ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 196

ได้ยินเจียงเฉิงพูดดังนั้น เซียวเย่หรันก็พลันหน้าแดงก่ำ ครั้งก่อนเธอถูกเจียงเฉิงฉีกถุงน่องก็น่าอายมากพอแล้ว ครั้งนี้ถึงขั้นต้องแก้ผ้าเลยงั้นเหรอ

“ต้องทำแบบนี้จริงๆเหรอ?” เซียวเย่หรันถามด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ

“ใช่ ที่คุณรู้สึกไม่สบายตัว เพราะเดิมทีร่างกายคุณเย็นอยู่แล้ว ประกอบกับเจอลมจากภายนอก จึงจำเป็นต้องใช้เข็มร้อนในการฝังเข็ม แล้วยังจำเป็นต้องนวดทุยหนาด้วย ถ้าใส่เสื้อก็จะลำบากมาก” เจียงเฉิงเอ่ยอย่างจริงจัง

“ไม่ใช่ให้คุณยืนเปลือยต่อหน้าผม คุณแค่นอนคว่ำบนเตียงก็พอแล้ว” เจียงเฉิงเอ่ยเสริม

เซียวเย่หรันคิดไม่ถึงว่าปัญหาร่างกายตัวเองจะค่อนข้างสาหัสพอสมควร ทว่าเพื่อเพื่อให้ฟื้นฟูกลับมา เธอก็ทำได้เพียงตอบตกลงว่า “ก็ได้ งั้นไปบ้านฉันเถอะ”

เจียงเฉิงตอบรับคำหนึ่ง จากนั้นทั้งคู่ก็ไปจากที่นี่ แล้วไปถึงบ้านของเซียวเย่หรัน

ทันทีที่เจียงเฉิงเดินเข้าบ้านเซียวเย่หรัน เขาก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นโชยจมูก การตกแต่งภายในบ้านเองก็ค่อนข้างเรียบง่าย

“คุณรอฉันก่อน ฉันบอกให้คุณเข้ามาคุณค่อยเข้ามา” เซียวเย่หรันพูดแล้วก็เข้าไปในห้องนอนตัวเอง

เจียงเฉิงรออยู่ด้านนอกสักพัก เซียวเย่หรันจึงจะเอ่ยว่า “เอาล่ะ คุณเข้ามาเถอะ”

เจียงเฉิงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ก็เห็นเซียวเย่หรันนอนคว่ำอยู่บนเตียงแล้ว ท่อนล่างถูกปกปิดด้วยผ้าห่ม เผยแผ่นหลังที่ขาวเนียน

“แบบนี้ได้ใช่ไหม?” เซียวเย่หรันหันศีรษะมาทางเจียงเฉิงด้วยใบหน้าแดงก่ำแล้วเอ่ยถาม

“ได้” เจียงเฉิงพูดแล้วก็นั่งลงข้างกายเซียวเย่หรัน ก่อนจะเอาเข็มที่เตรียมเอาไว้ออกมา

เจียงเฉิงใช้มือกดไหล่ของเซียวเย่หรัน เซียวเย่หรันก็สัมผัสได้ถึงฝ่ามือของเจียงเฉิง ร่างกายพลันสั่นสะท้านเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร ไม่เจ็บ” เจียงเฉิงนึกว่าเซียวเย่หรันกลัวเจ็บ พลันรีบเอ่ยทันที

อันที่จริงเซียวเย่หรันไม่ได้กลัวเจ็บ แต่คือร่างกายของเธอไม่ได้สัมผัสกับเพศตรงข้ามมานานแล้ว

เจียงเฉิงเริ่มฝังเข็มให้เซียวเย่หรันช้าๆ เมื่อฝังเข็มเสร็จ ก็ใช้มือทั้งสองข้างกดเอวของเซียวเย่หรันแล้วนวดทุยหนาเบาๆ

“ร้อนจัง” หน้าผากของเซียวเย่หรันมีเหงื่อไหลซึม พลางเอ่ยเสียงเบา

“นี่คือการฝังเข็มร้อน เพื่อระบายความหนาวเย็นในร่างกายคุณ ก็จริงที่จะรู้สึกร้อนมาก” เจียงเฉิงกดนวดเอวของเซียวเย่หรันพลางอธิบายไปด้วย

เซียวเย่หรันไม่ใช่แค่รู้สึกร้อนเพราะเข็มบนแผ่นหลัง มือของเจียงเฉิงที่กดบนเอวเธอเองก็ทำให้เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าว

ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป เจียงเฉิงจึงจะเก็บเข็ม เซียวเย่หรันเองก็เปลี่ยนเสื้อ และรู้สึกว่าสบายตัวขึ้นมากจริงๆ

“แบบนี้ฉันก็หายแล้วใช่ไหม?” เซียวเย่หรันถาม

“หนึ่งครั้งยังไม่พอ ต้องทำอีกครั้งถึงจะหายดี ถ้ามีเวลาผมค่อยมาหาคุณอีกที” เจียงเฉิงยิ้มเอ่ย

“อืม เรื่องยูนิฝ่างฉันจะลงทุนเต็มจำนวน ส่วนกำไรเราก็แบ่งกันคนละครึ่ง” เซียวเย่หรันเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้ถูกเหลี่ยวเฟยเจี๋ยขัดจังหวะ ยังไม่ทันได้พูดเรื่องสำคัญเลย

เจียงเฉิงไม่มีความเห็นอะไร เอ่ยว่า “ได้ งั้นก็ตกลงตามนี้”"

เจียงเฉิงไปจากบ้านเซียวเย่หรันก็กลับมาที่โรงพยาบาล จะไปรับสวี่ฉิงเลิกงาน

ณ โรงพยาบาลเมืองหลูหยางที่หนึ่ง ภายในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง

หญิงวัยกลางคนพยุงลูกสาวนอนลงบนเตียงตรวจ พลันรีบเอ่ยว่า “ลูกสาวฉันเรียนอยู่แล้วบอกว่าปวดท้องจนทนไม่ได้ ฉันไปหาหมอที่คลินิก แต่หมอบอกว่าเป็นอาการปวดประจำเดือน แค่กินยาแก้ปวดก็หายแล้ว แต่นี่กินไปแล้วสองแผงก็ยังไม่หายดีเลย”

“หลังจากนั้นก็มีผู้ชายขาเป๋คนหนึ่ง บอกว่าให้มาหาคุณที่นี่ มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ พวกเราก็เลยมาที่นี่” หญิงวัยกลางคนเป็นห่วงลูกสาวตัวเองมากๆ พลางเอ่ยอย่างกระวนกระวายใจ

ผู้ชายขาเป๋?

แม้ในใจเจียงเฉิงจะรู้สึกสงสัย ทว่าก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาตรวจอาการอย่างตั้งใจ จากนั้นก็ปล่อยมือออก เอ่ยว่า “สาวน้อย เธอหิวหรือเปล่า?”

หญิงวัยกลางคนได้ยินเจียงเฉิงพูดดังนั้นก็พลันอึ้งชะงัก ลูกสาวเขาปวดประจำเดือน ถามว่าหิวไม่หิวไปเพื่ออะไรกัน?

“เมื่อวานปวดรุนแรงมากๆ แล้วไม่ได้กินอะไรเลย ก็รู้สึกหิวมากจริงๆ” หญิงสาวเอ่ยอย่างฝืนทนความเจ็บปวด

“อืม งั้นก็ถูกแล้ว ลูกสาวคุณไม่มีปัญหาอะไร กินอะไรหน่อยก็หายดีแล้ว” เจียงเฉิงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย

คราวนี้หญิงวัยกลางยิ่งช็อกหนักกว่าเดิม รีบเอ่ยว่า “คุณหมอ ลูกสาวฉันปวดประจำเดือน ไม่ได้ปวดเพราะหิวข้าว คุณคงไม่ใช่ว่าแยกไม่ออกหรอกใช่ไหม?”

“ผมแยกออก อาการแบบนี้ก็คือหิว ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น” เจียงเฉิงยิ้มเอ่ยว่า “คุณเชื่อผม แค่เธอกินอะไรลงท้องหน่อย แป๊บเดียวก็หายแล้ว”

หญิงสาวได้ยินคำตอบแบบนี้เองลังเลเล็กน้อย ทว่าเธอก็ยังไม่ได้กินอะไรเพราะรู้สึกปวดท้องจริงๆ เพราะเธอปวดจนกินอะไรไม่ลง

หญิงวัยกลางคนยิ่งไม่เชื่อเจียงเฉิงเข้าไปใหญ่ ลูกสาวเธอปวดรุนแรงขนาดนี้ จะใช่แค่หิวได้ยังไง? หมอนี่เป็นหมอเถื่อนหรือเปล่า?

คิดไปคิดมาหญิงวัยกลางคนก็ยังคงไม่ไว้ใจ ไม่น่าพึ่งพากว่าหมอที่คลินิกเสียอีก คิดได้ดังนั้นก็จะพาลูกสาวจากไปทันที

“พี่ครับ ถ้าพี่พาเธอไป กินยาไปก็ไม่หายหรอกนะ ต้องกินข้าวเท่านั้นถึงจะหาย” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง