ๊ย เดิมทีมึงไสหัวไปแบบว่านอนสอนง่ายมันก็ไม่มีอะไรแล้วนะ วันนี้ไม่สั่งสอนมึงสักหน่อย มึงคงไม่รู้จริงๆว่าทำไมเลือดออกมาเยอะ จัดการมันให้กู”หลินเซิ่งเหวินร้องตะโกนขึ้น
เฉินเหยาเห็นสถานการณ์นี่ คิดจะดึงลากเจียงเฉิงวิ่งหนี แต่เธอเพิ่งจะหันหน้า ก็ไม่เห็นเจียงเฉิงแล้ว
เธอรู้สึกแค่ว่ามีลมพัดผ่าน ลูกน้องเหล่านั้นที่หลินเซิ่งเหวินพามาต่างพากันเปล่งเสียงร้องอาโอ๊ยโอดโอยดังมา
เจียงเฉิงสะบัดฝ่ามือข้างหนึ่ง ก็ทำให้คนลอย จนปากกลบเลือดนอนอยู่บนพื้นได้ เวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว คนสิบกว่าคนก็นอนโอดโอยอยู่บนพื้นแล้ว
“แค่ร่ำรวยมีเงินทอง ก็รังแกคนแบบนี้ อยากดูถูกเหยียดหยามครู อีกนิดหนึ่งเกือบจะเอาชีวิตคนแล้ว เดนสังคมแบบพวกแก ไม่คู่ควรจะเป็นคน”เจียงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เพราะความวุ่นวายทางด้านนี้ คนที่ยังไม่ได้ไปจำนวนมากต่างพากันมามุงดู ได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง ถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนจำนวนมากเอาโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิปบันทึกภาพ และพากันทยอยตำหนิหลินเซิ่งเหวิน
เฉินเหยาเห็นสถานการณ์แบบนี้ ดวงตาคู่สวยมีความตื่นตันแฉลบผ่าน เธอรู้ว่าฝีมือทางการแพทย์ของเจียงเฉิงเก่งสุดยอด แต่คิดไม่ถึงว่าสู้กับคนก็เก่งด้วย คิดไม่ถึงว่าคนคนเดียวจะสู้ตีกับคนสิบคนจนล้มลงได้
ที่เฉินเหยาไม่มีแฟนมาตลอด เพราะว่าเธอยังไม่เจอคนที่เหมาะสมถูกใจ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าในที่สุดก็ได้เจอเจ้าชายขี่ม้าขาวที่เหมาะสมคู่ควรแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง