“ชุนเซียว ไม่เจอกันนานเลย”พอเจียงหลายเข้ามาก็ทักทายซ่งชุนเซียว
“ใช่ๆ เหอะๆ”ซ่งชุนเซียวโบกมือทักทายเจียงหลายแบบธรรมดาทั่วไป ส่วนหลี่เฟยเหลือบสายตามองเล็กน้อยไม่ได้สนใจเจียงหลาย
หลี่เฟยกับซ่งชุนเซียวเป็นคนที่เลือกปฏิบัติ รู้ว่าครอบครัวของเจียงหลายยากจน เลยไม่ได้เห็นเจียงหลายอยู่ในสายตา
เจียงหลายเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็รู้สึกอึดอัดกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกทันที เจียงเฉิงเองก็ดูออก คนเหล่านี้ปฏิบัติกับน้องสาวเขาอย่างเย็นชามาก
“เจียงหลาย จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?”เจิ้งไคทักทายเจียงหลายด้วยความเป็นมิตร
“เจิ้งไค แน่นอนว่าฉันจำได้ คุณชายตระกูลร่ำรวยของห้องพวกเรา จบมัธยมศึกษาตอนต้นแล้วก็ไปเมืองหลวง”เจียงหลายพูดยิ้มทักทาย
“คุณชายตระกูลร่ำรวยที่ไหนกัน ก็แค่ทรัพย์สมบัติเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง”เจิ้งไคมองพิจารณาเจียงหลายสักพักหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า“ไม่เจอกันไม่กี่ปี เธอสวยขึ้นเรื่อยๆเชียวนะ”
เจียงหลายสวมใส่ชุดเดรสจีวองชี่ที่ครั้งก่อนเจียงเฉิงซื้อให้ เลยทำให้คนทั้งคนดูสง่า เมื่อก่อนเจิ้งไคก็รู้สึกดีๆกับเจียงหลาย แต่น่าเสียดายเจียงหลายไม่ได้อะไรกับเขา
“ชุดที่เธอใส่ ใช่จีวองชี่ไหม? ฉันจำได้ว่ายี่ห้อนี้แพงนะ”เจิ้งไคเหลือบมองสักพักหนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยความตื่นตะลึง
“ใช่แล้ว นี่คือ…..”
เจียงหลายยังไม่ทันได้พูดว่าเจียงเฉิงซื้อให้ ซ่งชุนเซียวก็พูดถากถางขึ้นว่า“อย่างครอบครัวของเธอ จะซื้อชุดเดรสจีวองชี่ได้เหรอ? น่าจะเป็นของปลอมละไหม?”
“นั่นนะสิ จนก็คือจน ครอบครัวเธอน่าจะเช่าบ้านอยู่สินะ แสร้งเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวย ก็ไม่รู้จักอายซะเลย”หลี่เฟยก็พูดดูถูกเหยียดหยามอยู่ด้านข้างเหมือนกัน
“พวกเธอ…..”เจียงหลายดวงตาแดงก่ำทันที เธอเห็นคนพวกนี้เป็นเพื่อนที่สำคัญของตัวเอง คิดไม่ถึงพวกเขาจะพูดคำเหล่านี้ออกมาได้
“ชุดนี้ฉันเป็นคนซื้อให้เธอเอง มีปัญหาอะไรไหม?”เจียงเฉิงเห็นสถานการณ์แบบนี้เลยเดินขึ้นมาพูด
“นาย…..”
วู้ว!
ซ่งชุนเซียวอดหัวเราะไม่ได้ พูดว่า“นายดูตัวเองก่อนนะว่าแต่งตัวอะไรยังไง อีกอย่างจะซื้อชุดที่แพงหูฉี่ได้เหรอ”
หลี่เฟยก็ส่ายศีรษะหัวเราะอย่างเย็นชา เพราะชุดที่เจียงเฉิงใส่นั้นมันก็ราคาถูกจริงๆนั่นแหละ
“พี่ นั่งลงเถอะ”เจียงหลายก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เมื่อก่อนก็เป็นเพื่อนกัน เลยไม่อยากจะโวยวายให้สถานการณ์อึดอัด เจียงหลายเลยดึงเจียงเฉิงไปนั่ง
“เจียงหลาย ฉันจำได้ว่าพี่ชายของเธอไม่ใช่ว่าตายแล้วเหรอ? นี่คือพี่ชายบุญธรรมใช่ไหม?”ซ่งชุนเซียวได้ยินที่เจียงหลายเรียก เลยถามด้วยความแปลกใจ
พอเจียงหลายได้ยินน้ำเสียงการถามแบบนี้ของซ่งชุนเซียว ก็รู้สึกไม่ดีทันที
“ไม่เกี่ยวกับเธอ”เจียงหลายพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เดี๋ยว ทำท่าทางอะไรของเธอ ฉันแค่ถามด้วยความเป็นห่วง”ซ่งชุนเซียวบ่นพึมพำขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“พอแล้ว ชุนเซียว วันนี้เพื่อนเก่ามาพบปะกัน เธอพูดเรื่องนั้นทำไมกัน”เจิ้งไคพูดไกล่เกลี่ยอยู่อีกด้านหนึ่ง
ซ่งชุนเซียวได้ยินเจิ้งไคพูด ถึงได้เงียบไป แต่ยังคงใช้สายตามองเจียงหลายด้วยความไม่พอใจเหมือนเดิม
“เราชื่ออะไรเหรอ?”เจิ้งไคยิ้มยื่นมือให้เจียงเฉิง
“เจียงเฉิง”เจียงเฉิงพูดอย่างราบเรียบ และจับมือของเจิ้งไคเหมือนกัน
แม้เจิ้งไคจะยิ้มออกมาบางๆ แต่เขาบีบที่มือของเจียงเฉิงแน่นขนัด เพราะเขาชอบเจียงหลาย เจียงเฉิงไม่ใช่พี่ชายของเจียงหลายแน่นอน แต่เป็นแฟน แน่นอนว่าเขาอยากให้เจียงเฉิงอึดอัด
หลี่เฟยอยู่อีกด้านเห็นสถานการณ์นี้ ก็เลยรู้ว่าเจิ้งไคอยากจับมือเจียงเฉิงเพื่อทำให้เจียงเฉิงอึดอัดทนไม่ไหว ตอนมัธยมต้นเขาเคยเรียนเทควันโด้ แรงที่มือแข็งแกร่ง คนธรรมดาทั่วไปสู้กันไม่กี่วินาทีก็ทนไม่ไหวแล้ว
ตอนที่หลี่เฟยกำลังคิด ก็เห็นเจิ้งไคกับเจียงเฉิงจับมือกันอยู่ สถานการณ์ตึงเครียด หนึ่งวินาทีก็ไม่ถึง
“เศษสวะ หนึ่งวินาทีก็ทนไม่ไหว”หลี่เฟยมองไปทางเจียงเฉิงสายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง